AIS PLAY ผู้ให้บริการด้านดิจิทัลแพลตฟอร์มและศูนย์กลางความบันเทิงครบวงจรของประเทศไทย ได้ประกาศเดินหน้ายกระดับกลยุทธ์คอนเทนต์กีฬาอย่างเต็มกำลัง ด้วยการจับมือเป็นพันธมิตรกับ National Basketball Association (NBA) เพื่อถ่ายทอดสดศึกบาสเกตบอลระดับโลก ฤดูกาล 2025-26 การเคลื่อนไหวครั้งนี้นับเป็นอีกก้าวสำคัญในการขยายฐานผู้ชมและตอกย้ำจุดยืนในการเป็นศูนย์กลางความบันเทิงและกีฬาอันดับ 1 ของไทย
ฤดูกาล NBA 2025-26 มีกำหนดเปิดฉากขึ้นในวันพุธที่ 22 ตุลาคม 2568 (ตามเวลาไทย) โดยแพ็กเกจการรับชม “NBA 2025-26” ที่นำเสนอมีความคุ้มค่าสูง โดยเริ่มต้นเพียง 249 บาทต่อเดือน (ไม่รวม VAT) ซึ่งมอบประสบการณ์รับชมการแข่งขันที่จัดเต็ม ครอบคลุมมากกว่า 290 แมตช์ ตั้งแต่การแข่งขันฤดูกาลปกติ (Regular Season) ไปจนถึงรอบเพลย์ออฟ (Playoffs), All-Star Weekend, และรอบชิงชนะเลิศ NBA Finals พร้อมทั้งมีบริการบรรยายไทยเต็มอรรถรส
รุ่งทิพย์ จารุศิริพิพัฒน์ หัวหน้าฝ่ายงานธุรกิจเอนเตอร์เทนเมนท์ AIS ได้กล่าวถึงความมุ่งมั่นในการขับเคลื่อนแพลตฟอร์มว่า “ที่ผ่านมา AIS เดินหน้ายกระดับ AIS PLAY ให้ก้าวขึ้นเป็นศูนย์กลางความบันเทิงครบวงจรที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย บนเครือข่ายที่ดีที่สุด ด้วยการคัดสรรคอนเทนต์คุณภาพจากทั่วโลก เพื่อส่งมอบประสบการณ์ความบันเทิงและกีฬาอย่างต่อเนื่อง”
การนำคอนเทนต์ระดับโลกอย่าง NBA เข้ามาเสริมทัพในครั้งนี้ ถือเป็นก้าวสำคัญของการขยายฐานผู้ชมให้กว้างขึ้น นอกจากนี้ ยังเป็นการยกระดับประสบการณ์การรับชมให้แฟนบาสเกตบอลได้สัมผัสทุกแมตช์สำคัญผ่าน AIS PLAY ควบคู่กับสิทธิ์การรับชม NBA และความบันเทิงระดับโลกจาก Prime Video แพ็กเกจใหม่นี้มีขึ้นเพื่อเติมเต็มไลฟ์สไตล์แฟนกีฬายุคใหม่ให้สนุก ตื่นเต้น และเข้าถึงได้ง่ายทุกที่ทุกเวลา และยังมีส่วนสำคัญในการผลักดันและยกระดับวงการบาสเกตบอลในประเทศไทยให้แข็งแกร่งมากยิ่งขึ้นด้วย
ความคุ้มค่าที่เหนือกว่า รวมสิทธิ์ NBA และ Prime Video ในแพ็กเดียว
แพ็กเกจ NBA 2025-26 รายเดือน ในราคา 249 บาทต่อเดือน (ไม่รวม VAT) ถือเป็นการรวมสิทธิ์การถ่ายทอดสดจากทั้ง NBA และ Prime Video เข้าไว้ด้วยกันอย่างลงตัว ซึ่งนอกจากลูกค้าจะสามารถรับชมการถ่ายทอดสดทุกแมตช์สำคัญ ทั้งฤดูกาลปกติ รอบเพลย์ออฟ และ All-Star Weekend ผ่าน AIS PLAY แล้ว ยังสามารถเข้าถึงความบันเทิงระดับโลกจาก Prime Video พร้อมชมการแข่งขันฤดูกาลปกติและแมตช์ใหญ่สุดเอ็กซ์คลูซีฟ อาทิ Emirates NBA Cup, Play-In Tournament, และ NBA Finals สำหรับผู้ที่สนใจสามารถสมัครได้โดยกด 67823# โทรออก (รับชมได้ถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2569)
เพื่อเป็นการอุ่นเครื่องความมันส์ก่อนเปิดศึกฤดูกาลปกติ ลูกค้าเอไอเอสยังได้รับสิทธิ์ชมฟรีถ่ายทอดสด NBA Pre-Season ในวันที่ 4, 6, 10, 12 และ 16 ตุลาคม 2568 ผ่าน AIS PLAY อีกด้วย
มั่นใจผลตอบรับ! ชี้การตลาดกีฬาต้องเน้น ‘ที่สุด’ ในแต่ละเซ็กเมนต์
