กระบวนการสรรหาผู้ทรงคุณวุฒิที่จะเข้ามานั่งเก้าอี้ ผู้อำนวยการใหญ่ สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล หรือ ดีป้า ที่กำลังถูกจับตาจากคนในแวดวงเทคโนโลยีและนโยบายดิจิทัล ณ เวลานี้มีความน่าสนใจตรงที่ “คนในองค์กร” อาจได้รับความไว้วางใจจากพนักงานให้เป็นผู้นำคนใหม่ในยุคเปลี่ยนผ่านสำคัญขององค์กรแห่งนี้เพื่อทำงานทันทีโดยไร้รอยต่อ

แม้ก่อนหน้านี้จะมีชื่อของ วาริน รัชนานุสรณ์ รักษาการรองผู้อำนวยการใหญ่ ดีป้า ผู้ดูแลกลุ่มงานส่งเสริมระบบนิเวศเศรษฐกิจดิจิทัล แถมยังพ่วงตำแหน่งผู้อำนวยการสถาบันส่งเสริมวิสาหกิจดิจิทัลเริ่มต้น ผู้อยู่เบื้องหลังการส่งเสริมและสนับสนุนดิจิทัลสตาร์ทอัพไทยในทุกระยะการเติบโต ขึ้นแท่น ‘ว่าที่’ แล้ว แต่ไม่นานมานี้กลับปรากฏชื่อของ กษมา กองสมัคร และ ปรีสาร รักวาทิน สองรักษาการรองผู้อำนวยการใหญ่ ซึ่งก้าวขึ้นมาเป็นคู่แข่งสำคัญ โดยทั้งสองคนต่างมีบทบาทสำคัญในยุทธศาสตร์ของ ดีป้า อีกทั้งสะท้อนแนวทางการพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัลที่แตกต่างกัน นั่นคือ “นโยบาย–ยุทธศาสตร์” กับ “เทคโนโลยี–นวัตกรรมเชิงลึก”
เส้นทางนักนโยบายดิจิทัล ผู้คร่ำหวอดในแผนชาติ

กษมา กองสมัคร ปัจจุบันดำรงตำแหน่งรักษาการรองผู้อำนวยการใหญ่ ดีป้า ดูแลงานด้านนโยบาย ยุทธศาสตร์ ความมั่นคงดิจิทัล และความร่วมมือระหว่างประเทศ ถือเป็นนักนโยบายดิจิทัลมืออาชีพที่เติบโตมาจากสายการวางแผนระดับประเทศ
ก่อนมาร่วมงานกับ ดีป้า เธอทำงานด้านการวิจัยนโยบายที่สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (NSTDA) มานานกว่าสิบปี และเป็นหนึ่งในทีมที่ร่วมร่างแผนแม่บท ICT แห่งชาติ (Thailand ICT Master Plan), Thailand ICT Policy Framework (2011–2020) และแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมดิจิทัล 20 ปี (2016–2035) ซึ่งเป็นกรอบนโยบายที่ ดีป้า นำมาขับเคลื่อนต่อ
กษมา จบการศึกษาระดับปริญญาโท สาขา Telecommunications and Network Management จาก Syracuse University รัฐนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา โดยมีจุดแข็งด้านการกำหนดนโยบายเชิงยุทธศาสตร์และการบริหารโครงการดิจิทัลขนาดใหญ่ สำหรับบทบาทใน ดีป้า นั้น กษมา ถือได้ว่าเป็นผู้ขับเคลื่อนองค์กรในเวทีระหว่างประเทศ และเน้นแนวทาง Digital Policy for All ที่ให้ความสำคัญกับความสมดุลระหว่างความมั่นคงทางเทคโนโลยีกับการยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน
นักวิทยาศาสตร์ข้อมูลและเทคโนโลยีอวกาศผู้มองไกล

