ทรูมันนี่ ผู้นำด้านบริการอิเล็กทรอนิกส์เพย์เมนต์และผู้ให้บริการทางการเงินชั้นนำในภูมิภาค เดินหน้าปราบปรามบัญชีม้าต่อเนื่อง ร่วมกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ตำรวจภูธรภาค 4 ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.สันติ ชัยนิรามัย ผบช.ภ.4 ขยายผลสืบสวนและจับกุมขบวนการฉ้อโกงประชาชน จัดหาบัญชีม้า ในพื้นที่จังหวัดสกลนคร โดยมีการทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดระหว่างเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่และบริษัท ทรูมันนี่ จำกัด นำโดย กรวุฒิ ปวิตรปก ผู้อำนวยการฝ่ายกลยุทธ์ เพื่อตอบนโยบายของรัฐบาลและสำนักงานตำรวจแห่งชาติในการปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี และยกระดับความปลอดภัยให้กับประชาชนผู้ใช้บริการทางการเงินออนไลน์ทั่วประเทศ


ความร่วมมือในครั้งนี้ถือเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จของการบูรณาการข้อมูลระหว่างหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชน โดยทรูมันนี่ได้สนับสนุนการสืบสวนผ่านระบบตรวจจับพฤติกรรมต้องสงสัย การวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึก และการแลกเปลี่ยนข้อมูลเชิงเทคนิคกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ จนนำไปสู่การจับกุมผู้ต้องหาและขยายผลถึงกลุ่มนายหน้าที่ว่าจ้างประชาชนเปิดบัญชีเพื่อใช้ในการกระทำผิด


ทั้งนี้ ทรูมันนี่ ให้ความสำคัญสูงสุดกับการยกระดับความปลอดภัยของระบบการเงินดิจิทัล โดยผสานเทคโนโลยี AI ข้อมูล และทีมผู้เชี่ยวชาญด้านความเสี่ยงและการทุจริต เพื่อวิเคราะห์พฤติกรรมบัญชีที่ผิดปกติอย่างต่อเนื่อง และสกัดกั้นบัญชีม้าได้อย่างทันท่วงที พร้อมมุ่งมั่นให้ความร่วมมือ และทำงานอย่างใกล้ชิดกับตำรวจทุกภาคส่วน อาทิ ศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปอส.ตร.), Warroom IAC (ศูนย์บริหารเหตุการณ์แก๊งคอลเซ็นเตอร์และค้ามนุษย์นานาชาติ) ฯลฯ เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลและติดตามเส้นทางการเงินร่วมกับสถาบันการเงินต่างๆ ในการขยายผลและจับกุมเครือข่ายผู้กระทำผิดร่วมกับเจ้าหน้าที่ และจะยังคงเดินหน้าทำงาน ร่วมกับ หน่วยงานภาครัฐทุกภาคส่วนอย่างต่อเนื่อง เพื่อร่วมกันสร้างระบบนิเวศการเงินดิจิทัลที่โปร่งใส ปลอดภัย และเชื่อถือได้สำหรับคนไทยทุกคน
ตำรวจภูธรภาค
4 แถลงข่าวการจับกุมทลายเครือข่ายจัดหาบัญชีม้า สำนักงานตำรวจแห่งชาติ
ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร., พล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์ รอง ผบ.ตร. ตำรวจภูธรภาค 4 ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.สันติ ชัยนิรามัย ผบช.ภ.4, พล.ต.ต.ณัฐนนท์ ประชุม รอง ผบช.ภ.4, พล.ต.ต.นพเก้า โสมนัส รอง ผบช.ภ.4, พล.ต.ต.สุริเดช วรรณสุทธิ์ ผบก.ภ.จว.สกลนคร, พล.ต.ต.ภูมิพัฒน์ ภัทรศรีวงษ์ชัย ผบก.สส.ภ.4 ร่วมกับเจ้าหน้าที่บริษัททรูมันนี่
จับกุม
/ ดำเนินคดี ผู้ต้องหา จำนวน 30 ราย ดังนี้
กลุ่มรับจ้างเปิดบัญชี (บัญชีทรูมันนี่
วอลเล็ท) จำนวน 28 ราย ในความผิดฐาน
“ผู้ใดเปิดหรือยินยอมให้บุคคลอื่นใช้บัญชีเงินฝาก บัตรอิเล็กทรอนิกส์
