ดีป้า เปิดเวทีแข่งขันนวัตกรรมด้าน Coding & AI ระดับประเทศ ‘National Coding & AI Competition’ ภายใต้โครงการ Coding Thailand 2025: AI-Driven Future จัดพื้นที่ประชันผลงานนวัตกรรมดิจิทัลของ 200 สุดยอดทีมเยาวชนไทยจากทั่วประเทศ เพื่อเฟ้นหา 91 ผลงาน ชิงทุนการศึกษา และทุนส่งเสริมการพัฒนาศูนย์การเรียนรู้ มูลค่ารวมกว่า 18 ล้านบาท โดยจะมีเพียงหนึ่งเดียวที่จะคว้ารางวัล Best of the Best และสิทธิ์เข้าร่วมแข่งขันในเวทีนานาชาติ ร่วมส่งกำลังใจให้ผู้เข้าแข่งขันได้ตั้งแต่วันนี้ - 5 กันยายนนี้ที่ เอ็มซีซี ฮอลล์ ชั้น 3 เดอะมอลล์ ไลฟ์สโตร์ บางกะปิ

ผศ.ดร.ณัฐพล นิมมานพัชรินทร์ ผู้อำนวยการใหญ่ สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล หรือ ดีป้า เป็นประธานเปิดงาน ‘National Coding & AI Competition’ เวทีแข่งขันนวัตกรรมด้าน Coding & AI ระดับประเทศ กิจกรรมสำคัญภายใต้โครงการ Coding Thailand 2025: AI-Driven Future จัดขึ้นระหว่างวันที่ 3 – 5 ตุลาคม โดยได้รับเกียรติจากผู้บริหารและผู้แทนจากเครือข่ายพันธมิตร ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน สถาบันการศึกษา คณะครู และนักเรียนเข้าร่วมงาน ณ เอ็มซีซี ฮอลล์ ชั้น 3 เดอะมอลล์ ไลฟ์สโตร์ บางกะปิ

ผศ.ดร.ณัฐพล เปิดเผยว่า ดีป้า มุ่งส่งเสริมการพัฒนาความรู้และทักษะดิจิทัล โดยเฉพาะ Coding แก่ เด็กและเยาวชน ตลอดจนคณะครู รวมไปถึงบุคลากรทางการศึกษาของประเทศมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2561 ภายใต้โครงการ ‘Coding Thailand’ จากนั้นในปี 2566 ดีป้า ได้ดำเนินโครงการ Coding for Better Life สร้างรากฐานอนาคตประเทศไทย ที่ช่วยยกระดับห้องเรียน Coding ได้ถึง 1,500 โรงเรียนทั่วประเทศ นักเรียน ครูกว่า 3,200 คนร่วมยกระดับทักษะ Coding เข้มข้นผ่านกิจกรรม Coding Bootcamp ประชาชนกว่า 1.16 แสนคนเกิดความตระหนักรู้เกี่ยวกับ Coding ผ่านกิจกรรม Coding Roadshow เกิดผลงานที่ได้รับการสร้างสรรค์โดยครูและนักเรียนจากทั่วประเทศผ่านโครงการดังกล่าวมากกว่า 900 ผลงาน

สำหรับปี 2568 ดีป้า ดำเนินโครงการ Coding Thailand 2025: AI-Driven Future โดยมุ่งส่งเสริมการพัฒนาทักษะด้าน Coding, STEM, AI และ IoT รวมถึงความรู้ด้าน AIoT, Robotics และ Edge AI แก่นักเรียนระดับประถมศึกษา มัธยมศึกษา และอาชีวศึกษา โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้เยาวชนไทยก้าวทันโลกในยุคดิจิทัลที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว และพร้อมแข่งขันกับนานาประเทศ

ผศ.ดร.ณัฐพล กล่าวต่อว่า การแข่งขัน National Coding & AI Competition อีกหนึ่งกิจกรรมสำคัญในโครงการ Coding Thailand 2025: AI-Driven Future จัดขึ้นเพื่อส่งเสริมให้เยาวชนไทยสะท้อนศักยภาพจากการเรียนรู้ทักษะด้าน Coding & AI ผ่านการสร้างสรรค์นวัตกรรมเพื่อประยุกต์ใช้จริง โดยครูและนักเรียน จำนวน 200 ทีมที่เข้าร่วมการแข่งขันคือ สุดยอดทีมที่ผ่านการคัดเลือกจากผู้สมัครทั่วประเทศกว่า 12,000 คน หรือกว่า 3,000 ทีม ผ่านการเรียนรู้และทดสอบความรู้บนแพลตฟอร์มออนไลน์สู่ 800 ทีม เพื่อเข้าร่วมการอบรมเชิงปฏิบัติการในกิจกรรม Coding & AI Acceleration และนำเสนอแนวคิดการพัฒนานวัตกรรมของนักเรียน รวมถึงแผนพัฒนาศูนย์การเรียนเรียนรู้อย่างยั่งยืนของครูประจำทีม ก่อนคัดเหลือ 400 ทีมเข้าสู่ Regional Coding & AI Competition ซึ่งทุกทีมได้ Pitching ผลงานต่อคณะกรรมการในการแข่งขันระดับภูมิภาค จนได้มาซึ่งทีมที่มีความโดดเด่นและศักยภาพสูง จำนวน 200 ทีม โดยแบ่งเป็น ทีมระดับประถมศึกษา 50 ทีม มัธยมศึกษา 100 ทีม และอาชีวศึกษา 50 ทีม เข้าสู่การแข่งขันรอบชิงชนะเลิศระดับประเทศ

