29 ก.ค. 2568 323 0

NT ร่วม 2 พันธมิตรเอกชน ปักหมุด Cloud First พัฒนา Data Center และ Cloud Service เสริมแกร่งดิจิทัลไทย

NT ร่วม 2 พันธมิตรเอกชน ปักหมุด Cloud First พัฒนา Data Center และ Cloud Service เสริมแกร่งดิจิทัลไทย


บริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) หรือ NT ได้สร้างประวัติศาสตร์สำคัญในการขับเคลื่อนประเทศไทยสู่ยุคดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบ ด้วยการลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) ครั้งยิ่งใหญ่กับ บริษัท PS Solution and Consulting จำกัด และ บริษัท NIRIC Corporation จำกัด (ซึ่งรู้จักในชื่อ Rteech/RE Corporation และ Red Tech Corporation) เพื่อร่วมกันพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านศูนย์ข้อมูล (Data Center) และบริการคลาวด์ (Cloud Service) ที่มีความมั่นคงปลอดภัยสูง ครอบคลุมทั่วประเทศ ภายใต้นโยบาย Cloud First Policy ของประเทศไทย ความร่วมมือนี้เป็นก้าวสำคัญที่มุ่งมั่นจะยกระดับศักยภาพด้านดิจิทัลของประเทศอย่างยั่งยืน ทั้งยังส่งเสริมคุณภาพชีวิตประชาชนและขับเคลื่อนภาครัฐสู่ดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบ


การบูรณาการศักยภาพระหว่างภาครัฐวิสาหกิจและภาคเอกชนในครั้งนี้ ถือเป็นโอกาสอันดีในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัลของประเทศไทย, ส่งเสริมธุรกิจสตาร์ทอัพ, พัฒนาบุคลากรด้านดิจิทัล, และกระตุ้นการพัฒนานวัตกรรมดิจิทัล โดยมีเป้าหมายหลักในการวางรากฐานเทคโนโลยี ซึ่ง Data Center และ Cloud Service ถือเป็นเสาหลักสำคัญของการเปลี่ยนผ่านสู่ยุคดิจิทัลอย่างยั่งยืน นอกจากนี้ยังมุ่งเน้นการสร้างโอกาสในการเพิ่มขีดความสามารถของบุคลากร และการถ่ายทอดองค์ความรู้ด้านเทคโนโลยีอย่างยั่งยืนอีกด้วย

บทบาทและจุดแข็งของพันธมิตรผู้ร่วมขับเคลื่อน

โครงการนี้เกิดขึ้นได้จากความร่วมมือที่แข็งแกร่งของสามพันธมิตรหลัก ซึ่งแต่ละฝ่ายนำความเชี่ยวชาญเฉพาะตัวมารวมกัน บริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) (NT) ซึ่งมีความพร้อมในการให้บริการ Data Center ด้วยสถานที่, อาคาร, และสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครัน ในระยะแรก NT จะเป็นผู้ให้ใช้สถานที่สำหรับการจัดตั้ง Data Center เริ่มต้นที่สำนักงานในนิคมอุตสาหกรรม และจะขยายผลในเฟสต่อไปตามความต้องการของลูกค้าในอนาคต ความพร้อมด้านระบบไฟฟ้าสำรองและสำรองข้อมูลของ NT จะช่วยสร้างความมั่นใจในการจัดเก็บข้อมูล

ปิยะ รัชตวรคุณ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มขายและปฏิบัติการลูกค้าภาคตะวันออก NT ได้กล่าวเน้นย้ำว่า “NT ให้ความสำคัญกับการสนับสนุนโครงสร้างพื้นฐานด้านการสื่อสาร พลังงาน ระบบความเย็น และโครงสร้างสำคัญอื่น ๆ เพื่อรองรับการให้บริการศูนย์ข้อมูลที่ได้มาตรฐาน พร้อมสนับสนุนการเชื่อมโยงเครือข่ายเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานระบบ Cloud Computing อย่างเต็มรูปแบบ นอกจากนี้ NT ยังมีฐานที่ตั้งสำคัญในพื้นที่ภาคตะวันออก ซึ่งมีระบบเคเบิลใยแก้วใต้น้ำเชื่อมโยงทั่วโลก และเป็นศูนย์กลางการสื่อสารของอาเซียน"

