ปเนต มหรรฆานุรักษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายงานการเงิน บริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ CRC เปิดเผยว่า ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจที่ยังมีความผันผวน และปัจจัยความไม่แน่นอนต่างๆ ทั้งภายในและภายนอกประเทศ สร้างความกังวลในการจับจ่ายใช้สอย และทำให้กำลังซื้อชะลอตัว ส่งผลกระทบต่อภาคธุรกิจในหลากหลายอุตสาหกรรม โดยในส่วนของเซ็นทรัล รีเทล สามารถปิดรายได้รวมในครึ่งปีแรกของปี 2568 อยู่ที่ 131,924 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 1 และมีกำไรสุทธิหลังรายการปรับปรุง 3,813 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 8 เมื่อเทียบกับครึ่งปีแรกของปีก่อน ในขณะที่ไตรมาสที่ 2/2568 สามารถสร้างรายได้ 62,644 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 1 และมีกำไรสุทธิหลังรายการปรับปรุงอยู่ที่ 1,349 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 16 เมื่อเทียบกับไตรมาส 2 ของปีที่แล้ว ทั้งนี้เซ็นทรัล รีเทล ยังมุ่งมั่นรักษาเสถียรภาพของธุรกิจ ด้วยการบริหารจัดการที่ยืดหยุ่นและเน้นการลงทุนอย่างมีวินัย พร้อมเดินหน้าสร้างการเติบโตในครึ่งปีหลัง ด้วยกลยุทธ์ “New Heights, Next Growth” เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันระยะยาว พร้อมทั้งเน้นการควบคุมต้นทุนและการใช้ทรัพยากรอย่างรอบคอบและมีประสิทธิภาพสูงสุด เพื่อมุ่งสู่การเติบโตที่มั่นคงและยั่งยืน
สำหรับไฮไลท์ธุรกิจของ เซ็นทรัล รีเทล ในช่วงไตรมาส 2/2568 ประกอบด้วย
· กลุ่มห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล
o
เซ็นทรัล ชิดลม ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง
ท่ามกลางเศรษฐกิจที่มีความท้าทาย พร้อมเดินหน้าสร้างประสบการณ์ใหม่ให้กับลูกค้า
โดยจัดงาน Central Chidlom Luxe Night Out เพื่อฉลองโซนแฟชั่นโฉมใหม่
นำเสนอแบรนด์แฟชั่นที่หลากหลาย รองรับทุกสไตล์และทุกเจเนอเรชัน
o
ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลและโรบินสัน มีการเพิ่มแบรนด์แฟชั่นใหม่ๆ
มากกว่า 80 แบรนด์
o
แพลตฟอร์ม Central App ยังคงเติบโตแข็งแกร่ง
โดยมียอดขายสุทธิผ่านช่องทางออนไลน์ของห้าง เพิ่มขึ้นกว่า 30% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
·
ซูเปอร์สปอร์ต เปิดตัวแบรนด์เทนนิสระดับโลก
“HEAD” ซึ่งเป็นแบรนด์ที่นักเทนนิสมือหนึ่งของโลกในปัจจุบัน Jannik
Sinner (ยานนิค ซินเนอร์) เลือกใช้ พร้อมเป็นผู้จัดจำหน่ายแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย
เพื่อส่งมอบนวัตกรรมและสินค้าคุณภาพระดับโลกให้กับลูกค้าชาวไทย
·
ท็อปส์
o เปิดท็อปส์ 3 สาขาใหม่ พร้อมรีโนเวท TOPS FOOD HALL 2 สาขา ได้แก่ เซ็นทรัล
พระราม 9 และ เซ็นทรัล ปิ่นเกล้า
o ขยายสาขาในรูปแบบ TOPS DAILY ไฮบริด ร่วมกับ TOPS WINE CELLAR และ The
Baker รวม 4 สาขา และ TOPS DAILY x LOOKS ที่เจาะกลุ่มลูกค้า
Young & Mainstream อีก 2 สาขา
ซึ่งได้รับการตอบรับอย่างดีจากลูกค้า โดยโมเดล TOPS DAILY ไฮบริด
สามารถสร้างยอดขายเฉลี่ยต่อวันมากกว่าถึง 2 เท่า เมื่อเทียบกับโมเดล TOPS
DAILY ทั่วไป
·
GO WHOLESALE เปิดตัวแคมเปญใหญ่ “HoReCa GO MORE” มุ่งเน้นการมอบสิทธิประโยชน์ทั้งในด้านสินค้า วัตถุดิบ ในราคาประหยัด เพื่อช่วยลดต้นทุนแก่ลูกค้ากลุ่มธุรกิจ
HoReCa
· เพาเวอร์บาย เปิดตัวร้านโฉมใหม่ที่สาขาเซ็นทรัล
ปิ่นเกล้า, ท่าอากาศยานเชียงใหม่ และแฟชั่นไอซ์แลนด์
ภายใต้คอนเซปต์ “ศูนย์รวมเทคโนโลยีเพื่อชีวิต”
ชูจุดเด่นด้านการยกระดับประสบการณ์การช้อปปิ้ง
และบริการโซลูชันด้านเทคโนโลยีที่ครบวงจร