ทั้งนี้ การแข่งขันรอบชิงชนะเลิศระดับประเทศจะมีเพียง 91 สุดยอดผลงานนวัตกรรมดิจิทัลที่จะได้รับรางวัลเป็นทุนการศึกษา และทุนส่งเสริมการพัฒนาศูนย์การเรียนรู้ รวมมูลค่ากว่า 18 ล้านบาท พร้อมกันนี้จะมีเพียง 1 ทีมที่ได้รับรางวัล Best of the Best และจะได้สิทธิ์เข้าร่วมแข่งขันในเวทีนานาชาติ Taiwan Science Festival and MARC Open Championship 2025

นอกเหนือไปจากการแสดงผลงานนวัตกรรม Coding & AI ของสุดยอดเยาวชนทั้ง 200 ทีมแล้ว ภายในงานยังมีบูธกิจกรรม และบูธจัดแสดงเทคโนโลยีเพื่อการเรียนรู้และพัฒนาทักษะดิจิทัลที่น่าสนใจ พร้อมเสวนาพิเศษในหัวข้อที่น่าสนใจ อาทิ ‘From Classroom to Careers: Coding & AI พลิกโฉมเส้นทางการเรียนและการทำงานอย่างไร?’ ‘Coding & AI พลิกโฉมนวัตกรรมแห่งอนาคต’ และ ‘Coding & AI for Scale up Journey ต่อยอดนวัตกรรม Coding & AI ขยายไอเดียสู่ธุรกิจ’ โดยผู้เชี่ยวชาญจากทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคการศึกษา ที่มาร่วมแลกเปลี่ยนแนวคิด ประสบการณ์ พร้อมมอบคำแนะนำ และสร้างสรรค์แรงบันดาลใจแก่ผู้ที่สนใจ

โครงการ Coding Thailand 2025: AI-Driven Future ยังได้รับความร่วมมือจากภาคเอกชน
ไม่ว่าจะเป็น ผลิตภัณฑ์แบรนด์ซุปไก่สกัด โดย บริษัท ซันโทรี่ เบเวอเรจ แอนด์ ฟู้ด (ประเทศไทย) จำกัด ที่ร่วมสนับสนุนโครงการมาอย่างต่อเนื่อง พร้อมเสริมทุนสนับสนุนให้กับทีมที่คว้ารางวัล Best of the Best และ รางวัลระดับ Gold รวมถึงรางวัลพิเศษ นอกจากนี้ยังมี บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) สนับสนุนคูปองการเรียนรู้และหลักสูตรพิเศษจาก TRUE DIGITAL ACADEMY เอ็มซีซี ฮอลล์ เดอะมอลล์ ไลฟ์สโตร์ บางกะปิ สถานที่จัดงานพร้อมสนับสนุนสื่อประชาสัมพันธ์การแข่งขัน เอไอเอ ประเทศไทย สนับสนุนงบประมาณให้กับโรงเรียนในโครงการ รวมถึง Arduino และ Makeblock สนับสนุนอุปกรณ์และแพลตฟอร์มส่งเสริมการเรียนรู้ทักษะดิจิทัล พร้อมด้วยเครือข่ายภาคเอกชนและภาคการศึกษาอีกมากมายที่ร่วมสนับสนุนโครงการด้วยเป้าหมายเดียวกันคือ มุ่งส่งเสริมความรู้ด้าน Coding และ AI ให้เยาวชน และสร้างกำลังคนดิจิทัล เพื่อเป็นกําลังสําคัญในการขับเคลื่อนประเทศไทยไปสู่ยุคเศรษฐกิจและสังคมดิจิทัลได้อย่างมีประสิทธิภาพ

การแข่งขันตลอดทั้ง 3 วันของ National Coding & AI Competition จะมีการจัดแสดงผลงานนวัตกรรมดิจิทัลของเยาวชนทั้ง 200 ทีม และการนำเสนอผลงานบนเวทีจาก 31 ทีมสุดท้ายในวันเสาร์ที่ 4 ตุลาคม ก่อนเข้าสู่รอบ 6 ทีมสุดท้ายเพื่อชิงตำแหน่ง Best of the Best ในวันอาทิตย์ที่ 5 ตุลาคม และจะมีการประกาศผล 91 สุดยอดผลงานในช่วงบ่ายวันเดียวกัน ดีป้า จึงขอเชิญชวนน้องๆ เยาวชน ผู้ปกครอง และประชาชนที่สนใจมาร่วมส่งกำลังใจให้ผู้เข้าแข่งขันในรายการ National Coding & AI Competition รอบชิงชนะเลิศระดับประเทศได้ตั้งแต่วันนี้ไปจนถึงวันที่ 5 กันยายนนี้ที่ เอ็มซีซี ฮอลล์ ชั้น 3 เดอะมอลล์ ไลฟ์สโตร์ บางกะปิ และสามารถติดตามข่าวสารของโครงการและกิจกรรมต่างๆ ที่เพจเฟซบุ๊ก depa Thailand และ Coding Thailand by depa