5 ต.ค. 2568 110 0

มิจฉาชีพเปิดบัญชี FB ปลอม อ้าง 'OR' เปิดลงทะเบียนซื้อหุ้น ระวังสูญเงินและข้อมูลส่วนบุคคล

มิจฉาชีพเปิดบัญชี FB ปลอม อ้าง 'OR' เปิดลงทะเบียนซื้อหุ้น ระวังสูญเงินและข้อมูลส่วนบุคคล


กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) ตรวจพบข่าวปลอมรายสัปดาห์ที่เกี่ยวข้องกับอาชญากรรมออนไลน์ ซึ่งประชาชนให้ความสนใจสูงสุดอันดับที่ 1 เรื่อง “OR เปิดให้ลงทะเบียนซื้อหุ้น ผ่านเพจ โอ้อาร์ AMZN Business” รองลงมาคือเรื่อง “ออมสินออกโครงการช่วยเหลือ กู้ 50,000 บาท คืน 1,083 บาท ยื่นผ่านบัญชี TikTok @wanis2421” เตือนประชาชน อย่าหลงเชื่อข่าวปลอม หวั่นสร้างความเสียหายทั้งข้อมูลส่วนบุคคล ทรัพย์สิน และอาจส่งผลกระทบต่อประชาชนในสังคมเป็นวงกว้าง ขอให้เลือกเชื่อ - แชร์ ข้อมูลที่เป็นประโยชน์
 

สุชาดา ซาง แทนทรัพย์ โฆษกกระทรวง
ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี)
กล่าวถึงผลการมอนิเตอร์และรับแจ้งข่าวปลอมของศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมประเทศไทย (AFNC) ซึ่งเป็นไปตามนโยบายการป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยความมั่นคงและภัยทางสังคมของ นายไชยชนก ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ที่ต้องการให้มีการบูรณาการข้อมูลของหน่วยงานเพื่อเผยแพร่ความรู้ความเข้าใจด้านการใช้งานเทคโนโลยีดิจิทัลให้กับประชาชน โดยยกระดับความสำคัญเรื่องการสร้างความตระหนักรู้เท่าทันภัยอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ข่าวปลอม และข้อมูลบิดเบือน

ทั้งนี้ ในระหว่างวันที่ 26 กันยายน – 2 ตุลาคม 2568 พบข้อความที่เข้ามาทั้งหมด 1,205,193 ข้อความ โดยมีข้อความที่ต้องดำเนินการตรวจสอบ (Verify) ทั้งสิ้น 1,020 ข้อความ

สำหรับช่องทางที่มีการพบเบาะแสมากที่สุด คือ ข้อความที่มาจาก Social Listening จำนวน 994 ข้อความ ตามมาด้วยการแจ้งเบาะแสผ่าน Line Official จำนวน 23 ข้อความ และช่องทาง Facebook จำนวน 3 ข้อความ รวมเรื่องที่ต้องดำเนินการตรวจสอบทั้งหมด 223 เรื่อง และจากการประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้รับผลการตรวจสอบกลับมาแล้ว 96 เรื่อง โดยในจำนวนนี้เป็นข่าวปลอมเกี่ยวกับอาชญากรรมออนไลน์ที่ได้รับความสนใจจากประชาชนมากที่สุด 10 อันดับ ได้แก่

อันดับที่ 1 : เรื่อง OR เปิดให้ลงทะเบียนซื้อหุ้น ผ่านเพจ โอ้อาร์ AMZN Business

อันดับที่ 2 : เรื่อง ออมสินออกโครงการช่วยเหลือ กู้ 50,000 บาท คืน 1,083 บาท ยื่นผ่านบัญชี TikTok @wanis2421

อันดับที่ 3 : เรื่อง ปปง. เปิดให้ลงทะเบียนขอคืนทรัพย์สินจากการถูกหลอกลวงออนไลน์ได้ที่ TikTok thairath_news297
 

อันดับที่ 4 : เรื่อง กรมการขนส่งทางบก รับทำใบขับขี่ออนไลน์ ผ่านเพจ มนธิรา

อันดับที่ 5 : เรื่อง ลงทะเบียนรับสิทธิ์สินเชื่อกรุงไทยใจป้ำ ได้ที่ TikTok ktb.thailand494

อันดับที่ 6 : เรื่อง ติดต่อ ปปง. เพื่อขอรับเงินที่ถูกหลอกลวงออนไลน์คืน ได้ทางไลน์ไอดี amlo3 