·
โรบินสัน ไลฟ์สไตล์ เปิดตัว “เซฟวัน โก
ศรีสมาน” ต้นแบบโมเดลใหม่ที่ผสานระหว่าง “ไลฟ์สไตล์มอลล์” และ “ตลาดกลางคืน”
เข้าด้วยกันอย่างลงตัว ภายใต้คอนเซปต์ “ตลาดนัดสู่ประสบการณ์ไลฟ์สไตล์ครบวงจร”
เพื่อสร้างประสบการณ์ ช้อป ชิม ชิล ให้กับลูกค้าในเมือง
· เซ็นทรัล รีเทล เวียดนาม เดินหน้าขยายสาขาศูนย์การค้า GO! อย่างต่อเนื่อง ล่าสุดเปิดตัวสาขาฮึงเอียน (Hung Yen) ซึ่งได้รับการตอบรับอย่างดีจากผู้เช่าและลูกค้า ตอกย้ำการเป็นเบอร์ 1 ด้าน Family Mall ในเวียดนาม
"สำหรับครึ่งปีหลัง 2568 เซ็นทรัล รีเทล จะเดินหน้าธุรกิจด้วยความรอบคอบและมีวินัยทางการเงิน มุ่งเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานในกลุ่มธุรกิจหลัก ควบคู่กับการปรับลำดับความสำคัญของการลงทุนให้สอดคล้องกับสภาวะเศรษฐกิจและโอกาสทางการตลาด เพื่อเสริมความแข็งแกร่งของสถานะทางการเงิน และขับเคลื่อนการเติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืน ตอกย้ำความเชื่อมั่นด้วยการได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือระดับ AA- แนวโน้มคงที่ ต่อเนื่อง 3 ปีซ้อนจากบริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ซึ่งถือเป็นอันดับสูงสุดในกลุ่มอุตสาหกรรมค้าปลีกไทย สร้างความ
มั่นใจให้แก่นักลงทุนและพันธมิตรทางธุรกิจ” ปเนต กล่าวทิ้งท้าย
เกี่ยวกับเซ็นทรัล รีเทล
บริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (“บริษัทฯ” หรือ “เซ็นทรัล รีเทล”) เป็นผู้นำธุรกิจค้าปลีก รวมทั้งธุรกิจค้าส่ง สินค้าหลากหลายประเภท ผ่านรูปแบบและช่องทางที่หลากหลาย (Multi-Format Multi-Category Omnichannel Retail และ Wholesale Platform) ในประเทศไทย ประเทศอิตาลี และประเทศเวียดนาม บริษัทฯ มีเครือข่ายร้านค้าภายใต้แบรนด์ค้าปลีกและค้าส่งทั้งหมด 3,822 ร้านค้า (ข้อมูล ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2568) อาทิ ห้างสรรพสินค้า ร้านขายสินค้าเฉพาะทาง ศูนย์ค้าส่งวัตถุดิบอาหาร ซูเปอร์มาร์เก็ต ไฮเปอร์มาร์เก็ต พลาซ่า และการจำหน่ายสินค้าออนไลน์บนแพลตฟอร์ม Omnichannel โดยธุรกิจของเซ็นทรัล รีเทล ครอบคลุมทั้งหมด 4 กลุ่มธุรกิจ ได้แก่ (1) กลุ่มฟู้ด มุ่งเน้นการจำหน่ายสินค้าอุปโภค-บริโภค วัตถุดิบอาหาร รวมถึงสินค้าและบริการด้านสุขภาพคนและสัตว์เลี้ยง ภายใต้แบรนด์ค้าปลีกและค้าส่งต่างๆ เช่น ท็อปส์ ท็อปส์ ฟู้ดฮอลล์ ท็อปส์ เดลี่ ท็อปส์แคร์ และโก โฮลเซลล์ ในประเทศไทย ส่วนประเทศเวียดนาม ได้แก่ บิ๊กซี/ โก (GO!) ท็อปส์ มาร์เก็ต มินิ โก (go!) และ ลานชี มาร์ท (2) กลุ่มฮาร์ดไลน์ มุ่งเน้นการจำหน่ายสินค้าตกแต่งและปรับปรุงบ้าน สินค้าอิเล็กทรอนิกส์ เครื่องเขียนและอุปกรณ์สำนักงาน หนังสือ และ e-Book ภายใต้แบรนด์ค้าปลีกต่างๆ เช่น ไทวัสดุ ไทวัสดุ x บีเอ็นบี โฮม บีเอ็นบี โฮม เพาเวอร์บาย ออฟฟิศเมท บีทูเอส เมพ และเหงียนคิม (3) กลุ่มแฟชั่น มุ่งเน้นการจำหน่ายสินค้าเครื่องแต่งกาย และเครื่องประดับภายใต้แบรนด์ค้าปลีกต่างๆ เช่น ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล ห้างสรรพสินค้าโรบินสัน ห้างสรรพสินค้ารีนาเชนเต ซูเปอร์สปอร์ต และ เซ็นทรัล มาร์เก็ตติ้ง กรุ๊ป และ (4) กลุ่มพร็อพเพอร์ตี้ มุ่งเน้นการให้เช่าพื้นที่ สำหรับร้านค้าของกลุ่มบริษัทฯ และร้านค้าและบริการของบุคคลภายนอก เช่น โรบินสัน ไลฟ์สไตล์ ท็อปส์ พลาซ่า และ บิ๊กซี / GO! เวียดนาม โดย ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2568 เซ็นทรัล รีเทล ดำเนินธุรกิจใน 3 ประเทศ ได้แก่ ประเทศไทย ทั้งหมด 62 จังหวัด ประเทศเวียดนาม ทั้งหมด 26 จังหวัดและประเทศอิตาลี ในเมืองหลักๆ ทั่วประเทศ