ความร่วมมือที่ต่อยอดแคมเปญสู่การวางรากฐานระบบความปลอดภัยไซเบอร์อย่างยั่งยืน พร้อมสร้างความไว้วางใจและการดูแลอย่างแท้จริงระหว่างแบรนด์และผู้ใช้งานในทุกมิติ
บริษัท โกโกลุก (ประเทศไทย) ผู้พัฒนาเทคโนโลยีเพื่อความเชื่อมั่นชั้นนำ (TrustTech) และผู้ให้บริการแอปพลิเคชัน Whoscall เดินหน้าสานต่อแคมเปญ “รู้ทันทุกมิจ เปิดโปงทุกมุก” ร่วมกับพันธมิตร แกร็บ ประเทศไทย สร้าง “คอมมูนิตี้ดิจิทัลที่รู้เท่าทันมิจฉาชีพ” เพื่อยกระดับความปลอดภัยไซเบอร์ให้ลูกค้า (user) และไรเดอร์ (rider) ทั่วประเทศอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งปี โดยในความร่วมมือครั้งนี้ Whoscall ได้มอบแพ็กเกจ Whoscall พรีเมียม เบสิก นาน 90 วันฟรีแก่ลูกค้า Grab และคนขับแกร็บ โดยสามารถแลกรับได้ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม - 31 ธันวาคม 2568 ผ่านโปรแกรม GrabRewards และ GrabBenefits ส่วนลูกค้า Whoscall สามารถรับส่วนลดจาก Grab ได้ผ่านทาง แอปฯ Whoscall
[1]รายงานจาก
Forrester Research ระบุว่า ลูกค้าที่รู้สึกผูกพันกับแบรนด์ (Brand Affinity) มี 2Lifetime Value สูงขึ้นถึง 306% ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความสำคัญของความไว้วางใจและการดูแลอย่างจริงใจ
ความร่วมมือระหว่าง Whoscall และ Grab ในครั้งนี้
จึงเป็นการตอกย้ำแนวความคิดที่ว่า “สร้างเกราะป้องกันให้ผู้ใช้งาน
เสริมความมั่นใจให้ทุกวันปลอดภัย” ทั้งสองแบรนด์ต่างเชื่อในเป้าหมายเดียวกัน
คือการสร้างสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัย น่าไว้วางใจ
และส่งเสริมความสัมพันธ์ที่ยั่งยืนระหว่างแบรนด์กับผู้ใช้งาน
พร้อมมุ่งเน้นการปกป้องในทุกสถานการณ์
ผ่านโซลูชันด้านความปลอดภัยที่เข้าถึงง่ายและใช้ได้จริงในชีวิตประจำวัน ได้แก่
●
แจกโค้ด
Whoscall พรีเมียม เบสิกจำนวน 10,000 โค้ด ให้กับลูกค้าทั่วไปผ่านโปรแกรม
GrabRewards และสำหรับไรเดอร์ผ่านโปรแกรม GrabBenefits
แพ็กเกจพรีเมียมช่วยเพิ่มประสบการณ์และความสะดวกสบายในการใช้งาน
● ฟีเจอร์ใหม่ “การแจ้งเตือนด้วยเสียง” Voice Alert เพิ่มความปลอดภัยจากมิจฉาชีพได้ทุกช่วงเวลาไม่เว้นแม้แต่ตอนขับขี่ผ่านเสียงแจ้งเตือนเมื่อได้รับสายที่มีความเสี่ยงเป็นมิจฉาชีพโดยไม่ต้องละสายตา
(แมนวู จู ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โกโกลุก (ประเทศไทย)
แมนวู จู ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โกโกลุก (ประเทศไทย) กล่าวว่า “Whoscall เชื่อว่าการป้องกันภัยไซเบอร์ที่ยั่งยืน ต้องเริ่มจากการสร้างภูมิคุ้มกันให้กับคนในสังคม ทั้งในเชิงเทคโนโลยีและความรู้ความเข้าใจ ด้วยความร่วมมือกับ Grab ในครั้งนี้ จึงเป็นการต่อยอดการป้องกันที่เข้าถึงได้จริงในชีวิตประจำวัน โดย Grab ได้มีบทบาทสำคัญในการนำเครื่องมือป้องกันภัยไซเบอร์อย่าง Whoscall เข้าถึงกลุ่มคอมมูนิตี้ทั้งผู้ใช้บริการและกลุ่มขับแกร็บ”
“เรามอบโค้ดการใช้งาน Whoscall พรีเมียม เบสิก ให้กับผู้ใช้ Grab เพื่อความสะดวกสบายในการใช้งานแบบพรีเมียม พร้อมพัฒนาฟีเจอร์ “การแจ้งเตือนด้วยเสียง” Voice Alert เพื่อเข้าถึงได้ทุกช่วงขณะแม้ตอนขับขี่ วิสัยทัศน์ของเราชัดเจนว่า Whoscall จะไม่หยุดอยู่แค่การเตือนภัย แต่ต้องเป็นพลังที่สร้างความไว้วางใจ ช่วยให้ผู้คนใช้ชีวิตในยุคดิจิทัลได้อย่างปลอดภัยและมั่นใจ” แมนวู กล่าวเสริม
