ผศ.ดร.ณัฐพล นิมมานพัชรินทร์ ผู้อำนวยการใหญ่ สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (ดีป้า) แถลงชัด การดำเนินการสรรหาผู้นำองค์กรใหม่เป็นไปตามกฎหมายและหลักธรรมาภิบาลทุกขั้นตอน รับความห่วงใยจากสาธารณะ ชี้แจงประเด็นความเข้าใจคลาดเคลื่อนเรื่องกรอบเวลาและกฎหมายจัดตั้ง เผยเตรียมถ่ายทอดสดการแสดงวิสัยทัศน์ของผู้สมัคร เพื่อสร้างมาตรฐานความโปร่งใสใหม่ให้แก่องค์กรภาครัฐ

ผศ.ดร.ณัฐพล ออกมาชี้แจงเพื่อคลี่คลายข้อกังวลที่สังคมให้ความสนใจเกี่ยวกับความโปร่งใสในกระบวนการสรรหาผู้อำนวยการ ดีป้า คนใหม่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกรณีที่กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (กระทรวงดีอี) ได้มีคำสั่งให้คณะกรรมการกำกับสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัลทบทวนกระบวนการดังกล่าว
"ยืนยันอย่างชัดเจนว่า กระบวนการทั้งหมดดำเนินการตามกฎหมายและหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้องอย่างถูกต้อง โปร่งใส ตรวจสอบได้ และอยู่ภายใต้หลักธรรมาภิบาลอย่างเคร่งครัด โดยระบุว่า ข้อกังวลที่เกิดขึ้นนั้นเกิดจาก ‘ความเข้าใจที่คลาดเคลื่อน’ ซึ่งทาง ดีป้า ได้ชี้แจงไปยังผู้บริหารกระทรวงแล้ว และอยู่ระหว่างจัดทำหนังสือชี้แจงอย่างเป็นทางการพร้อมหลักฐานประกอบ"

