นาทีนี้คงไม่มีแกดเจ็ตในโลกของสินทรัพย์ดิจิทัลชิ้นไหนที่ถูก
“จับตามอง” และเป็นกระแสที่ผู้คนพูดถึงมากไปกว่า “Ledger” แบรนด์เทคโนโลยีระดับยูนิคอร์นจากประเทศฝรั่งเศส
ผู้สร้างมาตรฐานใหม่ให้กับวงการคริปโต ในฐานะผู้พัฒนา Hardware Wallet อันดับ 1 ของโลก โดย ฮาร์ดแวร์วอลเล็ต คืออุปกรณ์ที่เปรียบเสมือน “ตู้เซฟนิรภัยส่วนตัว”
สำหรับเก็บรักษา Private Key (กุญแจส่วนตัว) แบบออฟไลน์หรือ Cold
Storage ช่วยลดความเสี่ยงจากการถูกแฮกและการโจรกรรมทางออนไลน์ ทำให้คุณสามารถถือครองและควบคุมสินทรัพย์ดิจิทัลได้ด้วยตัวเองอย่างแท้จริง
(Self-Custody) โดยไม่ต้องพึ่งพาตัวกลาง
วันนี้
Ledger
พร้อมตอบรับทุกความสนใจในตลาดไทยผ่านการร่วมมือกับบริษัท อาร์ทีบี เทคโนโลยี
จำกัด (RTB) ตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการ เพื่อยกระดับประสบการณ์การเป็นเจ้าของที่เหนือกว่าและมั่นใจที่สุด
ไฮไลต์สำคัญของความร่วมมือครั้งนี้คือการทลายกำแพงความกังวลเดิม ๆ ด้วยช่องทางการจัดจำหน่ายที่ตอบโจทย์ครบทุกด้าน
ทั้งช่องทางออฟไลน์ที่เปิดโอกาสให้ลูกค้าได้สัมผัสและทดลองใช้งานจริงที่หน้าร้านก่อนตัดสินใจซื้อ
และช่องทางออนไลน์ที่เน้นความสะดวก สั่งง่าย ส่งไว การันตีของแท้ 100% หมดห่วงเรื่องของหิ้วหรือสินค้าปลอม
พร้อมอุ่นใจในระยะยาวด้วยบริการหลังการขายแบบครบวงจร
ความเคลื่อนไหวครั้งสำคัญนี้ยังมาพร้อมกับการเปิดตัวฮาร์ดแวร์วอลเล็ต 5 รุ่นใหม่ล่าสุด ได้แก่ Ledger Stax™ with Ledger Recovery Key, Ledger Flex™ with Ledger Recovery Key, Ledger Nano Gen5 with Ledger Recovery Key, Ledger Nano X และ Ledger Nano S Plus ซึ่งรองรับการใช้งานอย่างครอบคลุม ตั้งแต่ผู้เริ่มต้นไปจนถึงนักลงทุนระดับมืออาชีพ พร้อมจัดแคมเปญส่งเสริมการขายสุดคุ้ม เพื่อให้ผู้ใช้งานชาวไทยได้เป็นเจ้าของผลิตภัณฑ์คุณภาพระดับโลกในราคาสุดพิเศษ
ผลิตภัณฑ์ฮาร์ดแวร์วอลเล็ต
5 รุ่นจากแบรนด์ Ledger ประกอบด้วย
• Ledger Stax™

Ledger Stax™ with Ledger Recovery Key คือฮาร์ดแวร์วอลเล็ตที่มาพร้อมนวัตกรรมหน้าจอสัมผัส
E Ink แบบโค้งมนรอบเครื่อง ขนาด 3.7 นิ้ว
และ Ledger Recovery Key ซึ่งเป็นสมาร์ทการ์ดที่ช่วยเก็บข้อมูลแบบออฟไลน์ที่ปกป้องด้วย
PIN และชิป Secure Element ช่วยให้การกู้คืนการเข้าถึงสินทรัพย์ดิจิทัลทำได้อย่างง่ายดายด้วยการแตะเพียงครั้งเดียว
ขณะเดียวกัน ผู้ใช้งานยังคงสามารถกู้คืนการเข้าถึงสินทรัพย์ดิจิทัลของคุณด้วยวลีกู้คืน