หรือบัญชีเงินอิเล็กทรอนิกส์ของตน โดยมิได้มีเจตนาใช้เพื่อตน
หรือเพื่อกิจการที่ตนเกี่ยวข้อง
หรือยินยอมให้บุคคลอื่นใช้หรือยืมใช้เลขหมายโทรศัพท์สำหรับบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ของตนฯ”และ“ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนโดยการแสดงตนเป็นคนอื่น, ร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอม
ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนหรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน
และสมคบกันโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำผิดฐานฟอกเงินและได้มีการกระทำความผิดฐานฟอกเงินเพราะเหตุที่ได้มีการสมคบกันและร่วมกันฟอกเงิน”
กลุ่มธุระจัดหาบัญชีม้า จำนวน 2 ราย
ในความผิดฐาน “ร่วมกันเป็นธุระจัดหา โฆษณา หรือไขข่าวโดยประการใด ๆ
เพื่อให้มีการซื้อ ขาย ให้เช่า หรือให้ยืม บัญชีเงินฝาก บัตรอิเล็กหรอนิกส์
หรือบัญชีเงินฝากอิเล็กทรอนิกส์
เพื่อใช้กระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยีฯ”
สรุปผลการปฏิบัติจับกุมเครือข่ายจัดหาบัญชีทรูมันนี่วอลเล็ทม้า
ใน จว.สกลนคร ตั้งแต่วันที่ 27 ต.ค.ถึง
วันที่ 2 พ.ย.68 ผลการปฏิบัติ ดังนี้
1. จับกุมผู้ต้องหา จำนวน 30 ราย
2. ขยายผลพบบุคคลเปิดบัญชีทรูมันนี่วอลเล็ท
(ม้ารับจ้าง) ใน จว.สกลนคร จำนวน 213 คน
3. ตรวจสอบระบบแจ้งความออนไลน์ TPO
พบความเชื่อมโยงเคสไอดีในพื้นที่ ภ 1-9 และ บชน.จำนวน 647 เคสไอดี ความเสียหาย 80,814,933 บาท
3.1 ความเชื่อมโยงเคสไอดีในพื้นที่
ภ.4 จำนวน 147 เคสไอดี ความเสียหาย 47,997,580 บาท
3.2 ความเชื่อมโยงเคสไอดีในพื้นที่ ภ.จว.สกลนคร จำนวน 14 เคสไอดี ความเสียหาย 1,635,207 บาท
พฤติการณ์ในการจับกุม
ตามนโยบายของรัฐบาลและสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
ให้ดำเนินการปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี
โดยเฉพาะการกระทำความผิดเกี่ยวกับบัญชีม้า
ซึ่งเป็นเครื่องมือสำคัญในการกระทำความผิดฐานหลอกลวงออนไลน์
และเป็นปัญหาที่ส่งผลกระทบต่อประชาชนในวงกว้างนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจ ศปอส.ภ.4 ได้สนธิกำลังร่วมกับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง และบริษัททรูมันนี่
ดำเนินการสืบสวนติดตามพฤติการณ์ของกลุ่มบุคคลที่มีพฤติกรรมว่าจ้างให้บุคคลอื่นเปิด
(บัญชีทรูมันนี่ วอลเล็ท) เพื่อใช้รับโอนเงินจากผู้เสียหายจนสามารถขยายผลจับกุมผู้ต้องหาได้
ดังนี้
1). ผู้เปิดบัญชีม้า (บัญชีทรูมันนี่
วอลเล็ท) จำนวน 28 ราย
2). นายหน้าจัดหาผู้เปิดบัญชี จำนวน 2
ราย
3). อยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อออกหมายจับ จำนวน 2 ราย ในข้อหา “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนโดยการแสดงตนเป็นบุคคลอื่นและร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนหรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน และสมคบกันโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำผิดฐานฟอกเงินและได้มีการกระทำความผิดฐานฟอกเงินเพราะเหตุที่ได้มีการสมคบกันและร่วมกันฟอกเงิน และ เป็นธุระจัดหา โฆษณา หรือไขข่าวโดยประการใด ๆ เพื่อให้มีการซื้อขาย ให้เช่า หรือให้ยืม บัญชีเงินฝาก บัตรอิเล็กทรอนิกส์ หรือบัญชีเงินอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อใช้ในการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยีหรือความผิดทางอาญาอื่นใด”
