แม้เศรษฐกิจดิจิทัลไทยจะเดินหน้าเติบโตอย่างรวดเร็ว แต่การทำธุรกรรมจำนวนไม่น้อยยังสะดุดอยู่กับคำว่า “เอกสารตัวจริง” หลายขั้นตอนการพิจารณาและอนุมัติ ยังคงอิงกับ “ต้นฉบับกระดาษ” ที่ต้องมีการลงลายมือชื่อจริงและส่งไปถึงปลายทาง จึงจะถือว่ามีผลทางกฎหมาย นี่กลายเป็นข้อจำกัดสำคัญของโลกยุคใหม่ ที่การทำธุรกรรมออนไลน์ล้วนทำได้บนออนไลน์ จึงเกิดคำถามสำคัญคือ…“ถ้ายังต้องรอเอกสารกระดาษ ประเทศไทยจะเข้าสู่ Digital Economy ได้จริงหรือ?” หากสิทธิในเอกสารยังคงวิ่งอยู่บนระบบเดิม
e-Transferable
Records (ETR) หรือที่หลายคนเริ่มรู้จักในนาม
‘เอกสารเปลี่ยนมืออิเล็กทรอนิกส์’
จึงกลายเป็นหนึ่งคำตอบที่เริ่มถูกพูดถึงมากขึ้น เนื่องจาก ETR คือเอกสารในรูปแบบดิจิทัลที่สามารถ
“เปลี่ยนมือ” หรือโอนสิทธิความเป็นเจ้าของจากคนหนึ่งไปยังอีกคนหนึ่งได้
โดยกฎหมายรองรับให้มีผลเทียบเท่าเอกสารกระดาษต้นฉบับ
แล้วเอกสารแบบไหนที่สามารถเป็น ETR ได้
และประเทศไทยพร้อมใช้กับเอกสารรูปแบบนี้แล้วหรือยัง? ETDA ในฐานะหน่วยงานกำกับดูแลที่มุ่งส่งเสริมให้ประเทศไทยเกิดการทำธุรกรรมออนไลน์ที่ปลอดภัยน่าเชื่อถือ
สอดคล้องกับมาตรฐานและเป็นที่ยอมของสากล จะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับ ETR ผ่านเวที ETDA Live EP.
5 ‘ปลดล็อก e-Transferable Records พลิกโฉมธุรกรรมการค้าในยุคดิจิทัล’
ไปกับผู้เชี่ยวชาญในวงการธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์และกฎหมายดิจิทัล
อย่าง พลอย เจริญสม ผู้ช่วยผู้อำนวยการ ETDA และ พงษ์พันธ์
ศรีปาน ผู้ชำนาญการ ศูนย์พัฒนากฎหมาย ETDA และเก่งกาจ
อิ่มสัมฤทธิ์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการ ฝ่ายส่งเสริมนวัตกรรมทางการเงินดิจิทัล
สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.)
e-Transferable Records คืออะไร?
หากมองย้อนกลับไปในโลกของเอกสารกระดาษ สิทธิผูกติดอยู่กับตัวเอกสาร ใครถือเอกสารต้นฉบับคนนั้นคือเจ้าของสิทธิ และเมื่อโอนสิทธิ เอกสารตัวจริงก็จะถูกส่งต่อให้ผู้รับสิทธิ แต่เมื่อเข้าสู่โลกดิจิทัล ความท้าทายก็เกิดขึ้น เพราะไฟล์เอกสารต้นฉบับอาจมีได้หลายไฟล์ หรือ สามารถคัดลอกได้ง่าย การถือครองไฟล์เพียงอย่างเดียวจึงไม่อาจยืนยันสิทธิได้จริง ดังนั้น จึงจำเป็นต้องมีกลไกใหม่ เพื่อให้การโอนสิทธิในเอกสารดิจิทัล เกิดขึ้นได้อย่างโปร่งใส ปลอดภัย ตรวจสอบได้ และหนึ่งในกลไกสำคัญที่ว่าก็คือ e-Transferable Records (ETR) หรือ เอกสารเปลี่ยนมืออิเล็กทรอนิกส์ ที่วันนี้เริ่มถูกกล่าวถึงและได้รับความสนใจในแวดวงธุรกรรมดิจิทัลรวมไปถึงการค้าระหว่างประเทศมากขึ้น โดย ETR คือ เอกสารดิจิทัลที่สามารถโอนสิทธิจากผู้หนึ่งไปยังอีกผู้หนึ่งได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย โดยไม่ต้องกังวลว่า เอกสารดิจิทัลที่เราถืออยู่นั่น เป็นสิทธิโดยชอบของเราจริงๆ หรือไม่ หรือเป็นเอกสารที่ถูกปลอมแปลงหรือทำซ้ำโดยไม่ได้รับอนุญาต เนื่องจาก ETR มีกลไกช่วยในการตรวจสอบสถานะและความถูกต้อง และมีผลทางกฎหมายเทียบเท่าเอกสารกระดาษต้นฉบับ ตัวอย่างของเอกสารที่สามารถทำเป็น ETR ได้ ได้แก่ เช็คเงินสด ตั๋วแลกเงิน พันธบัตรหรือหลักทรัพย์ ใบขนส่งสินค้า หลักทรัพย์ดิจิทัล ฯลฯ
UNCITRAL Model
Law on ETR: กรอบกฎหมายสากลเพื่อการค้าดิจิทัล
การเปลี่ยนผ่านจากเอกสารกระดาษสู่ระบบ Electronic Transferable Records (ETR) ไม่ใช่เพียงเรื่องของการนำเทคโนโลยีมาใช้ แต่คือการสร้างโครงสร้างพื้นฐานทางกฎหมายและมาตรฐานกลาง ที่จะทำให้ธุรกรรมยุคดิจิทัลดำเนินไปอย่างโปร่งใส น่าเชื่อถือ และปลอดภัย พร้อมผลักดันให้ประเทศก้าวสู่ Digital Economy ได้อย่างแท้จริง ด้วยเหตุนี้ หลายหน่วยงาน รวมถึง ETDA จึงเดินหน้าสร้าง “กรอบกฎหมายและมาตรฐานกลาง” โดยอ้างอิง UNCITRAL Model Law on Electronic Transferable Records ซึ่งเป็นกฎหมายแม่แบบสากลที่ได้รับการยอมรับทั่วโลก และถูกออกแบบมาเพื่อรองรับการค้าระหว่างประเทศในยุคดิจิทัล
โดย UNCITRAL ได้วางหลักการให้เอกสารเปลี่ยนมือทางอิเล็กทรอนิกส์ หรือ ETR มีผลทางกฎหมายทัดเทียมกับเอกสารกระดาษ โดยมีหลักหัวใจสำคัญ
ที่ไทยนำมาเป็นแนวทางในการพัฒนากฎหมายและมาตรฐานที่เกี่ยวข้องกับ ETR ได้แก่
· Singularity – ความเป็นหนึ่งเดียว ETR ต้องมีเพียง
“ต้นฉบับเดียวที่ใช้บังคับได้”
เพื่อป้องกันการนำเอกสารที่ถูกคัดลอกมาใช้งานหรือใช้สิทธิซ้ำซ้อน
ระบบเทคโนโลยีที่ใช้ต้องมีความน่าเชื่อถือและมีกลไกที่สามารถตรวจสอบหรือแยกแยะต้นฉบับที่แท้จริงได้
· Control – การควบคุมสิทธิโดยบุคคลเดียว ต้องสามารถระบุได้อย่างชัดเจนว่า ใครคือผู้ที่มีสิทธิควบคุมเอกสารอิเล็กทรอนิกส์ในทุกช่วงเวลา ซึ่งการเป็นผู้ที่มีสิทธิควบคุมเอกสารเปรียบได้กับการเป็นผู้ถือครองเอกสาร
นอกจากนั้น ยังมีหลักการรองรับสำหรับการโอนเอกสารอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งสามารถทำได้โดยการโอนสิทธิควบคุมในเอกสาร และเมื่อโอนเอกสารแล้วผู้รับโอนย่อมมีสิทธิในการควบคุมเอกสาร ส่วนผู้โอนต้องสิ้นสิทธิในการควบคุมเอกสาร เพื่อให้สามารถรักษาหลักการควบคุมสิทธิโดยบุคคลเดียว
ประเทศไทยพร้อมรองรับ
ETR
มากแค่ไหน?
