ก้าวสู่ปีที่ 3 ของความร่วมมือระหว่าง AIS และ GC บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) ในการสานต่อพันธกิจด้านสิ่งแวดล้อมและความยั่งยืน ผ่านโครงการ “Green University ทิ้ง เทิร์น ให้โลกจำ Upvel 3” ที่ปิดฉากอย่างงดงาม พร้อมตอกย้ำบทบาท “มหาวิทยาลัยสีเขียว” ในการบริหารจัดการขยะอิเล็กทรอนิกส์ (E-Waste) และพลาสติกใช้แล้วอย่างถูกวิธี พร้อมต่อยอดแนวคิดสู่การสร้างคุณค่าทางธุรกิจจากของเหลือใช้ ในปีนี้ มีมหาวิทยาลัยเข้าร่วมโครงการฯ กว่า 50 มหาวิทยาลัยทั่วประเทศ เปิดพื้นที่ให้นิสิตนักศึกษาได้ “อัปเวลความคิด” ด้วยกิจกรรม 3 ภารกิจหลัก ทั้งการแข่งขันรวบรวมขยะ การสร้างสรรค์คอนเทนต์ “Green Creator "ทิ้ง เทิร์น ให้โลกจำ” และการแข่งขันนำเสนอไอเดียธุรกิจ “Waste to Wealth: Business Model Pitching Contest 2025” มูลค่าเงินรางวัลรวมกว่า 100,000 บาท

สายชล ทรัพย์มากอุดม หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านสื่อสารองค์กรและรัฐกิจสัมพันธ์ บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “ตลอดระยะเวลาที่ AIS และ GC ได้ร่วมกันขับเคลื่อนโครงการ ‘Green University ทิ้ง เทิร์น ให้โลกจำ’ เราได้เห็นพลังของคนรุ่นใหม่ที่หันมาใส่ใจสิ่งแวดล้อมมากขึ้น AIS ภูมิใจที่ได้เห็นความร่วมมือจากสถาบันการศึกษาทั่วประเทศ จนสามารถรวบรวมขยะอิเล็กทรอนิกส์และขยะขวดพลาสติกที่ใช้แล้วได้กว่า 1.6 ล้านชิ้น นับเป็นน้ำหนักรวมกว่า 37,365 กิโลกรัม ซึ่งสามารถช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ 31,132 กิโลกรัมคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า หรือเท่ากับการปลูกต้นไม้กว่า 3,297 ต้น ขณะเดียวกัน เรายังได้เห็นไอเดียการสร้างสรรค์คอนเทนต์และโมเดลธุรกิจเพื่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งสะท้อนถึงศักยภาพและจุดประกายความคิดของเยาวชนไทยให้พร้อมเป็นพลังสำคัญในการเปลี่ยนแปลงสังคม ถือเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญของการปลูกจิตสำนึกและสร้างพฤติกรรมการจัดการขยะอย่างยั่งยืน เราเชื่อว่า การสร้างสังคมสีเขียวต้องเริ่มจากการลงมือทำ และส่งต่อแรงบันดาลใจ เพื่อขับเคลื่อนประเทศไทยไปสู่สังคมคาร์บอนต่ำ และร่วมสร้างอนาคตที่ยั่งยืนให้กับโลกใบนี้ต่อไป”

กิจชัย เฉลิมสุขสันต์ ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่สายงานการตลาดและการขาย กลุ่มลูกค้าแพลตฟอร์มอุตสาหกรรม บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ GC กล่าวว่า “ความสำเร็จของโครงการ Green University ทิ้ง เทิร์น ให้โลกจำ Upvel 3 นั้น มีปริมาณขวดพลาสติกใช้แล้วที่น้องๆ จากมหาวิทยาลัยทั่วประเทศร่วมกันรวบรวมได้กว่า 1.5 ล้านขวด (PET 1,532,185 ขวด และ HDPE 79,335 ขวด) และ ขยะอิเล็กทรอนิกส์ (E-Waste) อีกกว่า 42,822 ชิ้น คุณค่า ‘การอัปเวลความคิด’ ของเยาวชน ที่เริ่มตั้งแต่การตระหนักรู้ การลงมือปฏิบัติจริง ไปจนถึงการต่อยอดแนวคิดสู่การสร้างสรรค์ ทั้งในรูปแบบของผลงานคลิปสั้นและไอเดียธุรกิจจากขยะ E-Waste และพลาสติกใช้แล้ว ซึ่งถือเป็นการปลูกฝังรากฐานการปลูกจิตสำนึกด้านสิ่งแวดล้อมตั้งแต่ในรั้วมหาวิทยาลัย เพื่อขยายผลสู่สังคมในวงกว้าง”



โครงการ “Green University ทิ้ง เทิร์น ให้โลกจำ Upvel 3” ประกาศผลแห่งความสำเร็จ
: พลังมหาวิทยาลัยสีเขียวทั่วไทย ได้แก่
·
ภารกิจที่ 1 ภารกิจเฟ้นหามหาวิทยาลัยสีเขียวกับการแข่งขันเก็บขยะอิเล็กทรอนิกส์และขยะพลาสติก มหาวิทยาลัยที่รวบรวมได้มากที่สุด
ได้แก่
รางวัลชนะเลิศ: มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์
รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1: มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา
รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2: มหาวิทยาลัยบูรพา
·
ภารกิจที่ 2 ประกวดแข่งขันคลิป TikTok “Green Creator "ทิ้ง เทิร์น
ให้โลกจำ” ออกแบบการเล่าเรื่องผ่านคลิปวีดีโอในหัวข้อ “Green Creator ทิ้ง เทิร์น
ให้โลกจำ” เพื่อรณรงค์การทิ้ง E-Waste และขยะพลาสติกใช้แล้วอย่างถูกวิธี ผู้ชนะจำนวน 4 รางวัล ได้แก่
รางวัลชนะเลิศ: ทีม หมอลำ ม่วนซื่น By Homekarnlakorn จากมหาวิทยาลัยขอนแก่น
รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1: ทีม waste look จากมหาวิทยาลัยนเรศวร
รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2: ทีม Byte me จากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี
รางวัล Popular vote : ทีม Byte me จากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี
·
ภารกิจที่ 3 “Waste to Wealth: Business Model Pitching Contest 2025” ไอเดียธุรกิจสร้างสรรค์ที่สามารถนำไปต่อยอดได้จริง
โดยมุ่งเน้นไปที่การสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อปัญหาขยะ
ผู้ชนะ ได้แก่
1. รางวัลชนะเลิศ: AIBS จากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
2. รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1: PLYCE จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
3. รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2: Lessplastic TU x FallAIDE วิทยาลัยแพทย์ศาสตร์นานาชาติจุฬาภรณ์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์


