25 ส.ค. 2568 122 0

TRUE เตรียมรับมือด่วน 'พายุไต้ฝุ่นคาจิกิ' เร่งดูแลการสื่อสารมือถือและเน็ตบ้าน

TRUE เตรียมรับมือด่วน 'พายุไต้ฝุ่นคาจิกิ' เร่งดูแลการสื่อสารมือถือและเน็ตบ้าน


  • เร่งปฏิบัติการเฝ้าระวังพิเศษในจังหวัดน่าน เชียงราย และแพร่
  • นำกรณีศึกษาจาก “พายุวิภา” มาปรับใช้แผนรับมือพายุคาจิกิ


ทรู คอร์ปอเรชั่น จัดทีมเน็ตเวิร์กพร้อมตั้งวอร์รูม 24 ชั่วโมง วิเคราะห์ “พายุคาจิกิ” พร้อมปฏิบัติการด่วนรับมือดูแลการสื่อสาร จากที่กรมอุตุนิยมวิทยา คาดการณ์จะกระทบไทยทำให้ฝนตกหนักถึงหนักมาก ทีมทรูห่วงใยเกรงซ้ำรอยพายุวิภาที่กระทบไทยช่วงกรกฎาคมที่ผ่านมา ตั้งทีมวางแผนวิเคราะห์พร้อมดูแลการสื่อสารทั้งมือถือและเน็ตบ้านในหลายจังหวัดที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบ โดยเฉพาะภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จัดเตรียมเครื่องปั่นไฟ น้ำมันสำรอง ประจำสถานีฐานหลักป้องกันกรณีถูกตัดกระแสไฟฟ้าเพื่อความปลอดภัยของชุมชนกรณีน้ำท่วม พร้อมนำโครงนั่งร้านตั้งอุปกรณ์สูงพ้นแนวน้ำท่วม

ตามที่กรมอุตุนิยมวิทยา ประกาศเรื่อง  พายุไต้ฝุ่นคาจิกิ” มีแนวโน้มเคลื่อนขึ้นฝั่งประเทศเวียดนามตอนบน ก่อนอ่อนกำลังลงเป็นพายุโซนร้อนและพายุดีเปรสชัน จะปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนของไทยในเช้าวันที่ 26 สิงหาคม และเคลื่อนเข้าสู่ภาคเหนือ โดยเฉพาะจังหวัดน่านในช่วงเย็นวันเดียวกัน ส่งผลให้หลายพื้นที่มีโอกาสเผชิญฝนตกหนัก ลมแรง น้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลาก


ประเทศ ตันกุรานันท์ หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านเทคโนโลยีและความปลอดภัยระบบสารสนเทศ บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ทีมเน็ตเวิร์กเราเร่งดำเนินการตามแผนปฏิบัติการฉุกเฉินในทุกพื้นที่เสี่ยง โดยเฉพาะจังหวัดน่าน พร้อมจัดตั้ง War Room ที่ศูนย์ปฏิบัติการเครือข่ายอัจฉริยะ BNIC ทำงานร่วมกับระบบ AI เพื่อเฝ้าตรวจสอบและบริหารจัดการเครือข่ายตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อให้ประชาชนยังคงสื่อสารได้ในทุกสถานการณ์”

ทรู คอร์ปอเรชั่น นำบทเรียนจากการรับมือพายุวิภา (WIPHA) เมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา มาปรับใช้กับแผนรับมือพายุไต้ฝุ่นคาจิกิ เพื่อให้ระบบสื่อสารทั้งมือถือและเน็ตบ้านยังคงใช้งานได้อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในจังหวัดเสี่ยงน้ำท่วม ได้แก่ น่าน เชียงราย และแพร่ เป็นต้น

ผลกระทบของสถานีฐานในการให้บริการจากกรณีศึกษาของพายุวิภา (WIPHA) คือ กรณีถ้าเกิดฝนตกหนักติดต่อกัน และน้ำท่วม จะเกิดการตัดกระแสไฟฟ้าเพื่อความปลอดภัยของประชาชนในพื้นที่ ทำให้สถานีฐานจะต้องถูกตัดกระแสไฟฟ้าตามไปด้วย ดังนั้น ทีมเน็ตเวิร์กได้เตรียมโครงนั่งร้านที่สูงพ้นแนวน้ำท่วมเดิมที่ได้รับผลกระทบจากพายุวิภา สำหรับตั้งอุปกรณ์เครื่องปั่นไฟ พร้อมเตรียมน้ำมันสำรอง ณ สถานีฐานที่เป็นจุดหลักเพื่อให้การบริการมือถือใช้งานได้อย่างต่อเนื่อง


มาตรการเร่งด่วนของทรู คอร์ปอเรชั่น เพื่อรับมือพายุไต้ฝุ่นคาจิกิ

1.       เตรียมเครื่องปั่นไฟ น้ำมันสำรอง และแบตเตอรี่เข้าสู่พื้นที่สถานีฐาน กรณีไฟฟ้าถูกตัดจากน้ำท่วม

2.       เตรียมรถโมบายล์สถานีฐาน (Cell-On-Wheel: COW) เพื่อเสริมสัญญาณในจุดวิกฤต

3.       เตรียมยานพาหนะ 4WD และเรือท้องแบนสำหรับเข้าพื้นที่น้ำท่วม

4.       เตรียมอุปกรณ์สำรองและทีมซ่อมบำรุงฉุกเฉินเพื่อให้บริการได้ต่อเนื่อง

5.       ประสานงานหน่วยงานรัฐและเอกชนเพื่อร่วมช่วยเหลือผู้ประสบภัย

6.       BNIC ศูนย์ปฏิบัติการเครือข่ายอัจฉริยะ พร้อม AI พร้อมดูแลและบริหารเครือข่ายตลอด 24 ชั่วโมง


นอกจากนี้ ทรู คอร์ปอเรชั่น ยังร่วมมือกับกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ในการส่งข้อความแจ้งเตือนภัยผ่านระบบ Cell Broadcast Service (CBS) และ SMS โดย ปภ. จะเป็นผู้กำหนดและออกประกาศเตือนภัยไปยังประชาชนในพื้นที่เสี่ยง

ทรู คอร์ปอเรชั่น ยังคงมุ่งมั่นดูแลระบบสื่อสารให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อให้ประชาชนสามารถติดต่อสื่อสารได้แม้ในยามวิกฤต พร้อมทั้งทำงานใกล้ชิดกับ กสทช. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน