สมาร์ตโฟนในมือคุณใช้เวลากว่า 30 ปี กว่าจะกลายเป็นอุปกรณ์ที่เข้าถึงผู้คนทั่วโลก แต่ ChatGPT ใช้เวลาเพียง 2 เดือนเท่านั้น ก็มีผู้ใช้งานทะลุ 100 ล้านคน สะท้อนให้เห็นว่าโลกหมุนเร็วอย่างไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน จากยุคอินเทอร์เน็ตที่เคยปฏิวัติวิถีชีวิตของผู้คน วันนี้ เราเดินทางเข้าสู่ยุคปัญญาประดิษฐ์ (AI) ที่สร้างการเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็ว พลิกโฉมยิ่งกว่าเดิม แรงผลักดันสำคัญที่เร่งการเปลี่ยนผ่านนี้ เกิดจาก 3 ปรากฏการณ์ ได้แก่ เครือข่าย 5G ที่เปิดประสบการณ์ดิจิทัลแบบเรียลไทม์ ข้อมูลมหาศาลที่เกิดขึ้นทุกครั้งเมื่อเราหยิบสมาร์ตโฟนขึ้นมาใช้ และโมเดล AI อัจฉริยะที่เรียนรู้จากข้อมูลเชิงลึกเหล่านั้นอย่างต่อเนื่อง
ซิกเว่ เบรกเก้ ประธานคณะผู้บริหารกลุ่ม บมจ. ทรู คอร์ปอเรชั่น ได้แสดงวิสัยทัศน์ในการขับเคลื่อนประเทศไทยสู่อนาคตยุคดิจิทัล ในหัวข้อ “Connecting Thailand’s Future: Digital Foundations for Growth” ในงาน Bangkok Post Forum 2025 โดยเน้นย้ำถึง “ความเร่งด่วน” ที่ไทยต้องเตรียมพร้อมรับมือ ในวันที่เทคโนโลยีกลายเป็นปัจจัยชี้ขาด "ความสามารถในการแข่งขันของประเทศ" (National Competitiveness) และกำลังเปลี่ยนทิศทางของระเบียบโลกยุคใหม่ (New Global Order) อย่างรวดเร็วแบบก้าวกระโดด
4 เสาหลักพลิกเกมเทคฯ ไทย ชิงความเป็นผู้นำในเวทีเทคฯ โลก
แม้ว่าการเข้าถึงโลกดิจิทัลจะเป็นเรื่องปกติในปัจจุบัน
แต่โซเชียลมีเดียกลับกลายเป็นตัวเร่งให้เกิดความขัดแย้งทางความคิด ด้วยการนำเสนอและคัดกรองเนื้อหาให้สอดคล้องกับความเชื่อของแต่ละบุคคล
ขณะเดียวกัน โมเดลธุรกิจก็ถูกดิสรัปอย่างรวดเร็ว ทำให้แม้แต่บริษัทที่แข็งแกร่งเป็นผู้นำระดับโลกในวันนี้
ก็อาจไม่สามารถยืนหยัดอยู่ได้ในทศวรรษข้างหน้า
“การแข่งขันระหว่างสหรัฐฯ และจีนไม่ได้จำกัดอยู่แค่เรื่องการค้าอีกต่อไป
แต่คือการชิงความเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีระดับโลก ในขณะที่ AI และเทคโนโลยีเชื่อมต่อกำลังเร่งเกมการแข่งขัน
การโจมตีทางไซเบอร์ก็กลายเป็นภัยคุกคามระดับประเทศ คำถามก็คือ พวกเราพร้อมรับมือแล้วหรือยัง”
ซิกเว่ กล่าว
ซิกเว่ เสนอ 4 เสาหลักพลิกเกมธุรกิจและประเทศไทย
ที่ต้องเร่งเสริม เพื่อแข่งขันในสมรภูมิเทคโนโลยีระดับโลก ได้แก่
1) เทคโนโลยีและโครงสร้างพื้นฐาน
(Technology and Infrastructure)
ประเทศไทยมีรากฐานด้านไฟเบอร์ 5G
ที่ครอบคลุมประชากรทั่วประเทศ และดาต้าเซ็นเตอร์
สิ่งสำคัญคือการต่อยอดและใช้จุดแข็งนี้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด
เป็นแต้มต่อเชิงกลยุทธ์ที่ไม่ควรมองข้าม
2) ข้อมูลคุณภาพสูง (High-Quality Data) ข้อมูลต้องมีโครงสร้างที่ชัดเจน
เชื่อมโยง และใช้งานได้จริง หากภาครัฐและเอกชนสามารถเข้าถึงข้อมูลระบบเดียวกัน จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการทรัพยากรได้อย่างแม่นยำ
ไม่ว่าจะเป็นการบริหารภาครัฐ การจัดการโลจิสติกส์ หรือการให้บริการประชาชน
3) คนเก่งและผู้นำยุคใหม่
(Talent
& Leadership) การเรียนรู้ทักษะด้าน AI ควรถูกบรรจุอยู่ในหลักสูตรตั้งแต่ระดับประถม
ไม่ใช่แค่ระดับมัธยมหรือมหาวิทยาลัย ขณะเดียวกันภาคธุรกิจต้องเร่งเสริมทักษะพนักงานให้ก้าวทันเทคโนโลยี
