15 ส.ค. 2568 154 0

LIRNEasia จัดงาน 'Data Governance in Thailand' จับมือภาครัฐ เอกชน นักวิชาการ แลกเปลี่ยนมุมมองในการสร้างสมดุลเพื่อ กำหนดนโยบายข้อมูล และการออกแบบระบบธรรมาภิบาลข้อมูลในไทย

LIRNEasia จัดงาน 'Data Governance in Thailand' จับมือภาครัฐ เอกชน นักวิชาการ แลกเปลี่ยนมุมมองในการสร้างสมดุลเพื่อ กำหนดนโยบายข้อมูล และการออกแบบระบบธรรมาภิบาลข้อมูลในไทย


เปิดฉากงานเสวนาในรูปแบบเวทีอภิปรายครั้งใหญ่โดย LIRNEasia (ประเทศศรีลังกา)  สถาบันวิจัยนโยบายระดับภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิค ร่วมกับภาควิชาการศึกษาระหว่างประเทศ มหาวิทยาลัยฮันกุกแห่งประเทศเกาหลี (สาธารณรัฐเกาหลี) Privacy Thailand และ สถาบันนโยบายศึกษา ประเทศไทย (IPPS) โดยได้รับการสนับสนุนด้านงบประมาณจาก IDRC-CRID (ประเทศแคนาดา) กับงาน Data Governance in Thailand” หัวข้อ: ธรรมาภิบาลข้อมูลในประเทศไทย ที่รวมตัวผู้เชี่ยวชาญ 3 ภาคส่วน ทั้งจากภาครัฐ ภาควิชาการ ภาคเอกชน และองค์กรภาคประชาสัมคม เข้าร่วมแลกเปลี่ยนความรู้ มุมมอง และประสบการณ์ในการกำหนดนโยบายด้านข้อมูล ในการออกแบบระบบธรรมาภิบาลข้อมูลในประเทศไทย ณ โรงแรมพูลแมน คิงพาวเวอร์ กรุงเทพฯ เร็วๆนี้


สำหรับวัตถุประสงค์ของการจัดงานฟอรัม เพื่อสร้างความตระหนักรู้ในหน่วยงานภาครัฐและประชาชนทั่วไป เกี่ยวกับความสำคัญและความจำเป็นของธรรมาภิบาลข้อมูลในประเทศไทย และการสำรวจความตึงเครียดที่เกิดขึ้นในธรรมาภิบาลข้อมูลเพื่อเปรียบเทียบผลประโยชน์และเป้าหมายของนโยบาย ได้แก่ การรวบรวม จัดเก็บ การใช้ และการแบ่งปันข้อมูล เพื่อสนับสนุนการพัฒนาและการเติบโต โดยยังเน้นการปกป้องความเป็นส่วนตัวและสิทธิมนุษยชนในด้านอื่นๆ รวมถึงแลกเปลี่ยนความคิดเห็นอย่างสร้างสรรค์เกี่ยวกับความท้าทาย ช่องว่าง และโอกาส ในกรอบการกำกับดูแลข้อมูลของประเทศไทย เพื่อนำไปสู่ผลลัพธ์ที่สามารถนำไปปฏิบัติได้จริงและสร้างประโยชน์รอบด้านแบบ 360 องศา

LIRNEasia และนักวิจัยในเครือข่ายได้ร่วมสำรวจความตึงเครียดดังกล่าว รวมถึงแนวทางปฏิบัติเพื่อแก้ไขความตึงเครียดเหล่านี้ใน 7 ประเทศ ได้แก่ ไทย อินเดีย อินโดนีเซีย ศรีลังกา เนปาล ปากีสถาน และฟิลิปปินส์ โดยในเวทีการเสวนานี้ยังเป็นการพิจารณาถึงรูปแบบธรรมาภิบาลข้อมูลของยุโรปและทั่วโลกที่มีอิทธิพลต่อแนวทางต่างๆ ในเอเชีย ซึ่งคำว่า “ธรรมาภิบาลข้อมูล” ได้ถูกนิยามอย่างกว้างๆ ว่าเป็นการรวมกฎหมาย นโยบาย กฎระเบียบ บรรทัดฐาน มาตรฐาน และการออกแบบระบบ มารวมเข้าไว้ด้วยกัน ซึ่งสิ่งเหล่านี้ล้วนมีอิทธิพลต่อวิธีการเพิ่มหรือลดการเข้าถึงข้อมูล