(อรวรา เอื้อสุนทรวัฒนา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานกลยุทธ์และพันธมิตร แกร็บ ประเทศไทย)
อรวรา เอื้อสุนทรวัฒนา
ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานกลยุทธ์ และพันธมิตร แกร็บ ประเทศไทย
กล่าวว่า “เรามีความยินดีอย่างยิ่งที่ได้ร่วมเป็นพันธมิตรกับ
Whoscall ในการยกระดับความปลอดภัยไซเบอร์ให้กับผู้ใช้บริการ และคนขับแกร็บ
ในฐานะผู้นำแพลตฟอร์มดิจิทัล แกร็บ ตระหนักดีถึงภัยคุกคามทางไซเบอร์
เราจึงมุ่งมั่นสร้างแพลตฟอร์มที่ปลอดภัยให้กับผู้ใช้บริการ และพาร์ทเนอร์ของเรา
โดย
เราเชื่อว่าเทคโนโลยีไม่ควรเป็นเพียงเครื่องมือ แต่ควรเป็น ‘เกราะ’ ที่ช่วยให้ผู้ใช้งานในคอมมูนิตี้ของเราใช้ชีวิตได้อย่างปลอดภัย
โดยเฉพาะภัยไซเบอร์ที่ซับซ้อนและยากต่อการรับมือในปัจจุบัน”
ความร่วมมือระหว่าง
Whoscall และ Grab ในครั้งนี้ ไม่เพียงสะท้อนวิสัยทัศน์ของทั้งสององค์กรที่ให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของผู้ใช้งานเท่านั้น แต่ยังเป็นการวางรากฐานของ
“คอมมูนิตี้ดิจิทัลที่รู้เท่าทัน” อย่างแท้จริง และ Whoscall
จะยังคงเดินหน้าพัฒนาเทคโนโลยีที่เข้าใจมนุษย์
เพื่อให้การใช้ชีวิตในโลกออนไลน์ของทุกคนปลอดภัยมากกว่าที่เคย
สามารถศึกษาวิธีการใช้งานฟีเจอร์ “การแจ้งเตือนด้วยเสียง (Voice Alert)” บนแอปพลิเคชัน Whoscall ที่ https://whoscall.com/th/blog/articles/1701
สามารถดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน Whoscall
ได้ฟรี! ทั้ง iOS และ Android ที่ https://app.adjust.com/15jkn2dj
ติดตามข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับแอปพลิเคชัน
Whoscall ได้ที่ https://whoscall.com/th หรือ
https://www.facebook.com/whoscall.thailand
เกี่ยวกับแกร็บ
แกร็บ (Grab) คือ
ผู้นำซูเปอร์แอปในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งให้บริการทั้งด้านเดลิเวอรี
การเดินทางและการเงินดิจิทัล ครอบคลุมกว่า 800 เมืองใน 8 ประเทศ อันได้แก่ กัมพูชา
อินโดนีเซีย มาเลเซีย เมียนมาร์ ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ ไทย และเวียดนาม โดยในทุกวันแกร็บช่วยอำนวยความสะดวกให้ผู้คนหลายล้านสามารถเข้าถึงบริการต่างๆ
ในชีวิตประจำวันได้ภายในแอปพลิเคชันเดียว ไม่ว่าจะเป็น การสั่งอาหาร
การสั่งซื้อสินค้าและของชำ การจัดส่งพัสดุเอกสาร การเรียกรถรับ-ส่งหรือแท็กซี่
ไปจนถึงการทำธุรกรรมทางการเงินออนไลน์ เช่น บริการสินเชื่อและการทำประกัน
แกร็บยังได้ดำเนินธุรกิจซูเปอร์มาร์เก็ตในประเทศมาเลเซียภายใต้แบรนด์ Jaya Grocer
และ Everrise
ซึ่งสร้างความสะดวกสบายในการสั่งซื้อสินค้าและของชำแบบออนดีมานด์ให้กับผู้บริโภคได้มากขึ้น
นอกจากนี้ แกร็บยังให้บริการทางการเงินผ่านธนาคารดิจิทัล GXS Bank
ในประเทศสิงคโปร์และ GX Bank ในประเทศมาเลเซียด้วย ทั้งนี้ แกร็บก่อตั้งขึ้นในปี
พ.ศ. 2555
ด้วยวิสัยทัศน์ที่มุ่งขับเคลื่อนภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ไปข้างหน้า
ผ่านการสร้างโอกาสและส่งเสริมศักยภาพทางเศรษฐกิจให้กับทุกคน