ซึ่งปัจจุบัน 55% ของพนักงานทรู คอร์ปอเรชั่น ผ่านการฝึกอบรมด้าน
AI แล้ว และเราตั้งเป้าไปให้พนักงาน 100% ได้รับการเทรนด์ด้าน AI ในอนาคตอันใกล้นี้ นอกจากนี้
ซิกเว่ยังชี้ว่า “ภาวะผู้นำผู้สร้างการเปลี่ยนแปลง”
(Transformational Leadership) เป็นหัวใจของความสำเร็จในโลกยุคใหม่
ซึ่งควรมีคุณลักษณะสำคัญ 3 ประการ:
1. Act
Bold
– กล้าตัดสินใจแม้ในภาวะไม่แน่นอน และสร้างวัฒนธรรมแห่งการทดลอง
2. Be
Adaptive – เปิดใจเรียนรู้และกล้าลองสิ่งใหม่
3. Align
as One – เชื่อมใจคนในทีมด้วยความไว้วางใจ ยอมรับในความหลากหลาย
เพื่อนำไปสู่เป้าหมายร่วมกัน
4. นโยบายภาครัฐ (Government Policy) ทุกประเทศจำเป็นต้องมีนโยบายด้าน AI ระดับชาติ พร้อมกำหนดแนวทางการกำกับดูแลข้อมูลส่วนบุคคลและกรอบนโยบายที่เชื่อถือได้ พร้อมทั้งการสนับสนุนสตาร์ทอัพด้วยนโยบายที่ชัดเจน สิทธิประโยชน์ทางภาษี และโปรแกรมที่ช่วยให้ธุรกิจไทยเติบโตและแข่งขันระดับโลกได้
“ความไว้วางใจ” รากฐานสำคัญของอนาคต AI ไทย
ในโลกยุคดิจิทัล หากขาดซึ่งความไว้วางใจ แม้เทคโนโลยีจะล้ำหน้าเพียงใด ก็ไม่อาจได้รับความเชื่อมั่นจากสังคมหรือสร้างคุณค่าอย่างยั่งยืนได้ ทรู คอร์ปอเรชั่น ให้ความสำคัญกับการพัฒนา AI ที่มีความรับผิดชอบ โดยออกแบบให้สอดคล้องกับบริบทวัฒนธรรมไทย ยึดหลักจริยธรรม และมุ่งสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ประชาชน โดยปัจจุบัน ทรู คอร์ปอเรชั่น ได้เทรน AI มาแล้วกว่า 62 กรณีการใช้งาน (AI Use Cases) ภายใต้ 4 เสาหลักการใช้ AI อย่างมีจริยธรรมที่เคร่งครัด ได้แก่
1. โปร่งใส (Transparency)
– ลูกค้าจะได้รับการแจ้งให้ทราบอย่างชัดเจนเมื่อมีการโต้ตอบกับ AI
เช่น ในกรณีของแชตบอต “น้องมะลิ AI” ซึ่งจะแสดงตนว่าเป็นระบบ AI กำลังให้บริการ และจะให้ข้อมูลที่ชัดเจน อธิบายได้อยู่บนพื้นฐานของข้อเท็จจริง
2. เคารพสิทธิมนุษยชน (Respect
for Human Rights) – เคารพความเป็นส่วนตัว และเสรีภาพของแต่ละบุคคล
ในกรณีที่ต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ เช่น การตรวจจับการทุจริต
จะมีเจ้าหน้าที่บุคคลเข้ามาตรวจสอบเพื่อให้มั่นใจว่าเกิดความถูกต้องและเป็นธรรม
3. เป็นธรรมและลดอคติ (Fairness
and Inclusion) – เครื่องมือ AI ได้รับการทดสอบกับผู้ใช้งานที่มีความหลากหลาย เพื่อให้มั่นใจว่า AI
จะให้ผลลัพธ์ที่ปราศจากอคติ
และสามารถแนะนำบริการได้อย่างเหมาะสมตามพฤติกรรมการใช้งานจริง
4. ออกแบบโดยยึดมนุษย์เป็นศูนย์กลาง
(Human-Centered Design) – AI ของทรู
คอร์ปอเรชั่น ได้รับการออกแบบให้มีความปลอดภัย จะไม่ให้คำตอบที่ไม่ชัดเจน
หากไม่สามารถตอบคำถามผู้ใช้ได้
จะแนะนำช่องทางติดต่อหรือข้อมูลที่เกี่ยวข้องอย่างเหมาะสม
“ข้อมูล
ปัญญาประดิษฐ์ และโครงสร้างพื้นฐาน ล้วนมีรากฐานร่วมที่สำคัญคือ ‘ความไว้วางใจ’ ผู้คนเริ่มตระหนักถึงการใช้และการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคล
โดยเฉพาะในยุคที่ทุกอย่างเป็นอัตโนมัติ อัลกอริทึมนำไปสู่การเลือกปฏิบัติได้โดยง่าย
นี่จึงเป็นเหตุผลสำคัญที่การกำกับดูแลโดยมนุษย์ยังคงมีความจำเป็น ที่ทรู คอร์ปอเรชั่น
เรามุ่งมั่นพัฒนา AI ที่มีความรับผิดชอบ เข้าใจบริบทของวัฒนธรรมไทย
โดยเฉพาะในเรื่องของความสุภาพ และการให้เกียรติซึ่งกันและกัน” ซิกเว่ กล่าวทิ้งท้าย