ปรีสาร รักวาทิน เติบโตมาจากสายเทคนิคและการวิจัยเชิงลึก ถือได้ว่าเป็นนักเทคโนโลยีพันธุ์แท้ที่ได้รับการยอมรับในวงการภูมิสารสนเทศ (Geographic Information System: GIS) และ Remote Sensing
ปรีสาร สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาเอกด้านวิศวกรรมโยธาจาก The University of Tokyo ภายใต้ทุนรัฐบาลญี่ปุ่น (Monbusho) โดยมีผลงานวิจัยด้านการประมวลผลภาพถ่ายดาวเทียมเพื่อวิเคราะห์การเปลี่ยนแปลงของภูมิประเทศและทรัพยากรธรรมชาติ อีกทั้งสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาโทด้าน Remote Sensing และ GIS จาก Asian Institute of Technology (AIT) และวิศวกรรมศาสตรบัณฑิต (วิศวกรรมไฟฟ้า) จากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
ก่อนมาร่วมงานกับ ดีป้า ปรีสาร ทำงานวิจัยที่ Japan Aerospace Exploration Agency (JAXA) และสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (GISTDA) โดยพัฒนาระบบติดตามผลผลิตทางการเกษตรด้วยดาวเทียม ซึ่งต่อยอดสู่โครงการ Digital Agriculture ที่ ดีป้า ใช้เป็นต้นแบบในการส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัลในภาคเกษตรกรรม
ศึกสองรองฯ
“นโยบาย” ปะทะ “เทคโนโลยี”
หากมองในภาพรวม ทั้ง กษมา และ ปรีสาร ล้วนเป็นบุคลากรจากยุคก่อตั้งของ ดีป้า ที่ร่วมวางรากฐานนโยบายและโครงการขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัลของประเทศ ซึ่ง กษมา มีจุดเด่นในการเป็นผู้กำหนดทิศทาง เข้าใจโครงสร้างนโยบายรัฐ และความเชื่อมโยงระดับนานาชาติ ขณะที่ ปรีสาร โดดเด่นด้านการเป็นผู้สร้างระบบที่เชื่อมเทคโนโลยีกับการใช้งานจริงในภาคเศรษฐกิจ
ผู้อำนวยการใหญ่
ดีป้า คุณสมบัติระดับ High Standard
ทั้งนี้ การสรรหา ผู้อำนวยการใหญ่ ดีป้า เปรียบเสมือนการค้นหา ‘ผู้นำแห่งอนาคต’ โดยคุณสมบัติของผู้สมัครที่กำหนดไว้สะท้อนถึงมาตรฐานระดับสูง (High Standard) ซึ่งผู้สมัครต้องเป็นผู้ที่มีคุณวุฒิและชั่วโมงบินที่สูงเป็นที่ประจักษ์ ทั้งในด้านการพัฒนาและการขับเคลื่อนนโยบายแผนที่เกี่ยวข้องกับการส่งเสริมและสนับสนุนเทคโนโลยีและนวัตกรรมดิจิทัลระดับชาติอย่างแท้จริง
นอกจากนี้ ผู้สมัครต้องเคยดำรงตำแหน่งผู้บริหารของหน่วยงานราชการ ตำแหน่งประเภทบริหารระดับต้น (C 9) ขึ้นไป หรือเป็นผู้บริหารของรัฐวิสาหกิจ องค์การมหาชน หรือหน่วยงานอื่นของรัฐ ในตำแหน่งระดับผู้ช่วยผู้บริหารสูงสุดขึ้นไปขององค์กรนั้น ๆ และต้องมีผลงานหรือประสบการณ์ในการจัดทำและขับเคลื่อนนโยบายและแผนระดับชาติด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมดิจิทัลมาไม่น้อยกว่า 2 เรื่อง และมีบทบาทในการบริหารงบประมาณไม่ต่ำกว่า 1,000 ล้านบาท หรือผู้สมัครจะต้องเป็นผู้บริหารสูงสุดหรือรองในหน่วยงานภาคเอกชนอย่างน้อย 2 ปี บริหารงบประมาณและมีรายได้ไม่ต่ำกว่า 2,000 ล้านบาท และมีบุคลากรไม่น้อยกว่า 300 คน และมีทุนจดทะเบียนไม่น้อยกว่า 500 ล้านบาท
ดังนั้นการสรรหา
ผู้อำนวยการใหญ่ ดีป้า ครั้งนี้จึงไม่ได้เป็นเพียงการแข่งขันระหว่างบุคคล
หากแต่เป็นการเลือกแนวทางการบริหารว่า องค์กรแห่งนี้จะก้าวต่อไปอย่างไร แม้ว่าคนในจะมาแรง
แต่ด้วยผลงานตลอด 8 ปีที่ผ่านมาของ ดีป้า ที่ขับเคลื่อนโดย ผศ.ดร.ณัฐพล นิมมานพัชรินทร์
ทำให้เชื่อได้ว่ามีคนนอกหมายตาเก้าอี้ตัวนี้อยู่ไม่น้อย ซึ่งเรายังคงต้องจับตาดูกันต่อไปว่า
ผู้อำนวยการใหญ่ ดีป้า คนต่อไปจะเป็น “คนใน” เพื่อให้การขับเคลื่อนองค์กรต่อเนื่องไร้รอยต่อ
หรือจะเป็น “คนนอก” ที่จะเข้ามากุมบังเหียนองค์กรแห่งอนาคต
แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดที่ไม่ว่าใครจะเข้ามานั่งในตำแหน่งนี้ก็คือ
การที่คนไทยจะต้องได้รับประโยชน์จากเทคโนโลยีและนวัตกรรมดิจิทัล
โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยุคที่วิวัฒนาการของดิจิทัลเปลี่ยนผันไปอย่างรวดเร็ว