27 พ.ย. 2568 116 0

หัวเว่ย ประเทศไทย คว้ารางวัลพระราชทาน Thailand Corporate Excellence Awards 2025 สะท้อนความเป็นเลิศด้านนวัตกรรม

หัวเว่ย ประเทศไทย คว้ารางวัลพระราชทาน Thailand Corporate Excellence     Awards 2025 สะท้อนความเป็นเลิศด้านนวัตกรรม


บริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยี่ (ประเทศไทย) จํากัด ได้รับรางวัลพระราชทานในสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี Thailand Corporate Excellence Awards 2025” สาขาความเป็นเลิศด้านนวัตกรรมและการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ (Innovation Excellence) จากเวที TMA Excellence Awards 2025 ตอกย้ำความมุ่งมั่นของหัวเว่ยในการขับเคลื่อนการเปลี่ยนผ่านดิจิทัลและความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีของประเทศไทย พร้อมทั้งสนับสนุนภาคธุรกิจและชุมชนให้เข้าถึงโอกาสดิจิทัลได้อย่างทั่วถึง


รางวัลดังกล่าวจัดโดยสมาคมการจัดการธุรกิจแห่งประเทศไทย (TMA) ร่วมกับสถาบันบัณฑิตบริหารธุรกิจศศินทร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โดยมี ดร.กิริฎา เภาพิจิตร ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงพาณิชย์ ให้เกียรติเป็นประธานพิธีมอบรางวัล โดยในปีนี้ ดร. ชวพล จริยาวิโรจน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยี่ (ประเทศไทย) จํากัด เป็นตัวแทนรับมอบรางวัลเบื้องหน้าพระบรมฉายาลักษณ์สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี

การได้รับรางวัล Thailand Corporate Excellence Awards ต่อเนื่องเป็นปีที่ 4 สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของบริษัทในการพัฒนานวัตกรรม ยกระดับโครงสร้างพื้นฐาน และสร้างโอกาสด้านดิจิทัลอย่างทั่วถึง หัวเว่ยมีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนประเทศไทยให้เป็นศูนย์กลางดิจิทัลแห่งภูมิภาคอาเซียน ส่งเสริมความก้าวหน้าทางเศรษฐกิจและนวัตกรรมทางเทคโนโลยี


นิธิ ภัทรโชค ประธานสมาคมการจัดการธุรกิจแห่งประเทศไทย กล่าวว่า TMA ต้องการเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนภาคธุรกิจไทยให้ก้าวไปข้างหน้าอย่างมั่นคง แข็งแกร่ง และช่วยผลักดันการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน ทุกองค์กรที่ได้รับรางวัลในวันนี้ ไม่เพียงสะท้อนให้เห็นถึงศักยภาพด้านการบริหารจัดการที่เป็นเลิศเท่านั้น แต่ยังเป็นแรงบันดาลใจและต้นแบบให้แก่องค์กรอื่นๆ ทั่วประเทศ ในการพัฒนาการบริหารจัดการให้มีประสิทธิภาพและประสิทธิผลยิ่งขึ้นต่อไป

เดวิด หลี่ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยี่ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า หัวเว่ย ประเทศไทย รู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้รับรางวัลอันทรงเกียรตินี้ต่อเนื่องเป็นปีที่สี่ รางวัลนี้สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของหัวเว่ยในการขับเคลื่อนนวัตกรรมทางเทคโนโลยี และเป็นแรงผลักดันให้ประเทศไทยก้าวสู่ยุคอัจฉริยะที่เชื่อมโยงถึงกันอย่างเต็มรูปแบบ โดยนำเทคโนโลยีดิจิทัลสู่ทุกคน ทุกครัวเรือน และทุกองค์กร ภายใต้วิสัยทัศน์ "Grow in Thailand, Contribute to Thailand" ที่มุ่งเน้นการเติบโตไปพร้อมกับประเทศไทยและร่วมสร้างสรรค์คุณค่าให้กับสังคมไทยอย่างต่อเนื่อง 


ดร. ชวพล กล่าวเสริมว่า ตลอด 3 ปีที่ผ่านมา หัวเว่ยร่วมมือกับพันธมิตรในประเทศไทยและทั่วอาเซียน เพื่อขับเคลื่อนสู่อนาคตดิจิทัลที่ยั่งยืนและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม พร้อมเสริมบทบาทของไทยในฐานะศูนย์กลางดิจิทัลและ AI ของภูมิภาค โดยหัวเว่ยทำงานร่วมกับผู้ให้บริการเครือข่ายชั้นนำในการยกระดับเครือข่าย 5G และส่งเสริมการใช้งาน AI ในอุตสาหกรรมต่างๆ นอกจากนี้ หัวเว่ยได้ลงทุนสร้างศูนย์ข้อมูล 3 แห่งในไทย เพื่อให้บริการข้อมูลที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพสูง พร้อมสนับสนุนหน่วยงานภาครัฐกว่า 220 แห่ง ผ่านโซลูชัน Huawei Cloud

ในด้านพัฒนาบุคลากร หัวเว่ยร่วมกับภาครัฐและสถาบันการศึกษา เช่น จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เพื่อยกระดับทักษะดิจิทัลของคนไทย โดยตั้งเป้าพัฒนาบุคลากรมากกว่า 30,000 คน ภายในปี 2568 เพื่อรองรับการเติบโตของ AI และคลาวด์ในภูมิภาค


ในอนาคต หัวเว่ย มุ่งมั่นที่จะสร้างสรรค์นวัตกรรมอย่างต่อเนื่อง เพื่อยกระดับประเทศไทยสู่ความเป็นดิจิทัลที่อัจฉริยะและยั่งยืน พร้อมตอกย้ำความเป็นผู้นำของประเทศด้านการเปลี่ยนผ่านดิจิทัลในภูมิภาคอาเซียน

 

เกี่ยวกับหัวเว่ย

หัวเว่ยคือผู้นำด้านโครงสร้างพื้นฐานเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ICT) และสมาร์ทดีไวซ์ ที่ก่อตั้งขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2530 โดยหัวเว่ยมีพนักงานกว่า207,000คน ดำเนินธุรกิจในกว่า170ประเทศทั่วโลก ให้บริการผู้คนมากกว่า 3,000 ล้านคนทั่วโลก   

วิสัยทัศน์และพันธกิจของหัวเว่ย คือการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาสู่การใช้งานทุกระดับเพื่อทุกผู้คน ทุกครัวเรือน และทุกองค์กร เพื่อวางรากฐานให้แก่โลกอัจฉริยะ หัวเว่ยได้ส่งมอบการประมวลผลคอมพิวเตอร์หลากหลายรูปแบบทุกที่ ทุกเวลาที่คุณต้องการ เพื่อนำเทคโนโลยีคลาวด์และความอัจฉริยะเข้าสู่ทั่วทุกมุมโลก สร้างแพลตฟอร์มดิจิทัลที่จะช่วยทุกภาคอุตสาหกรรม ทุกองค์กร ให้มีความยืดหยุ่น มีประสิทธิภาพ และมีพลวัตร รวมทั้งสร้างนิยามใหม่ให้แก่ประสบการณ์การใช้งานของผู้ใช้ด้วย AI เพื่อเสริมสร้างความชาญฉลาด และออกแบบให้ตอบรับกับความต้องการเฉพาะของผู้คนในทุกแง่มุมของชีวิต ทั้งการใช้ชีวิตที่บ้าน ระหว่างการเดินทาง ที่ออฟฟิศ ในการสันทนาการ หรือแม้แต่ระหว่างการออกกำลังกาย