19 พ.ย. 2568 74 0

เหตุ Cloudflare ล่ม ไม่กระทบระบบคลาวด์กลางภาครัฐ (GDCC) รมว.ดีอี สั่งการหน่วยงานติดตามเฝ้าระวังต่อเนื่อง

เหตุ Cloudflare ล่ม ไม่กระทบระบบคลาวด์กลางภาครัฐ (GDCC) รมว.ดีอี สั่งการหน่วยงานติดตามเฝ้าระวังต่อเนื่อง


ไชยชนก ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) เปิดเผยว่า ตามที่เกิดเหตุขัดข้องกับระบบของ Cloudflare เมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน 2568 ที่ผ่านมา ทำให้ผู้ใช้บริการของ Cloudflare ทั่วโลก ไม่สามารถเข้าใช้งานได้ชั่วคราว และในช่วงเช้าวันนี้ (19 พฤศจิกายน 2568) ทางบริษัท Cloudflare ได้ชี้แจงว่า ระบบสามารถใช้งานได้ตามปกติแล้วนั้น

ทั้งนี้ตนได้มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งรัดตรวจสอบและประเมินผลกระทบที่เกิดขึ้นในประเทศไทย โดยเบื้องต้น ยังไม่พบผลกระทบต่อระบบคลาวด์กลางภาครัฐ (GDCC) เว็บไซต์และการให้บริการทางอินเทอร์เน็ตภายในหน่วยงานสังกัดกระทรวงดีอี


ขณะเดียวกันได้สั่งการให้สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (สพธอ.) หรือ ETDA  ดำเนินการให้ข้อแนะนำเบื้องต้นเพื่อการแก้ไขปัญหาสำหรับหน่วยงาน หรือผู้ใช้บริการ Cloudflare ที่ได้รับผลกระทบ โดยให้ผู้ใช้บริการเข้าระบบขององค์กรโดยตรง ไม่ผ่าน Cloudflare ชั่วคราว วิธีนี้สามารถใช้ในกรณีที่ Cloudflare ล่มจนไม่สามารถรอได้ เช่น ระบบสำคัญหยุดให้บริการ ซึ่งก่อนใช้งานวิธีนี้ หน่วยงานหรือองค์กรควรเตรียมความพร้อมในการให้บริการและความมั่นคงปลอดภัย ดังนี้

- ปรับปรุงให้เว็บไซต์เชื่อมต่อได้โดยตรง (Bypass Cloudflare) โดยอาจใช้กลไกการแก้ไข DNS record ที่เกี่ยวข้อง

- ตั้งค่าเครือข่ายเปิดให้เฉพาะคนในประเทศหรือเครือข่ายองค์กรเข้าได้

- ตรวจสอบให้แน่ใจว่ามีการเปิดระบบความปลอดภัยบนเซิร์ฟเวอร์อยู่แล้ว

- ทบทวนว่า “https” ของตัวเองยังพร้อมใช้

 สำหรับการป้องกันปัญหาระยะยาวให้บริการออนไลน์ขององค์กรมีความมั่นคงและไม่ล่มง่ายเมื่อ Cloudflare มีปัญหา ควรดำเนินการดังนี้

- มีผู้ให้บริการสำรอง โดยไม่พึ่งพาผู้ให้บริการเพียงรายเดียว เช่น มีผู้ให้บริการสำรองด้านชื่อเว็บไซต์ (DNS) และการกระจายข้อมูล (CDN)

- มีระบบป้องกันหลายชั้น เช่น ไม่ใช้ระบบป้องกันของ Cloudflare เพียงอย่างเดียว แต่มีระบบป้องกันบนเซิร์ฟเวอร์ขององค์กรด้วย

- เตรียมแผนฉุกเฉินกรณี Cloudflare ล่ม เช่น ขั้นตอนการบริหารจัดการระบบสำรองที่ชัดเจน หากต้องให้ผู้ใช้เข้าระบบโดยตรง

- มีระบบสำรองสำหรับการเข้าสู่ระบบของพนักงาน เช่น VPN หรือระบบยืนยันตัวตนสำรอง

- ใช้ระบบตรวจสอบสถานะบริการและสลับการใช้งานอัตโนมัติ เพื่อให้ระบบย้ายไปใช้บริการสำรองทันทีเมื่อเซิร์ฟเวอร์หลักมีปัญหา

- วางมาตรฐานความต่อเนื่องของบริการให้เหมาะกับความสำคัญของระบบ เช่น ระบบสำหรับประชาชนควรมีแผนรองรับที่เข้มงวดกว่าระบบทั่วไป

- ทบทวนและอัปเดตแผน BCP เป็นประจำ ให้ทันสมัยและสอดคล้องกับความเสี่ยงใหม่ๆ รวมถึงการสำรองข้อมูล DNS zone file อย่างสม่ำเสมอ ตลอดจน ฝึกซ้อมสถานการณ์ระบบล่มเป็นประจำ เพื่อให้ทีมงานตอบสนองได้เร็วและมั่นใจเมื่อเกิดเหตุจริง

 “ตนได้ร่วมหารือกับ พชร อนันตศิลป์ ปลัดกระทรวงดีอี พร้อมมอบหมายให้ดำเนินการประสานงานร่วมกับ สำนักงานคณะกรรมการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติ (สกมช.) และ สำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (องค์การมหาชน) หรือ DGA และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เฝ้าระวังสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง หากเกิดผลกระทบสามารถดำเนินการแก้ไขปัญหาได้อย่างทันท่วงที และให้ตรวจสอบความเหมาะสมของระบบการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ รวมทั้งศึกษากรณีของ Cloudflare เพื่อเป็นสมมติฐานในการจัดการดูแลระบบมาตรฐานการให้บริการต่อประชาชนต่อไป” ไชยชนก กล่าว