Helani Galpaya, CEO of LIRNEasia กล่าวเปิดเวทีสนทนาและมุ่งเน้นให้เห็นถึงเหตุผลที่จำเป็นในการสร้างสมดุลให้กับกฏหมายชุดต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับข้อมูล และแสดงให้เห็นว่ากฎหมายที่ดูแลกำกับข้อมูลได้รับการพัฒนาขึ้นตามระยะเวลา โดยมีวัตถุประสงค์ที่แตกต่างกัน และสอดคล้องกับนวัตกรรมทางเทคโนโลยีที่แตกต่างกัน โดยยังคงมุ่งเน้นสู่ระบบการกำกับดูแลข้อมูลที่ดีขึ้น

ในส่วนของการอภิปรายแบ่งเป็น 2 ช่วง คือ ช่วงแรกในหัวข้อ “ธรรมาภิบาลข้อมูล – ความท้าทาย ช่องว่าง และโอกาส ในบริบทระดับภูมิภาคโดย คุณ  Pranesh Prakash นักวิจัยนโยบายอาวุโส LIRNEasia และหัวหน้าโครงการร่วม ร่วมด้วยวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิ ได้แก่ Dr. Ibrahim Kholilul Rohman นักวิจัยอาวุโสกลุ่มการเงินอินโดนีเซีย โปรเกรส (IFG Progress) คุณ Oliver Xavier Reyes สมาชิกสภาทนายความฟิลิปปินส์ตั้งแต่ปี 2002 และคุณ Ashwini Natesan นักวิจัยของ LIRNEasia จากศรีลังกา ในการเสวนาถึงภาพรวมงานวิจัยระดับภูมิภาคว่าด้วยธรรมาภิบาลข้อมูลในภูมิภาคเอเชียใต้และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยการเชื่อมโยงระหว่างเทคโนโลยีและข้อมูลจำนวนมหาศาล ที่ต้องมีความโปร่งใส ให้ความคุ้มครองสิทธิต่างๆ พร้อมรับมือกับการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีในหลายด้าน ความท้าทายของข้อมูลสังเคราะห์ที่อาจไม่ถูกต้องทั้งหมด รวมถึงกฎหมายเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลและลิขสิทธิ์


หลังจากนั้นเข้าสู่เวทีอภิปรายช่วงที่ 2 เรื่อง “ธรรมาภิบาลข้อมูล – ความท้าทาย ช่องว่าง และโอกาสในประเทศไทย โดย รองศาสตราจารย์ ดร. จอมพล พิทักษ์สันตโยธิน นักวิชาการชั้นนำในสาขาการบริหารจัดการดิจิทัลและไซเบอร์สเปซ นำเสนอผลการวิจัยเกี่ยวกับธรรมาภิบาลข้อมูลในประเทศไทย โดยกฎหมายถือเป็นกลไกเบื้องหลังของธรรมาภิบาลข้อมูลภาครัฐของไทย อาทิ พระราชบัญญัติบริหารงานและการให้บริการภาครัฐผ่านระบบดิจิทัล, พระราชบัญญัติข้อมูลข่าวสารราชการของรัฐ ซึ่งประชาชนสามารถเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของภาครัฐ


