โคฮีซิตี้ (Cohesity) เสริมศักยภาพองค์กรด้วยฟีเจอร์สุดล้ำ อัพเดตล่าสุดภายใต้โมเดล Cyber Resilience 5 ขั้นตอน ในทุกกลุ่มผลิตภัณฑ์ ที่ออกแบบมาเพื่อรับมือต่อภัยคุกคามทางไซเบอร์ได้อย่างมั่นคงและต่อเนื่อง

วาซู เมอร์ธี ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายผลิตภัณฑ์ โคฮีซิตี้ (Cohesity) ผู้นำด้านการรักษาความปลอดภัยข้อมูลด้วย AI กล่าวถึงเป้าหมายหลักของ Cohesity คือการช่วยให้องค์กรจัดการข้อมูลทั้งหมดได้อย่างง่ายดายและคุ้มค่าจากแพลตฟอร์มเดียว เพื่อให้สามารถปกป้อง คุ้มครองความปลอดภัย และกลั่นกรองข้อมูลเชิงลึกจากข้อมูลดังกล่าวได้อย่างมีประสิทธิภาพ  Cohesity Data Cloud ช่วยปกป้องข้อมูลเพื่อให้สามารถกู้คืนข้อมูลอย่างมั่นใจ ทั้งยังปลดล็อกข้อมูลที่ไม่มีโครงสร้างขององค์กรสำหรับ Gen AI อีกด้วย โดยเปิดตัวในงาน Cohesity Catalyst 1 ได้อัพเดตนวัตกรรมกว่า 40 รายการ เพื่อช่วยเหลือในทุกขั้นตอนของการสร้าง Cyber Resilience ให้กับองค์กร ทั้งนี้ โมเดล Cyber Resilience แบบ 5 ขั้นตอน คือแนวทางที่องค์กรต่างๆ สามารถนำไปปฏิบัติได้จริง เพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับระบบ โดย 5 ขั้นตอนเสริมแกร่ง Cyber Resilience จะช่วยยกระดับ ขีดความสามารถในการสร้างความพร้อม และตอบสนองต่อภัยคุกคามทางไซเบอร์ รวมถึงการกู้คืนระบบให้กลับมาให้บริการได้โดยเร็วที่สุด โดย ประเมินขีดความสามารถในการรับมือภัยคุกคามไซเบอร์ ดังต่อไปนี้

1.ปกป้องข้อมูลบนทุกเวิร์กโหลด: ปกป้องมากกว่า 1,000 รายการ และด้วยการเติบโตของข้อมูลบนคลาวด์ที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ยังมีข้อมูลอีกมากมายที่รอการจัดการ

• รองรับเวิรค์โหลดเพิ่มมากขึ้น: โคฮีซิตี้มีแผนที่จะเพิ่มตัวเชื่อมต่อใหม่ๆ และตัวเชื่อมต่อที่ได้รับการปรับปรุง 40 ตัวให้กับ DataProtect ในเร็วๆ นี้ ซึ่งจะช่วยให้องค์กรต่างๆ สามารถปกป้องเวิร์กโหลดบนคลาวด์ ภายในองค์กร และแบบไฮบริดได้ครอบคลุมมากขึ้น  ตั้งแต่บริการฐานข้อมูลและการจัดเก็บข้อมูล AWS, Azure และ GCP ไปจนถึงการรองรับแพลตฟอร์ม Oracle, Postgres, IBM DB2, Nutanix และ Kubernetes ที่ดีขึ้น เช่น Rancher และ RHOV โดยคาดว่าการเปิดตัวนี้จะขยายขอบเขตการครอบคลุมไปยังแพลตตฟอร์มที่องค์กรธุรกิจส่วนใหญ่ใช้งานอยู่  ด้วยการขยายขอบเขตความครอบคลุมดังกล่าว คาดว่า DataProtect จะช่วยให้การปกป้องเวิร์กโหลดทั้งหมดเป็นไปอย่างง่ายดาย รวดเร็ว และครอบคลุมมากขึ้น
• ปฏิวัติ NetBackup: โคฮีซิตี้กำลังสร้างการเชื่อมต่อที่แน่นหนายิ่งขึ้นระหว่าง NetBackup และ Cohesity Data Cloud ผ่านทาง NetBackup DirectIO : ซึ่งเป็นโปรโตคอลที่พลิกโฉมวงการสำหรับการแบ็คอัพและกู้คืนข้อมูลอย่างรวดเร็ว  DirectIO ที่จะเปิดตัวเร็วๆ นี้ จะช่วยให้ NetBackup สามารถจัดเก็บข้อมูลได้โดยตรงบน SpanFS® ซึ่งเป็นระบบไฟล์แบบกระจายที่ขับเคลื่อน Cohesity Data Cloud  เมื่อโปรโตคอลดังกล่าวพร้อมใช้งาน ลูกค้า NetBackup จะสามารถเก็บทุกสิ่งที่ชื่นชอบเกี่ยวกับ NetBackup ที่มาพร้อมกับคุณประโยชน์ของแพลตฟอร์มที่พร้อมรองรับอนาคต  แพลตฟอร์มนี้ได้รับการออกแบบให้สามารถปรับขนาดได้อย่างเหมาะสมพร้อมประสิทธิภาพในการแบ็คอัพและกู้คืนข้อมูลที่เหนือกว่า รองรับการจัดเก็บข้อมูลที่ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ และสามารถใช้งานร่วมกับฟีเจอร์ด้านการรักษาความปลอดภัยและ AI ของ Cohesity Data Cloud สำหรับ NetBackup ทั้งนี้ NetBackup DirectIO  จะมีราคาถูกกว่าระบบจัดเก็บข้อมูลแบบเดิมถึง 50%

