11 ต.ค. 2568 109 0

เตือนข่าวปลอม 'เริ่มลงทะเบียนดิจิทัลวอลเล็ต' เสี่ยงสูญเสียข้อมูลส่วนบุคคล

เตือนข่าวปลอม 'เริ่มลงทะเบียนดิจิทัลวอลเล็ต' เสี่ยงสูญเสียข้อมูลส่วนบุคคล


กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) ตรวจพบข่าวปลอมรายสัปดาห์ ที่ประชาชนให้ความสนใจสูงสุดอันดับที่ 1 เรื่อง “เริ่มลงทะเบียนโครงการดิจิทัลวอลเล็ต ได้ตั้งแต่วันที่ 1-5 ต.ค. 68รองลงมาคือเรื่อง “ทหารกัมพูชาตรึงกำลังตั้งฐานที่ปราสาทคนา” เตือนประชาชน อย่าหลงเชื่อข่าวปลอม อาจทำให้เกิดความเข้าใจผิด สับสน ตื่นตระหนก และวิตกกังวลในสังคม รวมทั้งอาจทำให้สูญเสียทรัพย์สิน และข้อมูลส่วนบุคคล โดยขอให้เลือกเชื่อ เลือกแชร์ ข้อมูลที่เป็นประโยชน์


สุชาดา ซาง แทนทรัพย์ โฆษกกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) กล่าวถึงผลการมอนิเตอร์และรับแจ้งข่าวปลอมของศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมประเทศไทย (AFNC) ซึ่งเป็นไปตามนโยบายการป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยความมั่นคงและภัยทางสังคมของนายไชยชนก ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ที่ต้องการให้มีการบูรณาการข้อมูลของหน่วยงานเพื่อเผยแพร่ความรู้ความเข้าใจด้านการใช้งานเทคโนโลยีดิจิทัลให้กับประชาชน โดยยกระดับความสำคัญเรื่องการสร้างความตระหนักรู้เท่าทันภัยอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ข่าวปลอม และข้อมูลบิดเบือน

ทั้งนี้ ในระหว่างวันที่ 3 – 9 ตุลาคม 2568 พบข้อความที่เข้ามาทั้งหมด 1,029,742 ข้อความ โดยมีข้อความที่ต้องดำเนินการตรวจสอบ (Verify) ทั้งสิ้น 1,031 ข้อความ

สำหรับช่องทางที่มีการพบเบาะแสมากที่สุด คือ ข้อความที่มาจาก Social Listening จำนวน 1,010 ข้อความ ตามมาด้วยการแจ้งเบาะแสผ่าน Line Official จำนวน 6 ข้อความ ช่องทาง Website จำนวน 2 ข้อความ และช่องทาง Facebook จำนวน 13 ข้อความ รวมเรื่องที่ต้องดำเนินการตรวจสอบทั้งหมด 224 เรื่อง และจากการประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้รับผลการตรวจสอบกลับมาแล้ว 73 เรื่อง

กระทรวงดีอี ได้แบ่งข่าวปลอมที่ได้รับความสนใจเป็น 5 กลุ่ม ประกอบด้วย

กลุ่มที่ 1 : นโยบายรัฐบาล ข่าวสารทางราชการ ความสงบเรียบร้อยของสังคม ขัดศีลธรรมอันดี และความมั่นคงภายในประเทศ จำนวน 151 เรื่อง

กลุ่มที่ 2 : ผลิตภัณฑ์สุขภาพ วัตถุอันตราย เครื่องสำอาง รวมถึงสินค้าและบริการที่ผิดกฎหมายจำนวน 26 เรื่อง

กลุ่มที่ 3 : ภัยพิบัติ จำนวน 3 เรื่อง

กลุ่มที่ 4 : เศรษฐกิจ จำนวน 0 เรื่อง

กลุ่มที่ 5 : กลุ่มอาชญากรรมออนไลน์ จำนวน 44 เรื่อง

สุชาดา กล่าวต่อว่า เมื่อพิจารณาจากข่าวปลอมที่ได้รับความสนใจในลำดับต้นๆ ในสัปดาห์นี้ส่วนใหญ่เป็นข่าวเกี่ยวกับนโยบายรัฐบาลและการให้บริการของหน่วยงานรัฐ ความมั่นคงระหว่างประเทศ ข่าวที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์สุขภาพ ซึ่งทั้งหมดมีผลกระทบต่อสังคมส่วนใหญ่ อาจทำให้เกิดความเข้าใจผิด สับสน ตื่นตระหนก และวิตกกังวลได้ รวมทั้งอาจทำให้สูญเสียทรัพย์สิน หรือ ข้อมูลส่วนบุคคล โดยข่าวที่ได้รับความสนใจจากประชาชนมากที่สุด 10 อันดับ ได้แก่