ผลตอบรับเบื้องต้นภายหลัง AIS PLAY นำเสนอบริการรับชมกีฬาแบบสมัครสมาชิก (subscription) พบว่าจำนวนตัวเลขของลูกค้าที่สมัครเข้ามารับชมนั้นอยู่ในระดับที่น่าพอใจ โดยย้ำชัดเจนว่าบริการรับชมเนื้อหานี้มีการกำหนดให้ลูกค้าต้องสมัครสมาชิกเพื่อรับชม และบริษัทได้ให้ความสำคัญกับการมอบราคาพิเศษให้แก่สมาชิก วิธีการคัดเลือกเนื้อหากีฬาที่จะนำเสนอ มุ่งเน้นไปยังกีฬาที่ได้รับความนิยมสูงสุดในแต่ละกลุ่ม (segment) เพื่อสร้างฐานผู้ชมที่ชัดเจน สำหรับตลาดบาสเกตบอลนั้น จะต้องเป็น NBA เท่านั้นที่ได้รับการคัดเลือกมานำเสนอ ขณะที่ในส่วนของฟุตบอลต่างประเทศที่ได้รับความนิยมสูงสุดคือ พรีเมียร์ลีก (EPL) ส่วนฟุตบอลไทยคือ ไทยลีก (Thai League) และ ทีมชาติ แต่ในแง่ของการผลิตและการถ่ายทำ (Production) เนื้อหาทั้งหมด โดยเฉพาะการถ่ายทอดสดที่บริษัทได้ประมูลสิทธิ์มา จะอยู่ภายใต้การดำเนินการของบริษัทเอง
วิเคราะห์ฐานผู้ชมกีฬาหลัก 10-15 ล้านคน แต่ NBA คือ ‘ความท้าทายที่ต้องแลกด้วยความรัก’
จากการวิเคราะห์ความสนใจของตลาดผู้ชม พบว่า ตัวเลขของผู้ที่มีความสนใจในเนื้อหากีฬาโดยรวม แต่อาจไม่ได้ดูการถ่ายทอดสดแบบทันที (Live) อาจมีจำนวนสูงถึง 15 ล้านคน เมื่อแบ่งตามเซ็กเมนต์ความสนใจพบว่า กลุ่มที่สนใจกีฬาที่ได้รับความนิยมสูง เช่น ไทยลีก (Thai League) อาจมีประมาณ 10 ล้านคน ขณะที่กลุ่มที่สนใจเซ็กเมนต์อื่นๆ หรือกีฬานอกกระแสหลัก อาจมีประมาณ 2-3 ล้านคน ทั้งนี้ คำว่า "สนใจ" ไม่ได้หมายความว่าผู้ชมจะต้องดูการถ่ายทอดสด (Live) เสมอไป แต่อาจหมายถึงการติดตามข้อมูล อ่านไฮไลต์ หรือตื่นเช้ามาดูไฮไลต์ย้อนหลัง
อย่างไรก็ตาม ผู้ประกอบการยอมรับว่า NBA ถูกจัดเป็นกีฬาที่มีกลุ่มผู้ชมเฉพาะ (niche sport) และจำเป็นต้องเป็นผู้ที่ชื่นชอบในกีฬานั้นอย่างแท้จริง เนื่องจากมีปัญหาหลักเรื่องเวลาในการถ่ายทอดสด กีฬาอเมริกันมักจะเริ่มถ่ายทอดสดตั้งแต่เช้ามืด คือประมาณ 06:00 น. หรือ 06:30 น. และจบลงประมาณช่วงเที่ยง การถ่ายทอดสดมีขึ้นแทบทุกวัน ดังนั้นผู้ชมส่วนใหญ่ที่สามารถตื่นมาดูได้ทันมักจะเป็นกลุ่มนักเรียน นักศึกษา และคนทำงานที่ตื่นเช้า
ฟีเจอร์การรับชม เน้นไฮไลต์และการย้อนหลัง 7 วันเพื่อตอบโจทย์เวลาที่จำกัด
เนื่องจากช่วงเวลาการถ่ายทอดสดที่ไม่เอื้ออำนวยสำหรับคนจำนวนมาก แพลตฟอร์มจึงได้เน้นฟีเจอร์การรับชมย้อนหลัง (Replay) เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ชม
สำหรับฟีเจอร์การรับชมถูกกำหนดไว้ดังนี้
1.ถ่ายทอดสด (Live) หากเป็นการรับชม Live จะสามารถรับชมย้อนหลังได้เพียง 7 วัน เท่านั้น
2.ไฮไลต์ (Highlights) มีการตัดไฮไลต์ของทุกเกมไว้ให้ และไฮไลต์เหล่านี้จะคงอยู่ให้รับชมได้ในระยะยาว
ทั้งนี้ การรับชมเกมเก่า ๆ ที่ผ่านไปนาน 2-3 เดือน อาจไม่สามารถทำได้ทันทีในรูปแบบของ Replay แต่จะเป็นการรับชมผ่านไฮไลต์หรือคลิปที่บริษัทคัดสรรมา
ยืนยัน ไม่แข่งราคาต่อหัว แต่ชู ‘Localization’ สู้คู่แข่ง