ปัจจุบันประเทศไทยมีกฎหมายรองรับ
ETR ผ่านพระราชบัญญัติว่าด้วยธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์
พ.ศ. 2544 ที่พัฒนาโดย ETDA กฎหมายฉบับนี้ครอบคลุมธุรกรรมอิเล็กทรอนิกส์แทบทุกประเภท
ทั้งทางแพ่งและพาณิชย์ รวมถึงการรองรับการใช้ ETR แต่เมื่อเจาะอินไซด์ต่อแล้วยังพบว่าหน่วยงานต่างๆ ยังเกิดความไม่มั่นใจที่จะใช้งาน
เนื่องจากยังมีประเด็นที่ต้องตีความและขยายความให้ชัดเจนเกี่ยวกับขอบเขตของสิทธิ
และการรองรับทางกฎหมายของเอกสารเปลี่ยนมืออิเล็กทรอนิกส์
และเพื่อสร้างความมั่นใจในการใช้งาน ETDA จึงได้มีการทำงานร่วมกับ
สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา และสำนักงานขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ ยุทธศาสตร์ชาติ
และการสร้างความสามัคคีปรองดอง (ป.ย.ป.) เพื่อดำเนินการปรับปรุงพระราชบัญญัติว่าด้วยธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์
พ.ศ. 2544 โดยมีการเพิ่มเติมหลักการเกี่ยวกับ ETR และกำหนดคุณสมบัติต่างๆ เพื่อรองรับให้ ETR มีผลทางกฎหมายเทียบเท่ากับเอกสารเปลี่ยนมือในรูปแบบกระดาษ
โดยอ้างอิงหลักการมาจาก UNCITRAL Model Law on Electronic Transferable
Records (MLETR) เพื่อให้กฎหมายที่จะออกมามีความเป็นสากลและสอดคล้องกับนานาประเทศ
นอกจากการปรับปรุงกฎหมายว่าด้วยธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์
ทางสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (สำนักงาน ก.ล.ต.)
ก็อยู่ในระหว่างพัฒนาปรับปรุงตัวบทกฎหมายควบคู่กันไปในลักษณะเดียวกัน
เพื่อให้มีความชัดเจนมากยิ่งขึ้นในการรองรับการใช้งานเอกสารเปลี่ยนมืออิเล็กทรอนิกส์สำหรับภาคหลักทรัพย์
แม้ปัจจุบันกฎหมายในประเทศไทยที่เกี่ยวกับ ETR จะยังไม่บังคับใช้เต็มรูปแบบ แต่ในวงเสวนานี้แนะว่า ผู้ประกอบการ นักลงทุน รวมถึงภาคประชาชนสามารถยึดแนวทาง UNCITRAL เป็นฐานอ้างอิงสำคัญก่อนได้ เพื่อเปิดทางให้ผู้ออกเอกสารเปลี่ยนมืออิเล็กทรอนิกส์สามารถออกและโอนเอกสารได้ถูกต้องตามกฎหมาย ช่วยลดข้อจำกัดทางกฎหมายเดิมที่ผูกพันกับเอกสารกระดาษ และเปิดโอกาสต่อยอดเทคโนโลยีใหม่ๆ เช่น บล็อกเชนในธุรกิจการเงิน และตลาดหลักทรัพย์อย่างเต็มรูปแบบ
พร้อมเน้นย้ำว่า ความร่วมมือของหน่วยงานภาครัฐคือกุญแจสำคัญในการขับเคลื่อน ETR ให้ใช้งานได้จริงและแพร่หลาย สำนักงาน ก.ล.ต. จับมือกับ ETDA พัฒนากฎหมาย จัดทำมาตรฐานกลาง และเตรียมความพร้อมผู้ประกอบการผ่าน Regulatory Sandbox เพื่อให้ธุรกิจได้ทดลองใช้เทคโนโลยีอย่างปลอดภัย ขณะเดียวกัน ETDA ก็เดินหน้ากำหนดกรอบกฎหมายที่ชัดเจน และเปิดเวทีรับฟังความคิดเห็นจากภาคธุรกิจ เพื่อให้กฎหมายครอบคลุมและตอบโจทย์การใช้งานจริง เพราะการกำกับดูแลควบคู่กับการเปิดพื้นที่ทดลองและพูดคุยอย่างต่อเนื่อง จึงเป็นหัวใจที่จะทำให้ประเทศไทยก้าวสู่ระบบเศรษฐกิจดิจิทัลที่มั่นคง น่าเชื่อถือ และพร้อมเชื่อมต่อสู่ Digital Trade ในอนาคต - ติดตามความเคลื่อนไหวเพิ่มเติมที่ เพจ ETDA Thailand