(Seed Phrase) 24
คำได้อีกด้วย Ledger Stax โดดเด่นด้วยเทคโนโลยี
Clear Signing ที่ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถตรวจสอบและยืนยันธุรกรรมได้อย่างมั่นใจด้วยภาษาที่เข้าใจง่าย
พร้อมฟังก์ชันปรับแต่งหน้าจอด้วย NFT หรือภาพโปรดที่ยังคงแสดงผลแม้ในขณะปิดเครื่อง
เสริมความปลอดภัยด้วยชิป Secure Element มาตรฐาน CC
EAL6+ ซึ่งเป็นระดับเดียวกับที่ใช้ในบัตรเครดิตและหนังสือเดินทาง ทำงานร่วมกับระบบปฏิบัติการ
Ledger OS และหน้าจอ Secure Screen เพื่อเพิ่มความปลอดภัยอีกขั้น
รองรับการจัดเก็บและจัดการสินทรัพย์ดิจิทัลมากกว่า 5,500 สกุล
อาทิ Bitcoin, Ethereum, USDT, Solana และ XRP รองรับการเชื่อมต่อแบบไร้สายผ่าน Bluetooth, สมาร์ทโฟนระบบ
Android และ iOS หรือเชื่อมต่อผ่านสาย USB
กับคอมพิวเตอร์ในระบบปฏิบัติการ Windows 10/11, macOS (Big
Sur/Monterey/Ventura) และ Linux (ไม่รองรับ Chromebook)
มาพร้อมแบตเตอรี่ความจุ 200mAh รองรับการชาร์จไร้สายมาตรฐาน
Qi และสามารถติดตั้งแอปพลิเคชันได้มากกว่า 100 แอปภายในอุปกรณ์เดียว วางจำหน่ายในราคา 16,800 บาท พร้อมการรับประกันสินค้า
1 ปี
• Ledger Flex™

Ledger
Flex™
with Ledger Recovery Key คือฮาร์ดแวร์วอลเล็ตที่มาพร้อมนวัตกรรมหน้าจอ
E Ink แบบสัมผัส และ Ledger Recovery Key ซึ่งเป็นสมาร์ทการ์ดที่ช่วยเก็บข้อมูลแบบออฟไลน์ที่ปกป้องด้วย PIN และชิป Secure Element ช่วยให้การกู้คืนการเข้าถึงสินทรัพย์ดิจิทัลทำได้อย่างง่ายดายด้วยการแตะเพียงครั้งเดียว
ขณะเดียวกัน ผู้ใช้งานยังคงสามารถกู้คืนการเข้าถึงสินทรัพย์ดิจิทัลของคุณด้วยวลีกู้คืน
(Seed Phrase) 24
คำได้อีกด้วย Ledger Flex มาพร้อมแบตเตอรี่ในตัวขนาด
200mAh รองรับการเชื่อมต่อแบบไร้สายผ่าน Bluetooth กับสมาร์ทโฟนทั้งระบบ Android และ iOS หรือเชื่อมต่อผ่านสาย USB กับคอมพิวเตอร์ได้อย่างสะดวก
เสริมความปลอดภัยด้วยชิป Secure Element มาตรฐาน CC
EAL6+ ซึ่งเป็นมาตรฐานเดียวกับที่ใช้ในบัตรเครดิตและหนังสือเดินทาง ทำงานร่วมกับระบบ
Ledger OS และหน้าจอ Secure Screen ที่ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถตรวจสอบและยืนยันธุรกรรมได้อย่างมั่นใจ
รองรับการจัดเก็บและใช้งานสินทรัพย์ดิจิทัลมากกว่า 5,500 สกุล