แม้ว่าแพ็กเกจหลักสำหรับการรับชม NBA จะมีราคาเข้าถึงง่ายที่ 249 บาท แต่ AIS PLAY ได้วิเคราะห์การแข่งขันด้านราคา โดยเฉพาะกับคู่แข่งรายอื่น ที่มีราคาขายประมาณ 300 ถึง 400 บาท และมักมีการนำไปหารเฉลี่ยเพื่อให้มีต้นทุนต่อคนต่ำลง อย่างไรก็ดี ยืนยันว่าจะไม่ลงไปแข่งขันด้านราคาโดยตรงในลักษณะของการหารเฉลี่ย เนื่องจากคอนเท็นต์เป็นการให้บริการแบบ ต่อคน (per person)
AIS PLAY มั่นใจในการสร้างความแตกต่างจากคู่แข่ง โดยเน้นการเสริมเนื้อหาในส่วนของการแปลและการผลิตในท้องถิ่น (Localization) ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ลูกค้ายอมรับแพ็กเกจราคาสูงกว่าคู่แข่งที่ใช้โมเดลหารเฉลี่ย
จุดแข็งหลักของคอนเท็นต์ ได้แก่
- การพากย์ไทย (ภาคไทย) คู่แข่งไม่ได้มีบริการพากย์ไทย ในขณะที่ AIS PLAY มีทั้งการพากย์ไทยและการรีรัน (Replay)
- รายการเสริม มีรายการและเนื้อหาเสริมที่เป็นภาษาไทยทั้งหมด
- วิดีโอ (Video) มีการเพิ่มมิติของวิดีโอ ซึ่งรวมถึงเนื้อหาประเภทซีรีส์ (Series) เข้ามาในบริการ ซึ่งเป็นสิ่งที่คู่แข่งไม่ได้มี
การเติมเต็มทั้งในส่วนของการพากย์ไทยและรายการเฉพาะ ทำให้แพ็กเกจมีความคุ้มค่ามากกว่าการแข่งขันด้านราคาเพียงอย่างเดียว
แพ็กเกจหลากหลาย ดึงดูดลูกค้าด้วยคอนเทนต์ครบวงจร
สำหรับผู้บริโภคที่ต้องการรับชมกีฬาและเนื้อหาอื่นๆ เพิ่มเติม AIS PLAY ได้มีการนำเสนอแพ็กเกจที่หลากหลาย ซึ่งคาดหวังว่าแพ็กเกจกีฬาจะเป็นตัวเสริมที่ดึงดูดลูกค้าในระยะยาวมากที่สุด
- แพ็กเกจ NBA (เฉพาะกีฬา) ราคา 249 บาทต่อเดือน (ไม่รวม VAT)
- แพ็กเกจเสริม VOD/Series ราคา 149 บาทต่อเดือน (สำหรับลูกค้าบางส่วนที่ซื้อแพ็กเกจเสริม)
- แพ็กเกจ PLAY SPORTS ราคา 599 บาทต่อเดือน (ไม่รวม VAT) แพ็กเกจใหม่นี้จะเริ่มจำหน่ายในวันที่ 15 ตุลาคม 2568 เป็นต้นไป โดยรวมการรับชมช่องพรีเมียมและรายการกีฬาระดับโลก เช่น พรีเมียร์ลีก, NFL และ NBA ผ่าน AIS PLAY พร้อมคอนเทนต์จาก Prime Video และ Monomax (สมัครกด 67888# โทรออก)
- แพ็กเกจ PLAY ULTIMATE+SPORTS รายเดือน ราคา 1,499 บาทต่อเดือน นาน 12 เดือน หลังจากนั้นค่าบริการ 1,799 บาท (ไม่รวม VAT) แพ็กเกจนี้รวมที่สุดของความบันเทิงและกีฬาทั้งหมดในแพ็กเดียว จัดเต็มช่องพรีเมียมและคอนเทนต์กีฬานำอย่าง พรีเมียร์ลีก, NFL และ NBA บน AIS PLAY รวมถึงความบันเทิงจากสตรีมมิงแพลตฟอร์มชั้นนำมากมาย อาทิ Netflix, HBO Max, Disney+ Hotstar, Prime Video, iQIYI, Viu, WeTV, AIS KARAOKE, Monomax และ oneD (สมัครกด 6781# โทรออก)
ลูกค้าสามารถสมัครบริการได้ทั้งลูกค้ามือถือระบบรายเดือน, เติมเงิน และลูกค้าเน็ตบ้าน AIS 3BB FIBRE3 และรับชมได้ทุกที่ ทุกเวลา ผ่าน AIS PLAY ทั้งทางสมาร์ตโฟน แท็บเล็ต หรือสมาร์ตทีวี บนเครือข่ายที่ดีที่สุด ตอกย้ำบทบาทผู้นำดิจิทัลแพลตฟอร์มที่รวบรวมคอนเทนต์กีฬาและความบันเทิงครบวงจรของไทย ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมที่ Link https://www.ais.th/consumers/entertainment/sport/nba