2. มั่นใจว่าข้อมูลต้องสามารถกู้คืนได้เสมอ: กุญแจสำคัญของขั้นตอนนี้ยึดตามหลักปฏิบัติที่ดีที่สุดของ “กฎ 3-2-1” สำหรับการสำรองข้อมูล  การมีสำเนาข้อมูลอย่างน้อยสามชุดในสื่อสองประเภทที่แตกต่างกัน โดยหนึ่งชุดเก็บไว้นอกสถานที่ จะช่วยเสริมสร้างขีดความสามารถในการกู้คืนข้อมูล ไม่ว่าจะอยู่ในสถานการณ์ใดก็ตาม

เมื่อปี 2022 โคฮีซิตี้ ได้เปิดตัว Cohesity FortKnox ซึ่งเป็นระบบจัดเก็บข้อมูลออนไลน์ที่มีความปลอดภัยสูง (Cyber Vault) บนแพลตฟอร์มคลาวด์ เพื่อช่วยให้องค์กรต่างๆ สามารถรักษาแนวทางปฏิบัติที่เหมาะสมตามกฎ 3-2-1 ควบคู่ไปกับการปฏิบัติตามข้อกำหนด RTO ของธุรกิจยุคใหม่  และล่าสุดได้นำเสนอตัวเลือกการจัดการด้วยตนเองสำหรับ FortKnox เพื่อตอบสนองความต้องการที่เข้มงวดของลูกค้าบางรายที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลและให้ความสำคัญกับความปลอดภัยสูงสุด  FortKnox เวอร์ชั่นที่รองรับการจัดการด้วยตนเองจะช่วยให้ลูกค้าได้รับสิทธิประโยชน์ต่างๆ เช่น:

• ระบบจัดเก็บข้อมูลแบบเสมือนที่ปลอดภัย ซึ่งแยกออกจากเครือข่าย (Air-gapped) และอยู่ด้านหลังไฟร์วอลล์ภายในดาต้าเซ็นเตอร์ของตัวเอง             

• ตัวเลือกการจัดเก็บข้อมูลแบบเสริมความแข็งแกร่งสำหรับองค์กรที่ไม่สามารถใช้บริการคลาวด์ได้เพราะต้องปฏิบัติตามข้อกำหนดภายในองค์กร การรักษาความปลอดภัยของข้อมูล หรือข้อจำกัดด้านนโยบายการตรวจสอบ
• ควบคุมข้อมูลได้อย่างเต็มที่ พร้อมด้วยคุณประโยชน์จากการจัดการแบบครบวงจรของ Cohesity Data Cloud
• ลดการพึ่งพาผู้ให้บริการจัดเก็บข้อมูลภายนอกองค์กร
• รองรับการปฏิบัติตามกฎระเบียบและอำนาจอธิปไตยในภูมิภาคที่ไม่มีการให้บริการคลาวด์ภายในประเทศ