อันดับที่ 7 : เรื่อง ปปง. เปิดให้เหยื่อแก๊งคอลเซ็นเตอร์ยื่นคำร้องรับเงินคืน ผ่านเพจ Suppression Committee

อันดับที่ 8 : เรื่อง เจอปัญหาไฟฟ้าขัดข้อง แจ้งได้เลยที่ไลน์ไอดี 2256208

อันดับที่ 9 : เรื่อง กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน เปิดเพจ องค์กรพัฒนาและจัดหางานประเทศไทย

อันดับที่ 10 : เรื่อง OR เปิดโอกาสร่วมลงทุนเป็นเจ้าของ Cafe Amazon เริ่มต้นเพียง 1,430 บาท
 

“เมื่อพิจารณาจากข่าวปลอมที่เกี่ยวข้องกับอาชญากรรมออนไลน์ ซึ่งประชาชนสนใจมากที่สุด จาก 10 อันดับข้างต้น พบว่าเป็นข่าวที่เกี่ยวกับการชักชวนลงทุนหุ้นในหน่วยงานและองค์กรที่น่าเชื่อถือ โครงการสินเชื่อธนาคารรัฐ รวมทั้งการให้บริการของหน่วยงานรัฐ โดยเฉพาะการคืนเงินจากมิจฉาชีพในกับผู้เสียหายที่ถูกหลอกลวง  ซึ่งมีผลกระทบต่อทั้งตัวบุคคลที่เชื่อและแชร์ข้อมูลส่งต่อกันไปเป็นวงกว้าง ทำให้ประชาชนอาจตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพ ทั้งยังอาจสร้างความเสียหายทั้งทรัพย์สินและข้อมูลส่วนบุคคลได้” สุชาดา กล่าว
 

สำหรับอันดับ 1 เรื่อง “OR เปิดให้ลงทะเบียนซื้อหุ้น ผ่านเพจ โอ้อาร์ AMZN Business” กระทรวงดีอี ประสานงานร่วมกับ บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ OR กระทรวงพลังงาน พบว่าเป็นข้อมูลเท็จ โดยขอแจ้งเตือนว่าการประชาสัมพันธ์เปิดลงทะเบียนบัญชีซื้อหุ้น ผ่านเพจ โอ้อาร์ AMZN Business นั้นเป็นการกระทำของมิจฉาชีพ เนื่องจาก OR ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเพจดังกล่าวแต่อย่างใด และไม่มีการเปิดลงทะเบียนในลักษณะดังกล่าว เพจนี้จงใจแอบอ้างใช้ชื่อและโลโก้ของ OR เพื่อสร้างความเข้าใจผิดแก่ประชาชน จึงขอให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อและตรวจสอบข้อมูลให้รอบคอบทุกครั้งก่อนลงทุน

สำหรับผู้สนใจข้อมูลเกี่ยวกับ OR เพื่อประกอบการพิจารณาลงทุนสามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้จาก เว็บไซต์ https://investor.pttor.com/th/home

นอกจากนี้กระทรวงดีอี ขอเตือนประชาชนว่าการให้ข้อมูลหรือติดตั้งแอปพลิเคชันใดๆ ที่ไม่ได้มาจากช่องทางอย่างเป็นทางการ อาจมีความเสี่ยงต่อการถูกขโมยข้อมูล หรือเงินในบัญชีธนาคารได้

อย่างไรก็ตาม ดีอี มีความห่วงใยประชาชน เรื่องความตระหนักรู้เท่าทันข่าวปลอมที่ถูกแพร่กระจายบนสื่อออนไลน์ โซเชียล ซึ่งหากขาดความรู้เท่าทัน ส่งต่อข้อมูลข่าวปลอม ทำให้เกิดการหลงเชื่อ สร้างความเข้าใจที่คลาดเคลื่อน สร้างความเสียหายต่อทรัพย์สิน หรือข้อมูลส่วนบุคคล และอาจส่งผลกระทบต่อประชาชนในสังคมเป็นวงกว้าง ดังนั้นจึงควรตรวจสอบข้อเท็จจริงของข่าวหรือลิงก์เว็บไซต์ให้แน่ชัด

หากประชาชน พบข่าวน่าสงสัย ข้อมูลบิดเบือน สามารถแจ้งเบาะแส และตรวจสอบข่าวปลอมได้ที่ โทรสายด่วน 1111 ต่อ 87 (24 ชม.) หรือที่

| เว็บไซต์ www.antifakenewscenter.com

| Line ID: @antifakenewscenter

| Facebook : Anti-Fake News Center Thailand

| X : @AFNCThailand

| TikTok : @antifakenewscenter

| IG : afnc_thailand/