และยึดมั่นเจตนารมณ์ในการดำเนินธุรกิจที่มุ่งสร้างผลประกอบการที่แข็งแกร่งให้กับผู้ถือหุ้น
ควบคู่ไปกับการสร้างความเปลี่ยนแปลงเชิงบวกให้กับสังคมและสิ่งแวดล้อมทั่วทั้งภูมิภาค
เกี่ยวกับ Whoscall
แอปพลิเคชัน Whoscall
เครื่องมือป้องกันการหลอกลวงทางดิจิทัลส่วนบุคคล ถูกออกแบบมาเพื่อปกป้องผู้ใช้
จากการหลอกลวงในสถานการณ์ต่าง ๆ ตั้งแต่ การสื่อสารที่เป็นอันตรายและน่าสงสัย
รวมถึงสายโทรเข้า ข้อความ และลิงก์ ด้วยยอดการดาวน์โหลดมากกว่า 100
ล้านครั้งทั่วโลก Whoscall
มีฐานข้อมูลที่ครอบคลุมมากที่สุดในเอเชียตะวันออกและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ครอบคลุม หมายเลขโทรศัพท์ มากกว่า 2.6 พันล้าน เลขหมาย
และรวมข้อมูลจากพันธมิตรอย่าง ScamAdviser เพื่อสร้างฐานข้อมูลต่อต้านการหลอกลวงทางดิจิทัลชั้นนำ
ทีมงาน Whoscall ทุ่มเท พัฒนาเทคโนโลยีต่อต้านการหลอกลวงมานานกว่าทศวรรษ
โดยใช้เทคโนโลยี AI วิเคราะห์ และจำลองรูปแบบการหลอกลวง เพื่อป้องกันเชิงรุก
ต่อการหลอกลวงที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว Whoscall เดินหน้าอย่างแข็งขัน
ในการสร้างกลไกการทำงานร่วมกัน ในชุมชนของผู้ใช้ร่วมมีบทบาท ในการสร้างผลลัพธ์
ทางสังคมด้วยบริการต่อต้านการฉ้อโกงทางดิจิทัล ตั้งแต่ การให้ความรู้
การสร้างความร่วมมือระหว่างหน่วยงาน ไปจนถึง สร้างนวัตกรรมผลิตภัณฑ์ Whoscall
ได้รับการยอมรับและความร่วมมือกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ไต้หวัน
สำนักงานตำรวจแห่งชาติประเทศไทย สำนักงานคณะกรรมการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์
แห่งชาติ (สกมช.) สำนักงานตำรวจแห่งชาติมาเลเซียศูนย์สืบสวนและประสานงาน
อาชญากรรมทางไซเบอร์ ของฟิลิปปินส์ และรัฐบาลท้องถิ่นในญี่ปุ่น
สามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่: https://whoscall.com/th
เกี่ยวกับ Gogolook
Gogolook
เป็นบริษัทผู้ให้บริการทางด้านเทคโนโลยีเพื่อความเชื่อมั่น (TrustTech)
ที่ก่อตั้งขึ้นในปี 2555 โดยมีพันธกิจหลักคือสร้างความเชื่อมั่น “Build for Trust”
โดยได้ขยายธุรกิจจากเอเชียไปยังยุโรปและอเมริกา เทคโนโลยี AI ของ Gogolook
พัฒนาขึ้นจากฐานข้อมูลการหลอกลวงดิจิทัลที่ใหญ่ ที่สุดในโลก
ครอบคลุมหมายเลขโทรศัพท์ เว็บไซต์ ดิจิทัลวอลเล็ต และแหล่งที่มาอื่นๆ
บริษัทให้บริการป้องกันการหลอกลวงและบริการทางการเงิน
ที่หลากหลายทั้งสำหรับผู้บริโภคและกลุ่มธุรกิจซึ่งรวมถึงแอปป้องกันการหลอกลวงดิจิทัล
"Whoscall" และโซลูชันป้องกันการหลอกลวงสำหรับองค์กร ร่วมกัน "ScamAdviser"
ในฐานะสมาชิกผู้ก่อตั้ง
Global Anti-Scam Alliance (GASA) Gogolook ได้ร่วมมือกับสถาบันต่างๆ มากมาย เช่น
สำนักงานสืบสวนคดีอาญาของสำนักงานตำรวจไต้หวัน สำนักงานตำรวจแห่งชาติประเทศไทย
สำนักงาน ตำรวจสืบสวนและประสานงานอาชญากรรมไซเบอร์ ฟิลิปปินส์ สำนักงานกำกับดูแลทางการเงิน
เกาหลีใต้ รัฐบาลเมืองฟุกุโอกะและชิบูย่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติมาเลเซีย
มุ่งมั่นสร้างสรรค์สภาพแวดล้อม ที่ปลอดภัยจากการหลอกลวง
สามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติม Gogolook ที่: https://gogolook.com/en