การยืนยันกรอบกฎหมายเฉพาะ พ.ร.บ. 2560 ต่างจากองค์กรมหาชนทั่วไป
ผู้อำนวยการใหญ่ ดีป้า ได้เน้นย้ำถึงความแตกต่างทางกฎหมายขององค์กร โดยอธิบายว่า ดีป้า จัดตั้งขึ้นตาม พระราชบัญญัติการพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม พ.ศ. 2560 ซึ่งเป็น ‘พระราชบัญญัติฉบับเฉพาะ’ ทำให้แตกต่างจากองค์การมหาชนทั่วไปที่จัดตั้งโดยพระราชกฤษฎีกา (พ.ร.ฎ.)
ความเข้าใจคลาดเคลื่อนหลักในช่วงที่ผ่านมาเกี่ยวข้องกับการนับระยะเวลาดำเนินการ ผู้บริหารยืนยันว่า กระบวนการทั้งหมดอยู่ภายใต้กรอบเวลาและข้อบังคับทางกฎหมายเฉพาะขององค์กรอย่างเคร่งครัด แม้ว่ากฎหมายจะต่างกัน แต่ ดีป้า ได้กำหนดให้กระบวนการสรรหาสอดคล้องกับหน่วยงานอื่นๆ โดยมีระยะเวลา 90 วัน (+60 วันสำหรับการขยาย)
ไทม์ไลน์ที่ชัดเจน นับ 90 วัน เริ่ม 18 กันยายน 2567
ผศ.ดร.ณัฐพล ได้เปิดเผยไทม์ไลน์โดยละเอียดเพื่อแสดงความโปร่งใสในทุกขั้นตอน เนื่องจากผู้อำนวยการคนปัจจุบันจะหมดวาระในวันที่ 20 กรกฎาคม 2568 องค์กรจึงเริ่มเตรียมการล่วงหน้าถึง 180 วัน (ประมาณ 6 เดือน) ซึ่งมากกว่าหลักเกณฑ์ทั่วไปที่กำหนดไว้ 120 วัน เพื่อให้มั่นใจว่าการสรรหาจะแล้วเสร็จทันเวลา
การดำเนินการสำคัญมีดังนี้
1.วันที่ 4 ตุลาคม 2567 คณะกรรมการกำกับฯ ได้กำหนดข้อกำหนดว่าด้วยหลักเกณฑ์ วิธีการ วัตถุประสงค์ และกรอบวงเงินค่าตอบแทนของผู้อำนวยการ เพื่อเสนอต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดีอีเพื่อขอความเห็นชอบ แผนงานที่เสนอไปนั้นครอบคลุมถึงยุทธศาสตร์การส่งเสริมฉบับที่ 3 และการสานต่อภารกิจสำคัญที่ยังไม่สำเร็จ เช่น การพัฒนาบุคลากรและ Startup, การใช้ประโยชน์จากโครงสร้างพื้นฐานที่ลงทุนไปแล้ว, การถ่ายทอดเทคโนโลยี, และการแก้ไขกฎระเบียบที่เป็นข้อจำกัด
2.วันที่ 13 สิงหาคม 2568 รัฐมนตรีได้พิจารณาให้ความเห็นชอบแผนงานดังกล่าว
3.วันที่ 18 กันยายน 2567 คณะกรรมการกำกับฯ ได้แจ้งผลต่อคณะกรรมการพัฒนาและส่งเสริมองค์การมหาชน (กพม.) เพื่อทราบ และดำเนินการควบคู่ไปกับการ แต่งตั้งคณะอนุกรรมการสรรหาและค่าตอบแทน
“จุดนับ 1 ของกระบวนการ 90 วัน คือหลังจากที่รัฐมนตรีเห็นชอบและมีการแต่งตั้งคณะกรรมการสรรหาแล้ว ดังนั้น การนับ 90 วัน จึงเริ่มตั้งแต่วันที่ 18 กันยายน 2567 และจะต้องแล้วเสร็จภายใน 90 วัน ซึ่งจะครบกำหนดประมาณวันที่ 17 ธันวาคม 2568” ผู้อำนวยการใหญ่ ดีป้า ชี้แจง
ทั้งนี้ หากกระบวนการไม่เสร็จภายใน 90 วัน สามารถขอขยายระยะเวลาได้อีก 60 วัน (รวมเป็น 150 วัน) หากมีผู้สมัครจำนวนมาก ผู้บริหารยืนยันว่าการดำเนินการยังคงอยู่ในกรอบเวลาดังกล่าว และได้มีการแจ้งรายละเอียดให้สำนักงาน กพม. และ กพร. ทราบแล้ว

การเพิ่มความโปร่งใส ขยายเวลารับสมัคร-ถ่ายทอดสดวิสัยทัศน์
เพื่อตอบรับต่อความกังวลของสังคมที่ต้องการความโปร่งใสสูงสุด และเนื่องจากมีความกังวลว่าการประชาสัมพันธ์ไม่เพียงพอ ทาง ดีป้า จึงได้ประกาศมาตรการสำคัญเพื่อเพิ่มความเชื่อมั่น
การขยายระยะเวลาการรับสมัคร ดีป้า ได้ประกาศขยายระยะเวลาการรับสมัครบุคคลเพื่อเข้ารับการคัดเลือกเข้าดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการฯ จากเดิมวันที่ 3 – 17 พฤศจิกายน 2568 เป็นระหว่างวันที่ 3 – 21 พฤศจิกายน 2568 ผู้อำนวยการใหญ่ยอมรับว่าก่อนหน้านี้เกิดความผิดพลาดในการส่งต่อข้อมูลประชาสัมพันธ์ เนื่องจากปัญหาด้านสุขภาพและการลาออกของเลขาอำนวยการสรรหา ทำให้การประชาสัมพันธ์ล่าช้า
การถ่ายทอดสดการแสดงวิสัยทัศน์ (Live Streaming): คณะกรรมการสรรหาเห็นชอบกับข้อเสนอที่จะให้มีการเพิ่มความโปร่งใสสูงสุด โดย การแสดงวิสัยทัศน์ของผู้สมัครทุกคนจะถูกถ่ายทอดสด ผศ.ดร.ณัฐพล ระบุว่า แนวทางนี้จะเป็นการเปิดโอกาสให้ประชาชนได้เห็นวิสัยทัศน์ของผู้สมัครโดยตรง และสามารถตัดสินได้ว่าแต่ละคนมีความสามารถจริงหรือไม่ ซึ่งถือเป็นสิ่งใหม่และเป็นประโยชน์ต่อวงการองค์กร มหาชนในอนาคต