3. ตรวจจับและ ตรวจสอบวิเคราะห์ ภัยคุกคาม: ในขั้นตอนนี้จะสามารถตรวจสอบข้อมูลแบ็คอัพได้อย่างจริงจัง เพื่อค้นหาความผิดปกติและมัลแวร์ และตรวจสอบตัวบ่งชี้การโจมตีในข้อมูลแบ็คอัพในลักษณะเชิงรับ โดยเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการกู้คืนระบบ

• เมื่อปีที่แล้วเราได้นำเสนอความสามารถในการสแกนแบบ hash-based เป็นครั้งแรกของอุตสาหกรรมด้วย NetBackup และต่อไปจะนำเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยเดียวกันนี้มาใช้กับ Cohesity DataProtect การสแกนแบบ hash-based ช่วยให้สแกนไฟล์ได้มากถึง 30,000 ล้านไฟล์ภายในเวลาเพียงหนึ่งนาที การสแกนที่เร็วขึ้นช่วยให้สามารถทำการสแกนได้บ่อยขึ้น และสามารถตรวจจับและแก้ไขปัญหาได้รวดเร็วกว่าเดิม
• DataProtect ได้ถูกเพิ่มเข้าไปใน Cohesity RedLab ซึ่งเป็น แล็บทดสอบสภาพแวดล้อมที่แยกต่างหาก ใช้สำหรับปรับปรุงและปรับแต่งนวัตกรรมด้านความปลอดภัย เพื่อให้มีอัตราการตรวจจับมัลแวร์ที่ดียิ่งขึ้น
• อัพเดตฟีดข้อมูลภัยคุกคาม: Google Threat Intelligence ถูกเพิ่มลงในชุดผลิตภัณฑ์ DataProtect เพื่อให้ทันต่อภัยคุกคามล่าสุด และดียิ่งกว่านั้นก็คือ ฟีดข้อมูลนี้รวมอยู่ใน Cohesity Data Cloud Enterprise Edition โดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม

4. ฝึกฝนความสามารถในการรับมือภัยคุกคาม ในระดับแอพพลิเคชั่น: การรับมือต่อภัยคุกคามทางไซเบอร์ และเป็นเครื่องมือจัดการการกู้คืนระบบจากภัยคุกคามทางไซเบอร์ Cohesity RecoveryAgent ซึ่งจะบริหารจัดการการกู้คืนแบบอัตโนมัติ

RecoveryAgent คือโซลูชั่นอันทรงพลังที่ออกแบบมาเพื่อลดความซับซ้อนและเพิ่มความรวดเร็วในการกู้คืนระบบจากภัยพิบัติและการกู้คืนระบบจากภัยคุกคามทางไซเบอร์  โซลูชั่นนี้ใช้ AI แบบเอเจนต์เพื่อช่วยให้องค์กรต่างๆ สามารถสร้างพิมพ์เขียวสำหรับการกู้คืนระบบอัตโนมัติที่ช่วยปรับปรุงขั้นตอนการทำงาน ลดความเสี่ยงในการสูญเสียข้อมูล และรองรับการดำเนินธุรกิจอย่างต่อเนื่อง RecoveryAgent ช่วยให้ทีมงานสามารถสร้าง ตรวจสอบ และดำเนินการตามแผนการกู้คืนระบบได้อย่างรวดเร็ว โดยครอบคลุมถึงการจัดการภัยคุกคามเชิงรุก ลดระยะเวลาการหยุดทำงานของระบบ (Downtime) และแสดงให้เห็นถึงการปฏิบัติตามข้อกำหนด