บริษัท PS Solution and Consulting จำกัด ในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านการบริการและการลงทุนเกี่ยวกับ IT Solution แบบครบวงจร ทั้งในประเทศและต่างประเทศ PS Solution จะรับผิดชอบในการบริหารจัดการฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ที่เกิดขึ้นในแต่ละภาคส่วน

เจริญศักด์ ผลประสิทธิ์กูล กรรมการผู้มีอำนาจลงนาม บริษัท พี.เอส. โซลูชั่น แอนด์ คอนซัลติ้ง จำกัด กล่าวเสริมว่า “บริษัทจะรับผิดชอบด้านการลงทุน ติดตั้งระบบ Hardware และ Software รวมถึงการวางแผนทรัพยากรและการบำรุงรักษาเพื่อให้ระบบพร้อมใช้งานอย่างต่อเนื่อง บริษัทมุ่งมั่นที่จะนำความเชี่ยวชาญทั้งหมดมาสนับสนุนภารกิจของทุกภาคส่วน เพื่อร่วมกันยกระดับการให้บริการแก่ภาครัฐและเอกชนทั่วประเทศ

บริษัท NIRIC Corporation จำกัด (Rteech/RE Corporation / Red Tech Corporation): ผู้เชี่ยวชาญด้านการตลาด, การวางแผนกลยุทธ์, และการส่งเสริมธุรกิจดิจิทัล NIRIC Corporation มีความพร้อมอย่างยิ่งที่จะสนับสนุนให้โครงการภายใต้ความร่วมมือนี้สามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ

รัชดาพร ศรีสุทโท กรรมการผู้มีอำนาจลงนาม บริษัท เรดเทค คอร์ปอเรชั่น จำกัด ได้กล่าวถึงบทบาทของบริษัทว่า “บริษัทดำเนินงานด้านการตลาด การบริหารงานขาย การให้บริการหลังการขาย และจัดการฝึกอบรมแก่ลูกค้า เพื่อให้เกิดการใช้งานแพลตฟอร์มคลาวด์ได้อย่างเต็มศักยภาพ”

เป้าหมายหลักและกลุ่มลูกค้า หนุน Digital Platform as a Service


โครงการนี้มีเป้าหมายหลักคือการส่งเสริมการใช้งาน Digital Platform as a Service สำหรับหน่วยงานภาครัฐ, ภาคเอกชน, รวมถึงกลุ่ม Start-up และนักพัฒนาแพลตฟอร์มในประเทศ โดยมุ่งเน้นกลุ่มเป้าหมายหลักไปยัง หน่วยงานราชการท้องถิ่นเป็นสำคัญ ด้วยสัดส่วนการให้บริการที่คาดการณ์ไว้ที่ ร้อยละ 70 สำหรับหน่วยงานท้องถิ่น และ ร้อยละ 30 สำหรับภาคเอกชน

พจน์ แพดำ ผู้อำนวยการสมาคมองค์การบริหารส่วนตำบลแห่งประเทศไทย (อบต.แห่งประเทศไทย) ได้กล่าวถึงความสำคัญของแพลตฟอร์มนี้ว่า “จะช่วยพัฒนาศักยภาพของท้องถิ่นเพื่อยกระดับท้องถิ่นสู่ดิจิทัล ปัจจุบันหน่วยงานท้องถิ่นประสบปัญหาในการจัดการข้อมูล โดยเฉพาะอย่างยิ่งในระบบการลงบัญชีอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งการมีระบบคลาวด์จะช่วยให้สามารถจัดเก็บข้อมูลได้อย่างปลอดภัยและป้องกันการสูญหายของข้อมูล สมาคมฯ มีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่จะร่วมมือกับ NT และพันธมิตร เพื่อทำให้ท้องถิ่น "สมาร์ท" ขึ้น"


