เอกราช ปัญจวีณิน หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านดิจิทัล บมจ. ทรู คอร์ปอเรชั่น ได้เผยวิสัยทัศน์บนเวทีเสวนา “Digital & AI Intelligence Unleashed” ในงาน CP Innovation Exposition and Symposium 2025 ซึ่งจัดขึ้นโดยเครือเจริญโภคภัณฑ์ ภายใต้แนวคิด “นวัตกรรมสร้างอนาคตเพื่อวันพรุ่งนี้ที่ดีกว่า – Innovate the Future for a Better Tomorrow” โดยคุณเอกราชได้เน้นย้ำถึงศักยภาพอันมหาศาลของเทคโนโลยีในการเปลี่ยนแปลงอุตสาหกรรมต่างๆ ทั่วโลก ความรวดเร็วของคลื่นความเปลี่ยนแปลงจากนวัตกรรม เทคโนโลยีที่จะกำหนดทิศทางของโลกในทศวรรษหน้า และกลยุทธ์ที่จะช่วยให้องค์กรสามารถก้าวเดินสู่ความสำเร็จได้
เอกราช เผยว่า หากมองย้อนกลับไปดูความเคลื่อนไหวของดัชนี S&P 500 จากอดีตจนถึงปลายปี 2024 จะเห็นได้ว่าเทคโนโลยีและการอยู่รอดหรือเติบโตขององค์กรธุรกิจมีความสัมพันธ์กันชัดเจน บางผลิตภัณฑ์หรือธุรกิจไม่มีอยู่แล้วในปัจจุบัน ขณะที่ธุรกิจที่ยังคงอยู่ก็เปลี่ยนแปลงไปอย่างมากด้วยพลังของนวัตกรรม ไม่ว่าจะเป็นโซเชียลมีเดียหรือสมาร์ทโฟน นอกจากนี้ เทคโนโลยีในระยะหลังอย่าง Generative AI หรือการเดินทางสู่อวกาศในเชิงพาณิชย์ (commercial spaceflight) สามารถสร้างความเปลี่ยนแปลงได้อย่างรวดเร็วมากเมื่อเทียบกับนวัตกรรมในยุคก่อน จึงยิ่งตอกย้ำความสำคัญของนวัตกรรมที่มีต่อองค์กรในยุคนี้
ส่องเส้นทางการเติบโตของนวัตกรรม: รูปแบบ ความก้าวหน้า และผลกระทบต่อตลาด
นอกจากภาคธุรกิจแล้ว
กระบวนการสร้างสรรค์นวัตกรรมเองก็เปลี่ยนแปลงไปตามเทคโนโลยีและแนวคิดในแต่ละยุค
จากในยุค 90 ที่มุ่งเน้นการวิจัยและพัฒนา (R&D) ขยับมาสู่ยุค 2000 ที่นำหลักการ Design
Thinking เข้ามาระบุปัญหา ทดลองหาวิธีแก้ และสร้างเป็นนวัตกรรม
และต่อมาในช่วงทศวรรษ 2010 ที่ขยับมาเป็นแนวคิดแบบ Agile
การจัดทีม-จัดเวลาทำโปรเจกต์ด้วยหลักการ Sprint
และ Squad ก่อนจะนำมาสู่ปัจจุบัน
ที่การสร้างนวัตกรรมจะต้องมี AI เป็นรากฐานสำคัญ ใช้ข้อมูลให้เกิดประโยชน์สูงสุด
และพัฒนาขึ้นในรูปแบบแพลตฟอร์ม ส่วนนวัตกรรมที่เกิดขึ้นนั้น
สามารถแบ่งออกได้เป็น 4 ประเภทใหญ่ๆ
ตามความสดใหม่ของเทคโนโลยีและผลที่มีต่อตลาด ดังนี้
·
Incremental Innovation นวัตกรรมที่มีความเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีไม่มาก
และสร้างความเปลี่ยนแปลงในตลาดได้ไม่มากเช่นกัน เช่นการออกรถยนต์รุ่นใหม่
สินค้ารสชาติใหม่
·
Sustaining Innovation นวัตกรรมที่รักษาความเป็นผู้นำตลาด
เช่นการเปิดตัวสมาร์ทโฟนรุ่นท็อปตัวใหม่
·
Radical Innovation นวัตกรรมที่มีความสดใหม่มากๆ