นอกจากนี้ยังได้เปิดตัวโซลูชั่นสุดล้ำ ด้วยความร่วมมือกับ พันธมิตรทางธุรกิจ Semperis ซึ่งเป็นผู้นำด้านการรักษาความปลอดภัยและยืนยันตัวตน โดยทั้งสองบริษัทร่วมกันนำเสนอ Cohesity Identity Resilience ซึ่งขับเคลื่อนโดย Semperis โซลูชั่นนี้จะช่วยให้องค์กรต่างๆ สามารถปกป้องและกู้คืน Active Directory ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ลดระยะเวลาการหยุดทำงานของระบบได้ถึง 90%  ด้วยการแบ็คอัพข้อมูลที่ปลอดภัยและไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ของ Cohesity และการกู้คืน Active Directory Forest Recovery แบบอัตโนมัติของ Semperis องค์กรต่างๆ จะสามารถป้องกันการโจมตีโดยอาศัยการประเมินเชิงรุกและการเพิ่มความแข็งแกร่ง ทั้งยังสามารถฟื้นฟู AD ให้กลับสู่สถานะที่สะอาด ปราศจากมัลแวร์ ด้วยการตรวจสอบทางนิติวิทยาศาสตร์อย่างเต็มรูปแบบภายหลังการโจมตี และขยายความสามารถในการรับมือกับภัยคุกคามทางไซเบอร์ไปยังส่วนที่เปราะบางที่สุด

ด้วยการประเมินช่องทางการโจมตี องค์กรสามารถเลือกใช้บริการให้คำปรึกษาเชิงรุก เพื่อช่วยให้ประเมินความสามารถในการรับมือและปิดช่องโหว่ด้านความปลอดภัยของระบบแบ็คอัพ ก่อนที่ผู้โจมตีจะฉวยโอกาสจากช่องโหว่เหล่านั้น บริการให้คำปรึกษาด้านความสามารถในการรับมือภัยคุกคามทางไซเบอร์ของเรามีการประเมินแบบเจาะจงเป้าหมาย ช่วยให้คุณประเมินความพร้อมในปัจจุบันของคุณ และจัดทำแผนงานที่เป็นรูปธรรมและนำไปปฏิบัติได้จริง ครอบคลุมทั้งในส่วนของบุคลากร กระบวนการ และเทคโนโลยี

5. ปรับปรุงมาตรการป้องกันความเสี่ยงด้านข้อมูล: ในขั้นตอนที่ 5 ยกระดับเชิงรุก ในการตรวจสอบข้อมูลสำคัญ (sensitive data ) ที่จัดเก็บ ภายในองค์กรเพื่อตรวจจับและลดความเสี่ยง  นั่นคือจุดที่เราผสานรวมกับผู้ให้บริการด้านการจัดการมาตรการรักษาความปลอดภัยข้อมูล (Data Security Posture Management - DSPM) เข้ามามีบทบาทสำคัญ โคฮีซิตี้ได้ประกาศขยายความร่วมมือด้านผลิตภัณฑ์กับ Cyera ซึ่งเป็นผู้นำตลาด DSPM  การผสานรวมดังกล่าวจะช่วยให้สามารถ:

• ระบุข้อมูลที่มีความสำคัญ หรือข้อมูลที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลที่ไม่ได้รับการปกป้องได้อย่างง่ายดายและต่อเนื่อง ผ่านนโยบายการปฏิบัติตามข้อกำหนดที่กำหนดไว้ล่วงหน้า
• ป้องกันไม่ให้ข้อมูลที่มีความสำคัญ หรือที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแล ให้จำกัดการกู้คืนไปยังตำแหน่งที่จำกัด
• ให้ความสำคัญกับการกู้คืนข้อมูลที่สำคัญต่อการดำเนินงาน (Mission Critical)
• เร่งการตอบสนองต่อเหตุการณ์ด้วยการทำความเข้าใจรัศมีการทำลายล้างของการโจมตี
• เพิ่มประสิทธิภาพด้านต้นทุนเพื่อ TCO ที่เหนือกว่า

ความร่วมมือของ Cohesity และ Cyera ก่อให้เกิดความก้าวหน้าที่เป็นรูปธรรมในการกำจัดจุดบอดขององค์กรเพื่อลดความเสี่ยงจากการโจรกรรมข้อมูล และช่วยให้รับมือกับเหตุการณ์ทางไซเบอร์ได้อย่างมั่นใจ

ปลดล็อกมูลค่าทางธุรกิจจากข้อมูลองค์กร

แพลตฟอร์มเดียวกันที่มอบความสามารถในการรับมือกับภัยคุกคามทางไซเบอร์ Cohesity Data Cloud ยังนำข้อมูลแบ็คอัพ ข้อมูลคลาวด์ และข้อมูลแอพพลิเคชั่นมาไว้ในแหล่งข้อมูลหนึ่งเดียวที่มีการจัดทำดัชนีที่เชื่อถือได้ เพื่อรองรับการสร้างมูลค่าทางธุรกิจ