และ ในความผิดฐาน
“ผู้ใดเปิดหรือยินยอมให้บุคคลอื่นใช้บัญชีเงินฝาก บัตรอิเล็กทรอนิกส์
หรือบัญชีเงินอิเล็กทรอนิกส์ของตน โดยมิได้มีเจตนาใช้เพื่อตน
หรือเพื่อกิจการที่ตนเกี่ยวข้อง
หรือยินยอมให้บุคคลอื่นใช้หรือยืมใช้เลขหมายโทรศัพท์สำหรับบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ของตนฯ”
จำนวน 183 ราย (อยู่ระหว่างติดตามตัวมาดำเนินคดี)
จากการสืบสวนสอบสวนทราบว่านายหน้าจัดหาผู้เปิดบัญชีม้า
(บัญชีทรูมันนี่ วอลเล็ท) มีหน้าที่จัดหาผู้ที่มีบัญชีทรูมันนี่ วอลเล็ท จากราษฎรในพื้นที่
จว.สกลนคร โดยมีค่าตอบแทนในการยินยอมให้ใช้บัญชีทรูมันนี่วอลเล็ท ครั้งละ 1,000 บาท เพื่อส่ง คิวอาร์โค๊ตให้กับหัวหน้าเครือข่าย ชาวจีน (อยู่ระหว่างการสืบสวนรวบรวมพยานหลักฐานติดตามจับกุมตัว)
โดยทั้งหมดมีพฤติการณ์เกี่ยวข้องกับขบวนการฉ้อโกงทางออนไลน์หลายรูปแบบ เช่น
การหลอกให้ลงทุนออนไลน์ การหลอกขายสินค้า และการแอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ
การจับกุมครั้งนี้เป็นผลมาจากความร่วมมือระหว่าง เจ้าพนักงานตำรวจในพื้นที่
กับสถาบันทางการเงิน บริษัททรูมันนี่ ที่ร่วมแลกเปลี่ยนข้อมูลทำให้สามารถสืบสวนขยายผลไปยังกลุ่มนายหน้าและผู้รวบรวมบัญชีได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ตำรวจภูธรภาค 4
ยังคงมุ่งมั่นดำเนินการปราบปรามเครือข่ายอาชญากรรมทางเทคโนโลยีทุกรูปแบบอย่างต่อเนื่อง
พร้อมทั้งขอความร่วมมือจากประชาชน หากพบเบาะแสเกี่ยวกับบัญชีม้า
หรือการหลอกลวงออนไลน์ สามารถแจ้งข้อมูลได้ที่สถานีตำรวจทุกแห่ง หรือสายด่วน 1441
/ 191 เพื่อร่วมกันป้องกันมิให้ประชาชนตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพ
เกี่ยวกับ TrueMoney (ทรูมันนี่)
ทรูมันนี่
คือผู้นำบริการทางการเงินแบบดิจิทัลชั้นนำในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่มุ่งเน้นให้บริการทางการเงินแก่ผู้คนซึ่งรวมไปถึงผู้ที่เข้าไม่ถึงบริการของสถาบันทางการเงิน
โดยให้บริการใน 7 ประเทศในภูมิภาค ได้แก่ ประเทศไทย กัมพูชา เมียนมา เวียดนาม
ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย และมาเลเซีย ทรูมันนี่ ก่อตั้งเมื่อ พ.ศ. 2556
และเข้าเป็นธุรกิจหนึ่งของบริษัท แอสเซนด์ มันนี่ ในปี พ.ศ. 2557
และเป็นพันธมิตรกับบริษัท Ant Group ใน
พ.ศ. 2559 ปัจจุบัน ทรูมันนี่ ให้บริการด้านการเงินที่หลากหลายผ่าน TrueMoney
แอปพลิเคชันการเงินที่ได้รับความนิยมสูงสุดที่ช่วยอำนวยความสะดวกและทำให้การเงินเป็นเรื่องง่าย
ตอบโจทย์กับทุกไลฟ์สไตล์ นอกจากนี้ ทรูมันนี่
ยังมีเครือข่ายตัวแทนที่ครอบคลุมในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ทั้งหมดนี้เพื่อมอบความสะดวกสบายในการทำธุรกรรมทางการเงินให้กับหลายล้านคนเพื่อก้าวล้ำไปสู่ชีวิตที่ดียิ่งขึ้น
ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.truemoney.com