นอกจากหน่วยงานภาครัฐแล้ว โครงการยังจะส่งเสริมและสนับสนุนให้ภาคเอกชนเข้ามาร่วมลงทุน โดยไม่ต้องจัดตั้งเซิร์ฟเวอร์ด้วยตนเอง ซึ่งปัจจุบันมีหลายหน่วยงานมีความต้องการใช้บริการจาก NT เป็นจำนวนมาก ความร่วมมือนี้จะช่วยให้ NT สามารถตอบสนองความต้องการเหล่านั้นได้อย่างทันท่วงที โดยอาศัยความคล่องตัวของพันธมิตรภาคเอกชน ความร่วมมือยังเจาะจงกลุ่มลูกค้าเป้าหมายหลักเพิ่มเติม เช่น สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับระบบสุขภาพดิจิทัล

บันทึกข้อตกลงความร่วมมือนี้มีกรอบระยะเวลา 7 ปี และสามารถขยายเพิ่มเติมได้ตามความเห็นชอบร่วมกันของทั้งสามฝ่าย การดำเนินงานจะเริ่มต้นด้วยการจัดตั้งอุปกรณ์ในพื้นที่ของ NT และจะเริ่มให้บริการ Service รวมถึง Co-location ให้กับหน่วยงานที่ต้องการใช้ Server ระบบ Cloud คาดว่าจะสามารถเริ่มให้บริการได้ภายในระยะเวลา ไม่เกิน 2 เดือน นับจากนี้

ระยะเวลาและกรอบการดำเนินงานภายใน 1 ปี


ในเฟสแรก โครงการจะรองรับประมาณ ร้อยละ 30-40 ของความจุทั้งหมด ซึ่งคาดว่าจะเต็มภายใน หนึ่งปี หรือประมาณกลางปีหน้า หลังจากนั้นจะมีการขยายขีดความสามารถตามความต้องการของลูกค้าในอนาคต นอกจากนี้ ทั้งสามฝ่ายจะร่วมกันกำหนดแนวทางการพัฒนาแพลตฟอร์มดิจิทัลในระดับภูมิภาค, การจัดเก็บและวิเคราะห์ข้อมูล, การสร้างเครือข่ายบริการคลาวด์ทั่วประเทศ, ตลอดจนกำหนดกลไกการแบ่งปันรายได้อย่างชัดเจน


ความร่วมมือนี้เป็นการลงทุนร่วมกันระหว่าง NT และ PS Solution โดยเป็นโครงการที่เน้นการลงทุนจากภาคเอกชน ซึ่งแตกต่างจากระบบคลาวด์ภาครัฐ (GDC - Government Data Center and Cloud Service) ที่เป็นโครงการที่ภาครัฐมีงบประมาณสนับสนุนเพื่อส่งเสริมการใช้งาน อย่างไรก็ตาม ไม่มีข้อกำหนดว่าหน่วยงานภาครัฐจะต้องใช้ GDC เท่านั้น ดังนั้น โครงการนี้จึงเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่สำคัญ โดยมีจุดเด่นอยู่ที่การใช้ ระบบรักษาความปลอดภัย (Security) เดียวกันกับ GDC ซึ่งจะช่วยสร้างความมั่นใจให้กับผู้ใช้บริการ

ความร่วมมือในครั้งนี้นับเป็นอีกก้าวสำคัญของ NT ในการยกระดับโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลของประเทศไทยให้มีความพร้อมต่อการรองรับความต้องการในยุคดิจิทัล ตอกย้ำบทบาทสำคัญของ NT ในการเสริมพลังภาครัฐและเอกชนให้สามารถขับเคลื่อนนโยบายดิจิทัลของชาติให้เกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม การผนึกกำลังครั้งนี้ไม่ได้เป็นเพียงการลงทุนด้านเทคโนโลยี แต่ยังเป็นการสร้างรากฐานที่แข็งแกร่งสำหรับการเปลี่ยนแปลงสู่ยุคดิจิทัลอย่างยั่งยืนของประเทศไทย ด้วยการรวมความเชี่ยวชาญจากทั้งสามฝ่าย โครงการนี้จะช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัลและระบบนิเวศของผู้ประกอบการไทยให้เติบโตอย่างมั่นคง พร้อมยกระดับบริการภาครัฐและเอกชนทั่วประเทศในอนาคต