ที่ถูกจัดเก็บไว้ และพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (PDPA) ซึ่งกระบวนการเปิดเผยและปกป้องข้อมูลในด้านต่างๆ นั้น จำเป็นที่จะต้องมีการประสานและเชื่อมโยงในส่วนของธรรมาภิบาลข้อมูลเข้าไว้ด้วยกัน ถือได้ว่าธรรมาภิบาลข้อมูลเป็นส่วนหนึ่งของการขับเคลื่อนและเครื่องมือในการพัฒนารัฐดิจิทัล ร่วมด้วยวิทยากร ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ฐิติรัตน์ ทิพย์สัมฤทธิ์กุล อาจารย์ประจำคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กล่าวถึง  บทบาทในส่วนของการเปิดเผยข้อมูลมีส่วนในการสร้างสังคมประชาธิปไตย 2 ด้านคือ การสร้างกลไกการมีส่วนร่วมทางการเมืองในการการตรวจสอบภาครัฐโดยประชาชน และการเรียกร้องสิทธิและเสรีภาพของประชาชนอย่างมีหลักการและเหตุผลมากขึ้น, พันตำรวจเอก ดร. ศิริพล กุศลศิลป์วุฒิ รองเลขาธิการคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล กล่าวถึง พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (PDPA) มีส่วนช่วยในการเข้าถึงข้อมูลข่าวสารราชการที่เปิดเผยโดยภาครัฐ ทั้งการเก็บ รวบรวม การใช้ เปิดเผยข้อมูล เพื่อให้เกิดความสมดุลของกฎเกณฑ์ และการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่งอยู่บนความถูกต้องและชอบด้วยกฎหมาย, ดร. มณฑา ชยากรวิกรม ผู้อำนวยการฝ่ายบริหารจัดการและเชื่อมโยงข้อมูลภาครัฐ สำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (องค์การมหาชน) หรือ DGA กล่าวถึง การสร้างความสมดุลระหว่างการเปิดเผยข้อมูลและความมั่นคง ควรมีหลักเกณฑ์ที่ชัดเจนและเหมาะสมในการเปิดเผยข้อมูล รวมถึงกลไกในการจัดประเภทของข้อมูลอย่างมีระบบและโปร่งใส โดยต้องมีกระบวนการที่เหมาะสม ยืดหยุ่น และมีความรับผิดชอบร่วมด้วย, นายเฉลิมพล เลียบทวี ผู้อำนวยการส่วนส่งเสริมและเผยแพร่สิทธิรับรู้ข้อมูลข่าวสาร สำนักงานคณะกรรมการข้อมูลข่าวสารของราชการ (สขร.) หรือ OIC กล่าวถึง บทบาทของรัฐเชิงรุกในการเปิดเผยข้อมูลกับประชาชน โดยเฉพาะการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับงบประมาณโครงการของรัฐ ซึ่งประชาชนสามารถเข้าไปตรวจสอบได้ และมีส่วนช่วยในด้านเศรษฐกิจสำหรับประชาชนหรือภาคเอกชนที่สามารถเข้าถึงข้อมูลทำให้สามารถแข่งขันกันในการเสนอราคาโครงการต่างๆ ได้อย่างเป็นธรรม หรือการทำธุรกิจคู่ขนานกับภาครัฐเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจ และ ดร. ศิธร กุลรดาธร รักษาการผู้อำนวยการฝ่ายนโยบายและยุทธศาสตร์ และหัวหน้างานยุทธศาสตร์เศรษฐกิจดิจิทัลอาวุโส สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (องค์การมหาชน) หรือ DEPA กล่าวถึง การเชื่อมโยงข้อมูล มีประโยชน์ต่อภาครัฐ เอกชน และสตาร์ทอัพ ร่วมไปกับการช่วยขับเคลื่อนเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยีด้าน AI และเศรษฐกิจดิจิทัล โดยการแบ่งปันฐานข้อมูลร่วมกันทั้งภาครัฐและเอกชน รวมถึงการประยุกต์ใช้ข้อมูลในระดับองค์กรและธุรกิจ



สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม สามารถเยี่ยมชมได้ที่ www.lirneasia.net หรือติดตามทวิตเตอร์ @lirneasia


#DataGovernanceinThailand  #LIRNEasia  #IDRC-CRID  #PrivacyThailand  #IPPS