เวทางค์ พ่วงทรัพย์ เลขาธิการคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ กล่าวว่า “ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม” เป็นนโยบายที่มุ่งหวังการเพิ่มศักยภาพทางเศรษฐกิจของประเทศไทย โดยการวางรากฐานสำหรับเศรษฐกิจดิจิทัลทั้งระบบให้สามารถขับเคลื่อนได้อย่างจริงจัง การสร้างความพร้อมภาคประชาชนให้เกิดการรับรู้และใช้ประโยชน์ สำนักงานคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (BDE) ซึ่งมีภารกิจหลักในการส่งเสริมความรู้ความเข้าใจและการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลให้ครอบคลุมทุกภาคส่วนของสังคม จึงได้ตระหนักถึงความสำคัญของการลดช่องว่างทางดิจิทัลระหว่างพื้นที่ในเมืองและชนบท โดยจัดตั้ง "ศูนย์ดิจิทัลชุมชน" ในพื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศ รวม 77 จังหวัด จากเดิม 1,722 แห่ง วันนี้พร้อมเปิดให้บริการเพิ่มเติมอีก 500 แห่ง รวมเป็น 2,222 แห่ง เดินหน้าขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากและลดความเหลื่อมล้ำทางดิจิทัล ผ่าน “โครงการพัฒนาระบบนิเวศศูนย์ดิจิทัลชุมชนอย่างยั่งยืน” ภายใต้แผนปฏิบัติการยุทธศาสตร์ที่ 5 ของแผนการจัดให้มีบริการโทรคมนาคมพื้นฐานโดยทั่วถึงและบริการเพื่อสังคม ฉบับที่ 2 (พ.ศ. 2560 - 2564) เพื่อใช้เป็นพื้นที่แหล่งเรียนรู้สู่อนาคตดิจิทัล พร้อมให้บริการอุปกรณ์คอมพิวเตอร์และอินเทอร์เน็ตสาธารณะ รวมถึงโครงข่ายที่เชื่อมโยงและให้บริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงอย่างต่อเนื่องที่มีประสิทธิภาพ ทั้งยังเป็นการส่งเสริมการใช้ประโยชน์จากอุปกรณ์ดิจิทัลเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากและพัฒนาสังคมในพื้นที่ชนบท โดยมีกลุ่มเป้าหมาย ประกอบด้วย ประชาชน ผู้มีรายได้น้อย คนพิการ เด็ก ผู้สูงอายุ และผู้ด้อยโอกาสในสังคมในพื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศ
สำหรับศูนย์ดิจิทัลชุมชนมีเป้าหมายเพื่อเป็นศูนย์กลางในการให้บริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง
พร้อมให้บริการอุปกรณ์คอมพิวเตอร์และอินเทอร์เน็ตสาธารณะอย่างต่อเนื่อง ทั้งยังเป็นการส่งเสริมการใช้ประโยชน์จากอุปกรณ์ดิจิทัล
และบุคลากรสนับสนุน
เพื่อส่งเสริมให้ประชาชนในท้องถิ่นสามารถประยุกต์ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลในการพัฒนาคุณภาพชีวิต
ซึ่งตั้งอยู่ในสถานที่ที่ประชาชนสามารถเข้าถึงได้อย่างสะดวกสบาย อาทิ วัด มัสยิด ที่ทำการหมู่บ้าน
โรงเรียน และห้องสมุด นอกจากนี้
ศูนย์ดิจิทัลชุมชนยังเป็นช่องทางให้ประชาชนทุกกลุ่ม ทุกพื้นที่สามารถเข้าถึงการเรียนรู้ตลอดชีวิต
การพัฒนาทักษะอาชีพ รวมถึงส่งเสริมเศรษฐกิจและสังคมด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล