Omdia ได้เผยแพร่รายงานฉบับล่าสุด
Omdia Universe: Global Cloud Service Provider, 2025 โดยจัดให้ หัวเว่ย คลาวด์ อยู่ในกลุ่ม ผู้นำ (Leader) ทั้งในด้านศักยภาพของโซลูชัน รวมถึงด้านกลยุทธ์และการดำเนินงาน พร้อมทั้งยกให้ หัวเว่ย คลาวด์ เป็นผู้นำในกลุ่มผู้ให้บริการจากจีน
และได้รับการจัดอันดับเป็นอันดับหนึ่งของโลกด้านกลยุทธ์และนวัตกรรม
รายงาน Omdia Universe ได้ทำการประเมินผู้ให้บริการคลาวด์จาก 3 มิติหลัก ได้แก่ ศักยภาพของโซลูชัน (แกน X), กลยุทธ์และการดำเนินงาน (แกน Y) และ ความแข็งแกร่งของการมีอยู่ในตลาด (ขนาดของวงกลม) โดยครอบคลุมการบริการสำคัญ เช่น IaaS, PaaS, ฐานข้อมูล, AI, คอนเทนเนอร์, เอดจ์คลาวด์ และบริการอื่นๆ
ในรายงานได้เน้นย้ำถึงความมุ่งมั่นของหัวเว่ย คลาวด์ในการพัฒนาบริการคลาวด์ที่สามารถปรับขยายได้ (scalable) ปลอดภัย และขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรม โดยหัวเว่ย คลาวด์มีผลการประเมินโดดเด่นในสามหมวดหมู่ย่อย ได้แก่ ความปลอดภัยและการปฏิบัติตามข้อกำหนด (security and compliance) , มาร์เก็ตเพลส (marketplace) และการสนับสนุนและการบริการลูกค้า (support and customer service) นอกจากนี้ แบบสำรวจลูกค้าแบบไม่เปิดเผยชื่อยังสะท้อนผลลัพธ์ที่โดดเด่น โดยหัวเว่ย คลาวด์ได้รับคะแนนความพึงพอใจด้านการสนับสนุนและการบริการลูกค้าสูงถึง 99% และคะแนนความเต็มใจที่จะแนะนำ 96%
ในด้าน Infrastructure as a Service (IaaS): หัวเว่ยได้ยกระดับแพลตฟอร์มการประมวลผลด้าน AI ปรับแพลตฟอร์มการประมวลผลจากสถาปัตยกรรมแบบดั้งเดิมที่เป็นโมโนลิธิกและใช้งานทั่วไป สู่โครงสร้างพื้นฐานคลาวด์แบบ AI-native บนพื้นฐานของ CloudMatrix ซึ่งช่วยให้สามารถจัดสรรทรัพยากรได้อย่างยืดหยุ่น เชื่อมต่อแบบเพียร์ทูเพียร์ และและรองรับการประมวลผล AI ขนาดใหญ่ที่ต้องการทั้งประสิทธิภาพ ความเสถียร และความคล่องตัว นอกจากนี้ โครงสร้างพื้นฐานคลาวด์ระดับโลกของหัวเว่ยอย่าง KooVerse ครอบคลุม 101 availability zones ใน 34 ภูมิภาคทั่วโลก ปัจจุบันให้บริการลูกค้าในกว่า 170 ประเทศและภูมิภาคทั่วโลก
ในมิติ Technology as a Service หัวเว่ยเดินหน้าลงทุนด้านวิจัยและพัฒนาอย่างต่อเนื่อง โดยอาศัยศักยภาพของวิศวกรมากกว่า 100,000 คน และงบลงทุนด้านการวิจัยและพัฒนา (R&D) มูลค่าหลายหมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปี เพื่อนำเสนอเทคโนโลยีชั้นนำระดับแนวหน้า อาทิ AI ด้านการกำกับดูแลข้อมูล (data governance) และการพัฒนาซอฟต์แวร์ ให้แก่ลูกค้า พันธมิตร และนักพัฒนาในหลากหลายอุตสาหกรรมผ่านบริการคลาวด์ นอกจากนี้หัวเว่ย คลาวด์ ยังได้พัฒนาแพลตฟอร์มสำคัญได้แก่ ModelArts, DataArts และ CodeArts เพื่อเป็นฐานขับเคลื่อนนวัตกรรมและปลดล็อกมูลค่าเพิ่มบนคลาวด์ในหลากหลายอุตสาหกรรม