Cohesity Gaia ผู้ช่วย AI เชิงสนทนาของเรา ใช้ Retrieval Augmented Generation (RAG) เพื่อกลั่นกรองข้อมูลเชิงลึกที่ละเอียดลึกซึ้งยิ่งขึ้นจากข้อมูลขององค์กร และพร้อมจะประกาศเกี่ยวกับนวัตกรรมใหม่ที่จะพร้อมใช้งานเร็วๆ นี้ ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ คุณประโยชน์ และความปลอดภัยให้กับ Gaia

• การค้นหา: เพิ่มเติมอินเทอร์เฟซการค้นหาที่มีประสิทธิภาพควบคู่ไปกับการแชทของ Gaia โดยคาดว่าอินเทอร์เฟซนี้จะช่วยให้ผู้ใช้สามารถสแกน กรอง และแสดงรายการที่ตรงกันได้อย่างแม่นยำและครบถ้วน ฟีเจอร์การค้นหานี้มีประโยชน์อย่างมากสำหรับการค้นหาข้อมูลทางกฎหมาย การปฏิบัติตามข้อกำหนด และกรณีการใช้งานอื่นๆ ที่ต้องการรายการข้อมูลที่ตรงกันอย่างครบถ้วน
• รองรับการทำงานหลายภาษา: Gaia จะสามารถรองรับการทำงานแบบหลายภาษา เพื่อให้ทีมงานทั่วโลกสามารถค้นหาและสนทนากับข้อมูลองค์กรของตนในภาษาที่พวกเขาสะดวกใช้งานมากที่สุด
• เครื่องมือการทำงานร่วมกัน: เร็วๆ นี้ Gaia จะสามารถเข้าถึงได้ในเครื่องมือการทำงานร่วมกันที่คุณใช้อยู่เป็นประจำ เช่น Slack และ Google Agentspace
• การปกปิดข้อมูล: Gaia จะรองรับกระบวนการปกปิดหรือทำให้ข้อมูลที่ละเอียดอ่อนในเอกสารหรือไฟล์กลายเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวตนได้  ดังนั้นข้อมูลที่สามารถระบุตัวตน (PII) เช่น รายละเอียดทางการเงิน และข้อมูลละเอียดอ่อนอื่นๆ จะไม่ถูกนำเสนอ เพื่อป้องกันการเข้าถึงข้อมูลส่วนตัว 
• การติดตั้งภายในองค์กร: เนื่องจากมีความต้องการที่สูงมากจากหน่วยงานภาครัฐ สถาบันการเงิน และองค์กรอิสระ เราจึงได้ร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับ NVIDIA และพันธมิตรด้านฮาร์ดแวร์

เพื่อนำเสนอ Gaia แบบติดตั้งภายในองค์กร (on-prem) 

Gaia เวอร์ชั่นนี้สามารถติดตั้งและใช้งานได้โดยไม่ต้องเชื่อมต่อเครือข่ายขาออก ช่วยให้สามารถใช้งาน “GPT ส่วนตัว”

Cyber Resilience  เส้นทางการเตรียมความพร้อมในการรับมือ ตอบสนอง และ ความสามารถในการกู้คืนระบบจากภัยคุกคาม

สิ่งสำคัญคือต้องรู้ว่าเส้นทางสู่การสร้าง Cyber Resilience ยังไม่สิ้นสุด และการเดินทางสู่ AI เพิ่งเริ่มต้นขึ้นเท่านั้น  ที่ Cohesity ภารกิจของโคฮีซิตี้คือการปกป้อง คุ้มครองความปลอดภัย และจัดหาข้อมูลเชิงลึกที่กลั่นกรองจากข้อมูลต่างๆ ทั่วโลก  การสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ๆ เหล่านี้นับเป็นเครื่องพิสูจน์ถึงความมุ่งมั่นของเรา ในการสานต่อภารกิจดังกล่าว

ในช่วงหลายสัปดาห์ต่อจากนี้ จะนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับนวัตกรรมต่างๆ ที่เปิดตัวในงาน Catalyst 1 และลงทะเบียนที่นี่ เพื่อรับชมงานดังกล่าว