อาทิ Bitcoin, Ethereum, USDT, Solana และ XRP สามารถจัดการธุรกรรมทั้งหมดผ่านแอปพลิเคชัน Ledger Wallet ได้ทั้งบนเดสก์ท็อปและสมาร์ทโฟน รองรับระบบปฏิบัติการ Windows 10/11, macOS (Big Sur / Monterey / Ventura), Linux, Android 10 ขึ้นไป และ iOS 14 ขึ้นไป (ไม่รองรับ Chromebook)
สามารถติดตั้งแอปพลิเคชันได้มากกว่า 100 แอปภายในอุปกรณ์เดียว
วางจำหน่าย 4 สี ได้แก่ สีเทาแกรไฟต์ (Graphite), สีส้ม BTC (BTC Orange), สีน้ำเงินเนปจูน (Neptune
Blue) และสีเขียวออกไซด์ (Oxidate Green) ในราคา
10,480 บาท พร้อมการรับประกันสินค้า 1 ปี
• Ledger Nano Gen5™

Ledger
Nano Gen5™ with Ledger Recovery Key คือฮาร์ดแวร์วอลเล็ตที่มาพร้อมหน้าจอสัมผัสแบบ
Secure
Signer ขนาด 2.8 นิ้ว และ Ledger
Recovery Key ซึ่งเป็นสมาร์ทการ์ดที่ช่วยเก็บข้อมูลแบบออฟไลน์ที่ปกป้องด้วย
PIN และชิป Secure Element ช่วยให้การกู้คืนการเข้าถึงสินทรัพย์ดิจิทัลทำได้อย่างง่ายดายด้วยการแตะเพียงครั้งเดียว
ขณะเดียวกัน ผู้ใช้งานยังคงสามารถกู้คืนการเข้าถึงสินทรัพย์ดิจิทัลของคุณด้วยวลีกู้คืน
(Seed Phrase) 24 คำได้อีกด้วย
Ledger
Nano Gen5 ช่วยให้คุณจัดการสินทรัพย์ดิจิทัลทั้งหมดของคุณได้อย่างสะดวกสบายด้วยแอปพลิเคชัน
Ledger Wallet รองรับการใช้งานได้ทั้งบนระบบปฏิบัติการ Windows,
macOS, Android, iOS, Linux และสมาร์ทโฟนในระบบ
Android และ iOS นอกจากนี้
คุณยังสามารถเปลี่ยนภาพหน้าจอล็อกสกรีนให้เป็น NFT หรือรูปภาพที่คุณชื่นชอบได้
โดยหน้าจอจะยังคงแสดงผลแม้ในขณะปิดเครื่อง
หรือเลือกตกแต่งด้วยแบดจ์คอลเลคชั่นพิเศษที่ออกแบบโดย Susan Kare
ศิลปินและกราฟิกดีไซน์เนอร์ชื่อดังชาวอเมริกัน (จำหน่ายแยกต่างหาก) Ledger Nano Gen5 วางจำหน่ายในราคา
7,540 บาท พร้อมการรับประกันสินค้า 1 ปี
• Ledger Nano X™

Ledger
Nano X™
คือฮาร์ดแวร์วอลเล็ตสำหรับจัดเก็บ Private Key และบริหารจัดการสินทรัพย์ดิจิทัล ที่ออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์การใช้งานทั้งในชีวิตประจำวันและระหว่างเดินทาง
ด้วยดีไซน์กะทัดรัด พกพาสะดวก รองรับการเชื่อมต่อแบบไร้สายผ่าน Bluetooth กับสมาร์ทโฟนทั้งระบบ Android และ iOS มาพร้อมแบตเตอรี่ในตัวขนาด 100mAh เพื่อความสะดวกในการใช้งานแบบไร้สาย
หรือจะเชื่อมต่อผ่านสาย USB กับคอมพิวเตอร์ก็สามารถทำได้เช่นกัน
เสริมความปลอดภัยด้วยชิป Secure Element มาตรฐาน CC
EAL5+ ซึ่งเป็นระดับเดียวกับที่ใช้ในบัตรเครดิตและหนังสือเดินทาง ทำงานร่วมกับระบบปฏิบัติการ