ด้าน Expertise as a Service: หัวเว่ย คลาวด์ ได้ผสานประสบการณ์และองค์ความรู้จากทั้งภายในและภายนอกองค์กร เพื่อสั่งสมองค์ความรู้เชิงอุตสาหกรรมอย่างเป็นระบบ ร่วมมือกับพันธมิตรในการพัฒนาโซลูชันสำหรับอุตสาหกรรมมากกว่า 600 โซลูชัน และได้เปิดตัว AI Application Marketplace สำหรับลูกค้าองค์กร (B2B) แห่งแรกของอุตสาหกรรม ซึ่งรวบรวมโซลูชัน AI ระดับชั้นนำมากกว่า 1,000 รายการ เพื่อส่งเสริมการพัฒนาร่วมกันในระบบนิเวศ
หัวเว่ย คลาวด์ ได้ให้บริการโครงการคลาวด์ภาครัฐมากกว่า 800 โครงการ สถาบันการเงินกว่า 600 แห่ง ครอบคลุม 90% ของบริษัทอินเทอร์เน็ตในจีน และ 95% ของผู้ผลิตยานยนต์ 30 อันดับแรกของจีน นอกจากนี้ องค์กรในอุตสาหกรรมระบบนิเวศแบบเปิดสำหรับการขับขี่อัตโนมัติของจีนกว่า 80% เลือกพัฒนาแพลตฟอร์มและระบบของตนบนหัวเว่ย คลาวด์ ขณะเดียวกัน ฐานผู้ใช้ของบริการ AI Compute Service ได้เติบโตขึ้นเป็น 2,156 ราย ซึ่งขยายตัวมากกว่าหกเท่าเมื่อเทียบกับช่วงก่อนหน้า
หัวเว่ย คลาวด์ยังคงลงทุนอย่างต่อเนื่องในด้าน AI และเทคโนโลยีการประมวลผล โดยอาศัยการผสานศักยภาพของซอฟต์แวร์ ฮาร์ดแวร์ และชิป ควบคู่กับนวัตกรรมเชิงระบบ เพื่อยกระดับบริการคลาวด์และสร้างคุณค่าที่ยั่งยืนให้กับลูกค้าในระยะยาว
เกี่ยวกับหัวเว่ย
หัวเว่ย คือผู้นำด้านโครงสร้างพื้นฐานเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร
(ICT) และสมาร์ทดีไวซ์
ที่ก่อตั้งขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2530
โดยหัวเว่ยมีพนักงานกว่า 207,000 คน ดำเนินธุรกิจในกว่า 170 ประเทศทั่วโลก
ให้บริการผู้คนมากกว่า 3,000 ล้านคนทั่วโลก
วิสัยทัศน์และพันธกิจของหัวเว่ย คือการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาสู่การใช้งานทุกระดับเพื่อทุกผู้คน ทุกครัวเรือน และทุกองค์กร เพื่อวางรากฐานให้แก่โลกอัจฉริยะ หัวเว่ยได้ส่งมอบการประมวลผลคอมพิวเตอร์หลากหลายรูปแบบทุกที่ ทุกเวลาที่คุณต้องการ เพื่อนำเทคโนโลยีคลาวด์และความอัจฉริยะเข้าสู่ทั่วทุกมุมโลก สร้างแพลตฟอร์มดิจิทัลที่จะช่วยทุกภาคอุตสาหกรรม ทุกองค์กร ให้มีความยืดหยุ่น มีประสิทธิภาพ และมีพลวัตร รวมทั้งสร้างนิยามใหม่ให้แก่ประสบการณ์การใช้งานของผู้ใช้ด้วย AI เพื่อเสริมสร้างความชาญฉลาด และออกแบบให้ตอบรับกับความต้องการเฉพาะของผู้คนในทุกแง่มุมของชีวิต ทั้งการใช้ชีวิตที่บ้าน ระหว่างการเดินทาง ที่ออฟฟิศ ในการสันทนาการ หรือแม้แต่ระหว่างการออกกำลังกาย