ทางเทคโนโลยี แต่ยังไม่สร้างกระแสความเปลี่ยนแปลงมากนักในตลาด เช่นสมาร์ทโฟนจอพับ
·
Disruptive Innovation ซึ่งเป็นนวัตกรรมที่ทรงพลังที่สุด
พลิกโฉมอุตสาหกรรมได้มากที่สุด เช่นการมาถึงของบริการ ride sharing ต่างๆ
ที่นำความสามารถหลากหลายของสมาร์ทโฟนมาต่อยอดเป็นบริการที่ตอบโจทย์ด้านการเดินทางในชีวิตประจำวันได้
โดยที่เจ้าของบริการไม่ต้องลงทุนซื้อรถมาบริการลูกค้าแม้แต่คันเดียว
10 เทรนด์นวัตกรรม พลังที่พร้อมเปลี่ยนอนาคต
เมื่อมองไปข้างหน้าว่าเทรนด์เทคโนโลยีในอีก
5-10 ปีจะเป็นอย่างไร คุณเอกราช เปิดเผยถึง 10 พลังนวัตกรรมเทคโนโลยีที่จะกำหนดอนาคตของโลกใบนี้และสร้างความเปลี่ยนแปลงอย่ามหาศาล
ไม่ว่าจะเป็น
· Living
Intelligence — เมื่อเครื่องมือดิจิทัล รวมเป็นหนึ่งเดียวกับ Biotechnology
เกิดความเป็นไปได้ใหม่ๆ เช่น
การควบคุมและสื่อสารกับคอมพิวเตอร์ผ่านสมอง (brain-computer interface) และการทำนายภาวะทางสุขภาพ ป้องกันโรคภัยต่างๆ
ด้วยข้อมูลจากร่างกายของเราเอง
· Action
Models – AI จะถูกพัฒนาให้มีความสามารถเกินกว่าการใช้ภาษาในแบบของ
Language Model ที่ใช้กันทั่วไปในปัจจุบัน ไปสู่การเป็น Action
Model ที่สามารถลงมือทำงานได้จริง
ไม่เพียงให้ข้อมูลหรือตอบคำถามเท่านั้น
· Robotics Break Free — หุ่นยนต์จะออกมาทำงานนอกขอบเขตของสภาพแวดล้อมควบคุม
(controlled environment) เช่น จากที่เคยทำงานอยู่ภายในโรงงาน
อนาคตจะมีโดรนบินส่งของ มีหุ่นยนต์ที่รูปร่างคล้ายคลึงมนุษย์ออกมาช่วยงานมนุษย์
ขับเคลื่อนด้วยแพลตฟอร์มที่ทำหน้าที่เป็นเหมือนสมองอยู่เบื้องหลังหุ่นแต่ละตัว
· Agentic
AI — AI ที่สามารถลงมือทำงานหรือให้ข้อเสนอแนะได้โดยไม่ต้องให้ถาม
เพียงให้แนวทางความต้องการไปก็สามารถทำงานและนำผลลัพธ์กลับมาให้เราได้ด้วยตัวเอง
ซึ่งปัจจุบันเริ่มมีใช้กันแล้ว และนับเป็นการเปิดประตูสู่ยุคต่อไปในการใช้ AI
· Metamaterials — การสร้างวัสดุในรูปแบบใหม่ โดยมีโครงสร้างขนาดเล็ก (Nano
Structure) ที่ออกแบบมาเป็นพิเศษ เช่น เลนส์ที่บางมากๆ
อย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน หรือไม้ที่มีเนื้อแข็งแรงทนทานเหมือนเหล็ก
· Unlikely
Alliances — ความร่วมมือและการทำงานร่วมกันแบบข้ามอุตสาหกรรมที่จะมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง
· Climate
Innovation — นวัตกรรมด้านพลังงาน นับตั้งแต่พลังงานสะอาดไปจนถึงการบริหารจัดการพลังงานให้ใช้งานได้เต็มประสิทธิภาพ
ลดการสูญเสียพลังงานโดยไม่เกิดประโยชน์
·
Nuclear Resurgence — เตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์ขนาดเล็ก (Small Modular Reactors) อาจถูกนำมาใช้ผลิตไฟฟ้าเพื่อใช้ในบ้าน