โครงการ Green University “ทิ้ง เทิร์น ให้โลกจำ Upvel 3” คือ เวทีแห่ง “การเรียนรู้ ลงมือทำ
และต่อยอดสู่ความยั่งยืน” อย่างแท้จริง ทั้งในระดับมหาวิทยาลัย ชุมชน โดย AIS และ GC
เชื่อว่า
“ความยั่งยืน” จะเกิดขึ้นจริงได้ เมื่อทุกคนมีส่วนร่วม และ “ความแตกต่าง”
จะเป็นพลังสร้างอนาคตได้เมื่อเริ่มลงมือทำ
#GreenUniversityทิ้งเทิร์นให้โลกจำUpvel3
#ทิ้งเทิร์นให้เท่สไตล์กรีนยู
#AIS #AISEwaste
#HUBofEwaste
#GCYOUเทิร์น #พลาสติกเทิร์นเมือง
เกี่ยวกับ AIS
บริษัท แอดวานซ์
อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ AIS ผู้ให้บริการโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัล
ที่พร้อมขับเคลื่อนประเทศไทยผ่าน 4 กลุ่มธุรกิจ
ด้วยฐานลูกค้ารวม 51.5 ล้านราย ได้แก่
ธุรกิจโทรศัพท์เคลื่อนที่ บนโครงข่ายอัจฉริยะ 5G ด้วยคลื่นความถี่มากที่สุดรวม
1460
MHz ที่มีจำนวนผู้ใช้งานกว่า
46.3
ล้านเลขหมาย,
ธุรกิจอินเทอร์เน็ตบ้านความเร็วสูงภายใต้แบรนด์
AIS
3BB FIBRE3 ด้วยจำนวนผู้ใช้งานกว่า 5.2 ล้านราย,
ธุรกิจบริการลูกค้าองค์กร
และธุรกิจบริการดิจิทัล
ทั้งหมดนี้เพื่อเดินหน้าตามวิสัยทัศน์สู่องค์กรโทรคมนาคมเทคโนโลยีอัจฉริยะ
Cognitive
Tech-Co สนับสนุนความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจดิจิทัลและยกระดับ
คุณภาพชีวิตของคนไทย
พบกับเราได้ที่ www.ais.th (ข้อมูล ณ
กันยายน 2568)
เกี่ยวกับ GC
บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จํากัด (มหาชน) หรือ GC มุ่งมั่นเป็นผู้นำในธุรกิจเคมีภัณฑ์ระดับสากล เพื่อสร้างสรรค์คุณภาพชีวิตของผู้คนให้ดีขึ้นด้วยนวัตกรรมพลาสติกและเคมีภัณฑ์ ตามวิสัยทัศน์ของเราในการเป็นเคมีที่เข้าถึงทุกความสุข ดำเนินธุรกิจโดยคำนึงถึงดุลยภาพของสิ่งแวดล้อม (Environment) สังคม (Social) และบรรษัทภิบาลและเศรษฐกิจ (Governance & Economic) (ESG) ส่งเสริมการใช้ทรัพยากรให้เกิดประโยชน์สูงสุดตามหลักเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) พร้อมพัฒนาผลิตภัณฑ์และโซลูชั่นที่ตอบโจทย์ความต้องการของโลกอนาคต ควบคู่ไปกับการดูแลผู้มีส่วนได้เสียทุกภาคส่วน
GC
เป็นบริษัทหนึ่งเดียวในโลกที่ได้รับการจัดอันดับจากดัชนีความยั่งยืนดาวโจนส์
(Dow
Jones Sustainability Indices: DJSI) ให้เป็นที่ 1 ในกลุ่มธุรกิจเคมีภัณฑ์
ด้วยคะแนนสูงสุด 6 ปีต่อเนื่อง โดย S&P Global รวมถึงได้รับการจัดอันดับให้เป็นผู้นำ
(A
List) ด้านการบริหารจัดการน้ำ
และการบริหารจัดการสิ่งแวดล้อมด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ จาก CDP
ปัจจุบัน
GC
มีฐานการผลิตและจัดจำหน่ายในไทย
50 แห่งและในต่างประเทศ 43 แห่ง มีศูนย์วิจัยและพัฒนากว่า 33 แห่ง ใน 20
ประเทศทั่วโลก ทั้งนี้ GC ตั้งเป้าเป็นองค์กรคาร์บอนต่ำควบคู่กับการเติบโตทางธุรกิจอย่างยั่งยืน ด้วยแผนงานที่ชัดเจนและสามารถติดตามผลได้ ด้วยการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ร้อยละ 20
ภายในปี พ.ศ. 2573 และมุ่งสู่เป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net
Zero) ภายในปี พ.ศ. 2593