อันดับที่ 1 : เรื่อง เริ่มลงทะเบียนโครงการดิจิทัลวอลเล็ต ได้ตั้งแต่วันที่ 1-5 ต.ค. 68

อันดับที่ 2 : เรื่อง ทหารกัมพูชาตรึงกำลังตั้งฐานที่ปราสาทคนา

อันดับที่ 3 : เรื่อง เปิดเกณฑ์รับเงินคนละครึ่ง แบ่ง 3 กลุ่ม แจกสูงสุด 2,400 บาท

อันดับที่ 4 : เรื่อง หญิงที่ไม่มีเพศสัมพันธ์เป็นเวลานาน เพิ่มความเสี่ยงสมองตาย และเป็นมะเร็งรังไข่

อันดับที่ 5 : เรื่อง ทอ. สั่งบิน F-16 สอดแนมฐานทัพกัมพูชา

อันดับที่ 6 : เรื่อง จังหวัดเพชรบูรณ์เกิดเหตุคอกวัวแตกหลังฝนตกหนัก

อันดับที่ 7 : เรื่อง เกิดเหตุเครื่องบินตกในกรุงเทพฯ สูญเสีย 750 ราย

อันดับที่ 8 : เรื่อง การแสดง “โขน” ต้นฉบับเป็นของกัมพูชา

อันดับที่ 9 : เรื่อง งอนิ้วชี้ไปมาข้างละ 100 ครั้งต่อวัน ช่วยให้ตับดี สมองดี สายตาดี

อันดับที่ 10 : เรื่อง ไทยขายใบนัดแพทย์ปลอม ให้คนกัมพูชาใช้ผ่านข้ามแดน

สำหรับอันดับ 1 เรื่อง “เริ่มลงทะเบียนโครงการดิจิทัลวอลเล็ต ได้ตั้งแต่วันที่ 1-5 ต.ค. 68” กระทรวงดีอี ประสานงานร่วมกับ สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง กระทรวงการคลัง ตรวจสอบแล้วพบว่า เป็นข้อมูลเท็จ โดยขอชี้แจงว่า ปัจจุบัน กระทรวงการคลัง ยังไม่มีการดำเนินการโครงการดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ในระยะที่ 3 ทั้งนี้ หากมีการดำเนินโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะประชาสัมพันธ์แจ้งต่อประชาชนให้รับทราบต่อไป

ด้านข่าวปลอมอันดับ 2 เรื่อง “ทหารกัมพูชาตรึงกำลังตั้งฐานที่ปราสาทคนา” กระทรวงดีอี ประสานงานร่วมกับ กองทัพบก กระทรวงกลาโหม ตรวจสอบแล้วพบว่าเป็นข่าวปลอม โดยขอชี้แจงว่า จากข้อมูลบันไดไม้ที่สร้างโดยฝ่ายกัมพูชามีวัตถุประสงค์หลักเพื่อการส่งกำลังบำรุงไปยังฐานตรวจการณ์บนหน้าผา และต่อมาได้ถูกนำมาใช้เพื่อการท่องเที่ยวของประชาชนทั่วไป นอกจากนี้ กำลังทหารกัมพูชาที่ประจำการอยู่บริเวณดังกล่าวไม่มีท่าทีคุกคาม และจุดเฝ้าตรวจของกัมพูชาไม่ได้มีลักษณะเป็นป้อมปราการทางทหารแต่อย่างใด  

อย่างไรก็ตาม ดีอี มีความห่วงใยประชาชน เรื่องความตระหนักรู้เท่าทันข่าวปลอมที่ถูกแพร่กระจายบนสื่อออนไลน์ โซเชียล ซึ่งหากขาดความรู้เท่าทัน และส่งต่อข้อมูลข่าวปลอม ทำให้เกิดการหลงเชื่อ สร้างความเข้าใจที่คลาดเคลื่อน เกิดความวิตกกังวล หรืออาจสร้างความเสียหายต่อชีวิต ทรัพย์สิน หรือข้อมูลส่วนบุคคล และอาจส่งผลกระทบต่อประชาชนในสังคมเป็นวงกว้าง ดังนั้นจึงควรตรวจสอบข้อเท็จจริงของข่าวหรือลิงก์เว็บไซต์ให้แน่ชัด

 

หากประชาชน พบข่าวน่าสงสัย ข้อมูลบิดเบือน สามารถแจ้งเบาะแส และตรวจสอบข่าวปลอมได้ที่ โทรสายด่วน 1111 ต่อ 87 (24 ชม.) หรือที่

| เว็บไซต์ www.antifakenewscenter.com

| Line ID: @antifakenewscenter

| Facebook : Anti-Fake News Center Thailand

| X : @AFNCThailand

| TikTok : @antifakenewscenter

| IG : afnc_thailand/