กลายเป็นแหล่งพลังงานสะอาดในระดับผู้ใช้รายย่อย
·
Quantum Leap — การนำ Quantum Computing เข้ามาแก้ไขปัญหาที่เทคนิค
วิธีการ และเทคโนโลยีในปัจจุบันยังทำไม่ได้ หรือทำได้ไม่เร็วพอ
จากเดิมที่ต้องใช้เวลาแก้ปัญหา 5 ปี อาจจะใช้เวลาเหลือเพียง 5
นาที และหากนำมาใช้งานร่วมกับ AI ก็จะทลายข้อจำกัดเดิมๆ
ได้ในหลายมิติ
·
Cislunar Economy — การสร้างประโยชน์ทางเศรษฐกิจจากอวกาศ รวมถึงในด้านโทรคมนาคม
ซึ่งอาจรวมถึงการขยายเครือข่ายสัญญาณต่างๆ ขึ้นสู่อวกาศและดวงจันทร์
ทั้ง
10 เทรนด์นวัตกรรมนี้ เป็นผลมาจากสภาวะ “Hyper-Convergence”
เมื่อโลกของเรามีการหลอมรวม ผสมผสานกันในหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็น
·
Converging Skills เมื่อคนทำงานต้องมีทักษะที่หลากหลายมากขึ้น
ไม่มีเส้นแบ่งชัดเจนระหว่างทักษะด้านเทคโนโลยีและธุรกิจเหมือนในอดีต
·
Converging Technologies เมื่อเทคโนโลยีแต่ละอย่างไม่ได้ทำงานแยกออกจากกัน
แต่สามารถควบรวมและผสานกันจนเกิดเป็นศักยภาพใหม่ๆ และนวัตกรรมขึ้น
·
Converging Partnerships กับความร่วมมือใหม่ๆ
ในภาคธุรกิจ นับตั้งแต่คู่แข่งที่หันมาจับมือกัน ไปจนถึงความร่วมมือข้ามอุตสาหกรรม
ซึ่งทำให้เกิดการแข่งขันและความท้าทายในรูปแบบใหม่ๆ ไปพร้อมกัน
· Converging Data การผสมผสานข้อมูลจากหลายแหล่งและภาคส่วน นำมาวิเคราะห์ให้เกิดความเข้าใจที่เป็นประโยชน์ นำไปขับเคลื่อนธุรกิจได้อย่างแม่นยำกว่า
3 กลไกหลัก หนุนนวัตกรรม ขับเคลื่อนความสำเร็จยุค AI
การสร้างนวัตกรรมให้เกิดขึ้นในองค์กร
ไม่เพียงอาศัยทักษะความสามารถของนวัตกร
แต่องค์กรยังต้องมีระบบนิเวศที่เอื้อต่อการสร้างสรรค์นวัตกรรม
ภายใต้วิสัยทัศน์และการสนับสนุนจากผู้นำองค์กร ตลอดจนความร่วมมือของพนักงานทุกคน
เพื่อผลักดันให้เกิดการนำเทคโนโลยี โดยเฉพาะดิจิทัลและ AI ไปใช้จริง
ก่อเกิดนวัตกรรมเพื่อตอบโจทย์ความท้าทายและความไม่แน่นอนที่องค์กรต้องเผชิญ โดยคุณเอกราชได้ทิ้งท้าย
3 องค์ประกอบสำคัญ
เพื่อก้าวสู่การเป็นองค์กรแห่งนวัตกรรม ได้แก่
·
กำหนดและวางแผนครอบคลุมทุกมิติ
เพื่อเตรียมพร้อมรับมือกับทุกความเป็นไปได้ ทั้งโอกาสและความเสี่ยงรอบด้าน
·
กล้าทดลอง กล้าทำสิ่งใหม่ๆ ซึ่งองค์กรอาจต้องปรับเปลี่ยนกฎระเบียบ
วิถีปฏิบัติ และกระบวนการต่างๆ ให้เหมาะสม
·
ออกแบบองค์กรให้ยืดหยุ่น พร้อมเรียนรู้และปรับเปลี่ยนตัวเอง
ทั้งยังยอมรับได้ในความล้มเหลวที่เป็นประสบการณ์ให้ได้เรียนรู้และเติบโต
#TrueTogether #TrueInnovation #TrueSustainability
#CPInnovationExpo2025 #CPSymposium2025 #CPGroup