Ledger OS และหน้าจอแบบ Trusted Display เพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถตรวจสอบและยืนยันธุรกรรมได้อย่างมั่นใจ รองรับการจัดเก็บและบริหารสินทรัพย์ดิจิทัลหลากหลายประเภท
ทั้งคริปโต, NFT และโทเคนดิจิทัล มากกว่า 5,500 สกุล อาทิ Bitcoin, Ethereum, USDT, Solana และ Polkadot
ใช้งานง่ายด้วยปุ่มควบคุม 2 ปุ่ม และหน้าจอ 1 จอ เชื่อมต่อกับแอปพลิเคชัน Ledger Wallet ได้ทั้งบนสมาร์ทโฟนและเดสก์ท็อป
รองรับระบบปฏิบัติการ Windows 10/11, macOS (Big
Sur/Monterey/ Ventura), Linux, Android และ iOS (ไม่รองรับ Chromebook) รองรับการติดตั้งแอปพลิเคชันได้มากกว่า
100 แอปภายในอุปกรณ์เดียว ในกรณีที่อุปกรณ์สูญหายหรือโดนทำลาย
คุณสามารถกู้คืนการเข้าถึงสินทรัพย์ดิจิทัลได้ เพียงใช้ Seed Phrase (วลีกู้คืน) 24 คำ ที่ได้รับมาตอนเริ่มต้นใช้งาน
Ledger Nano X วางจำหน่ายทั้งหมด 7 สี ได้แก่ สีน้ำเงินแซฟไฟร์
(Sapphire Blue), สีเขียวเอเมอรัลด์ (Emerald Green),
สีชมพูพาสเทล (Pastel Pink), สีทอง (Gold),
สีม่วงอเมทิสต์ (Amethyst Purple), สีส้ม BTC
(BTC Orange) และสีดำ (Onyx Black) ในราคา 6,280 บาท พร้อมรับประกันสินค้า 1 ปี
• Ledger Nano S Plus™

Ledger Nano S Plus™ คือฮาร์ดแวร์วอลเล็ตรุ่นยอดนิยมที่ออกแบบมาเพื่อการจัดเก็บ Private Key และบริหารจัดการสินทรัพย์ดิจิทัลอย่างปลอดภัยสูงสุด มาพร้อมชิป Secure Element มาตรฐาน CC EAL6+ และระบบปฏิบัติการ Ledger OS รองรับการจัดเก็บและจัดการคริปโต, NFT และโทเคนดิจิทัลมากกว่า 5,500 สกุล อาทิ Bitcoin, Ethereum, USDT และ Solana เสริมความมั่นใจในการใช้งานด้วยหน้าจอแบบ Trusted Display ที่ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถตรวจสอบและยืนยันธุรกรรมได้ด้วยตนเองในทุกขั้นตอน เชื่อมต่อกับแอปพลิเคชัน Ledger Wallet ได้ทั้งบนเดสก์ท็อปและสมาร์ทโฟนในระบบ Android ผ่านพอร์ต USB-C โดยไม่ต้องใช้แบตเตอรี่ รองรับระบบปฏิบัติการ Windows 10/11, macOS (Big Sur/ Monterey/Ventura) และ Android (ไม่รองรับ Chromebook) ในกรณีที่อุปกรณ์สูญหายหรือโดนทำลาย คุณสามารถกู้คืนการเข้าถึงสินทรัพย์ดิจิทัลได้ เพียงใช้ Seed Phrase (วลีกู้คืน) 24 คำ ที่ได้รับมาตอนเริ่มต้นใช้งาน วางจำหน่ายทั้งหมด 7 สี ได้แก่ สีน้ำเงินแซฟไฟร์ (Sapphire Blue), สีเขียวเอเมอรัลด์ (Emerald Green), สีชมพูพาสเทล (Pastel Pink), สีทอง (Gold), สีม่วงอเมทิสต์ (Amethyst Purple), สีส้ม BTC (BTC Orange) และสีดำด้าน (Matte Black) ในราคา 2,060 บาท พร้อมการรับประกันสินค้า 1 ปี