ข้อกำหนดพิเศษ รอง ผอ. ต้องพ้นจากตำแหน่งพร้อมกัน
นอกจากประเด็นเรื่องไทม์ไลน์แล้ว ผู้อำนวยการใหญ่ ดีป้า ยังได้อธิบายถึงข้อกำหนดทางกฎหมายเฉพาะขององค์กรที่ระบุไว้ชัดเจนว่า หากผู้อำนวยการพ้นจากตำแหน่ง (ตามวาระหรือก่อนวาระ) รองผู้อำนวยการทั้ง 4 คน จะต้องพ้นจากตำแหน่งไปพร้อมกันด้วย กฎหมายนี้ถูกออกแบบมาเพื่อให้ทีมผู้บริหาร “อยู่เรือลำเดียวกัน” และลดปัญหาความขัดแย้งในการบริหาร
อย่างไรก็ตาม เพื่ออำนวยความสะดวกให้ผู้สมัครที่มีความสามารถ คณะกรรมการสรรหาได้ตกลงที่จะอนุญาตให้ผู้สมัคร สมัครในตำแหน่งผู้อำนวยการเพียงคนเดียว (stand-alone) ได้ โดยไม่ต้องเสนอรายชื่อรองผู้อำนวยการมาพร้อมกันในการสมัคร

ผลลัพธ์หากเกินกรอบเวลา 150 วัน
ผศ.ดร.ณัฐพล ยังกล่าวถึงความกังวลหากกระบวนการสรรหาไม่แล้วเสร็จภายใน 150 วัน โดยระบุว่า หากเกินระยะเวลาดังกล่าว อำนาจการแต่งตั้งจะเปลี่ยนไป คณะกรรมการกำกับจะต้องรายงานต่อ กพม. ซึ่ง กพม. จะรายงานต่อรัฐมนตรีรักษาการตาม พ.ร.บ. เพื่อเสนอรายชื่อให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) แต่งตั้งผู้อำนวยการได้ทันที โดยไม่ต้องผ่านกระบวนการสรรหาปกติ
ผู้อำนวยการปัจจุบันแสดงความกังวลว่า หากเกิดความผิดพลาดในกระบวนการสรรหา คณะกรรมการสรรหา คณะกรรมการกำกับ และตนเองก็จะมีความผิดตามไปด้วย อย่างไรก็ตาม ผู้บริหารยืนยันว่า ขณะนี้กระบวนการยังอยู่ในช่วงการสรรหา และยังไม่ถึงเวลาที่จะต้องให้ กพม. เสนอชื่อต่อ ครม.
ความตั้งใจของผู้บริหารปัจจุบัน

ผู้อำนวยการใหญ่ ดีป้า คนปัจจุบัน กล่าวขอบคุณกระทรวงดีอี พี่น้องประชาชน รวมถึงหน่วยงานพันธมิตรที่แสดงความห่วงใย และยืนยันความตั้งใจที่จะส่งต่อภารกิจให้แก่ผู้ที่มีคุณธรรมและมีความสามารถ โดยตนเองต้องการพ้นจากตำแหน่งตามวาระเพื่อพักผ่อนและทำกิจกรรมส่วนตัว
“ทุกขั้นตอนของกระบวนการสรรหาดำเนินการตามกฎหมาย ข้อบังคับ และหลักธรรมาภิบาลอย่างเคร่งครัด สามารถตรวจสอบได้ในทุกขั้นตอน” ผู้อำนวยการใหญ่ ดีป้า กล่าวย้ำ พร้อมทั้งเน้นย้ำถึงความสำคัญของการให้โอกาสผู้ที่มีศักยภาพได้เข้ามาแสดงวิสัยทัศน์ เพื่อคัดเลือกผู้บริหารที่เหมาะสมที่สุดในการขับเคลื่อนประเทศชาติต่อไป