พร้อมกันนี้
Ledger
ได้มอบข้อเสนอสุดพิเศษให้กับผู้ใช้งานในประเทศไทย อาทิ Ledger
Nano X ลด 50% เหลือเพียง 3,140 บาท (จากราคาปกติ 6,280 บาท) พร้อมรับสิทธิ์สุดคุ้ม เมื่อซื้อ Ledger Flex พร้อมสแกนและลงทะเบียน รับฟรี Bitcoin Voucher มูลค่า 70 ดอลลาร์สหรัฐ และเมื่อซื้อ
Ledger Stax พร้อมสแกนและลงทะเบียน รับฟรี Bitcoin
Voucher มูลค่า 80 ดอลลาร์สหรัฐ โปรโมชั่นพิเศษตั้งแต่วันนี้
- 21 ธันวาคม 2568 เท่านั้น
ผู้สนใจสามารถเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ฮาร์ดแวร์วอลเล็ต
Ledger
ทั้ง 5 รุ่น ได้แก่ Ledger Stax™
with Ledger Recovery Key, Ledger Flex™ with Ledger Recovery Key, Ledger Nano
Gen5™ with Ledger Recovery Key, Ledger
Nano X™ และ Ledger Nano S Plus™ ได้แล้ววันนี้ผ่านหลากหลายช่องทางการจัดจำหน่ายในประเทศไทย
ทั้งร้านค้าปลีกชั้นนำ อาทิ Dot Life (.Life) สาขาพารากอน, สาขาเซ็นทรัลเวิลด์, Tech
House by Dotlife, King Power และ B2S เมกาบางนา
รวมถึงช่องทางออนไลน์อย่างเป็นทางการ ได้แก่ Bitkub Academy, NocNoc, Lazada: Ledger LazMall, Shopee: Ledger by RTB, เว็บไซต์ของบริษัท
อาร์ทีบี เทคโนโลยี จำกัด และพาร์ทเนอร์ออนไลน์ที่ได้รับอนุญาตทั่วประเทศ
เกี่ยวกับ Ledger
Ledger ก้าวเข้าสู่ปีที่ 10 ในปี 2024
ในฐานะผู้นำระดับโลกด้านความปลอดภัยของสินทรัพย์ดิจิทัลสำหรับทั้งบุคคลและองค์กร
โดยมียอดขายสะสมกว่า 7.5 ล้านเครื่องใน 180 ประเทศ รองรับมากกว่า 10 ภาษา
และให้บริการดูแลความปลอดภัยแก่สถาบันการเงินและแบรนด์ชั้นนำกว่า 100 บริษัททั่วโลก
ปัจจุบันมากกว่า 20% ของสินทรัพย์คริปโตทั่วโลก ได้รับการปกป้องผ่านอุปกรณ์ของ Ledger โดยมีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่
ณ กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส
เกี่ยวกับ RTB Technology
RTB Technology เป็นหนึ่งในบริษัทนำเข้าและจัดจำหน่ายสินค้าเทคโนโลยีชั้นนำของประเทศไทย
ด้วยประสบการณ์อันยาวนานในการบริหารแบรนด์ระดับโลกหลากหลายประเภท
ครอบคลุมทั้งกลุ่มสินค้า ไอที ไลฟ์สไตล์ และแกดเจ็ต
โดยมีทีมงานที่เชี่ยวชาญในด้านการบริการลูกค้า การทำตลาดเชิงกลยุทธ์
และการกระจายสินค้าอย่างมีประสิทธิภาพ
เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคชาวไทยได้อย่างครอบคลุมในทุกช่องทาง