บริษัท ทีพี-ลิงค์ เอ็นเตอร์ไพรส์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้นำด้านผลิตภัณฑ์เครือข่ายระดับโลก ประกาศความร่วมมือครั้งสำคัญ ด้วยการแต่งตั้ง บริษัท วีเอสที อีซีเอส (ประเทศไทย) จำกัด หรือ VST ECS (Thailand) ผู้นำด้านการจัดจำหน่ายสินค้าไอทีและโซลูชันชั้นนำในประเทศไทย ให้เป็นผู้จัดจำหน่ายหลัก (Distributor) อย่างเป็นทางการสำหรับกลุ่มผลิตภัณฑ์ระดับองค์กร ได้แก่ Omada (Enterprise Networking) และVIGI (Enterprise Security) การผนึกกำลังเชิงกลยุทธ์ในครั้งนี้ ตอกย้ำความมุ่งมั่นของทีพี-ลิงค์ฯ ในการขยายการเข้าถึงตลาดกลุ่มองค์กรอย่างแข็งแกร่ง และตอบสนองความต้องการของธุรกิจในยุคดิจิทัลที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว

 วีเอสที อีซีเอส (ประเทศไทย)  พันธมิตรเชิงกลยุทธ์สู่ตลาด Enterprise ที่ไร้ขีดจำกัด

ทีพี-ลิงค์ฯ เล็งเห็นถึงศักยภาพและความเชี่ยวชาญอันยาวนานของ วีเอสที อีซีเอส (ประเทศไทย) ในฐานะผู้นำด้านการจัดจำหน่ายสินค้าไอทีและโซลูชันแบบครบวงจร ด้วยประสบการณ์ที่สั่งสมมาอย่างยาวนานกว่า 35 ปีในตลาดไอที โดย วีเอสที อีซีเอส (ประเทศไทย) ได้พิสูจน์แล้วถึงความสำเร็จในการทำตลาดอุปกรณ์ Networking ระดับ Enterprise อย่างต่อเนื่อง รวมถึงการมีเครือข่ายคู่ค้าที่แข็งแกร่งกว่า 6,000 ราย ครอบคลุมทั่วประเทศ ไม่ว่าจะเป็น System Integrators (SI) หรือ CCTV Installers ซึ่งเป็นกุญแจสำคัญในการเข้าถึงตลาดกลุ่มองค์กร

ทีพี-ลิงค์ฯ มีความเชื่อมั่นว่า วีเอสที อีซีเอส จะสามารถก้าวขึ้นมาเป็นตัวแทนจำหน่ายหลักในรูปแบบพิเศษที่เรียกว่า VAD (Value Added Distributor) ให้กับทีพี-ลิงค์ฯ ได้ เพราะเล็งเห็นถึงศักยภาพในการสนับสนุนด้านความรู้ทางเทคนิค การแนะนำผลิตภัณฑ์ ตลอดจนการสนับสนุนทั้งก่อนและหลังการขาย เพื่อให้ผลิตภัณฑ์ Omada และ VIGI เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ

Omada และ VIGI: โซลูชันล้ำสมัย ตอบรับการเติบโตแบบก้าวกระโดด

ทีพี-ลิงค์ฯ ตั้งเป้าการเติบโตอย่างเข้มข้น (aggressive growth) สำหรับกลุ่มผลิตภัณฑ์ Enterprise ในปีนี้ ด้วยสถิติการเติบโตแบบปีต่อปี (YoY) ไม่ต่ำกว่า 30% อย่างต่อเนื่อง ทีพี-ลิงค์ฯ มองว่าประเทศไทยเป็นตลาดที่มีศักยภาพสูงสำหรับ Omada และ VIGI ที่จะสามารถเติบโตได้อีกอย่างมาก ด้วยปัจจัยสนับสนุนทั้งจากภายในและภายนอก : 

• Omada Enterprise Networking: ตลอด 2-3 ปีที่ผ่านมา ผลิตภัณฑ์ Omada มีการพัฒนาอย่างก้าวกระโดด ทั้งในเชิงสเปค ฟีเจอร์ และไลน์ผลิตภัณฑ์ที่ครอบคลุมทุกความต้องการของผู้ใช้งานในกลุ่มองค์กรทุกขนาดในราคาที่คุ้มค่า ช่วยให้องค์กรสามารถประหยัดงบประมาณได้อย่างชาญฉลาด ในสภาวะที่หลายองค์กรมีการลดค่าใช้จ่ายและตลาดแรงงานด้านเน็ตเวิร์คที่มีทักษะหาได้ยาก Omada ซึ่งถูกออกแบบมาให้ติดตั้งและใช้งานง่าย ในงบประมาณที่เข้าถึงได้ จึงเป็นทางเลือกใหม่ที่ได้รับความสนใจจากองค์กรจำนวนมาก 

• VIGI Enterprise Security: สำหรับตลาดกล้องวงจรปิดรักษาความปลอดภัยในประเทศไทยยังคงมีความต้องการสูงอย่างต่อเนื่อง VIGI แม้จะเป็นแบรนด์ที่เพิ่งเข้ามาทำตลาดในไทยได้ประมาณ 2-3 ปี แต่มีการพัฒนาไลน์ผลิตภัณฑ์ให้ตอบรับกับความต้องการของตลาดไทยได้อย่างรวดเร็ว มีกล้องให้เลือกหลากหลายรูปแบบมากกว่า 40 รุ่น รวมถึงอุปกรณ์และระบบที่ใช้ร่วมกันอย่าง NVR, VMS และ Application สำหรับการบริหารจัดการและใช้งานที่ใช้งานง่าย ตลอดจนแผงโซลาร์เซลล์ที่รองรับการจ่ายไฟให้กับกล้องได้อย่างยาวนาน

เหนือกว่าด้วย Omada Central และโครงการ SolutionX Partner: ยกระดับประสบการณ์คู่ค้า

จุดเด่นสำคัญที่ทำให้ Omada และ VIGI แตกต่างและเหนือกว่าคู่แข่ง คือ ระบบการบริหารจัดการอุปกรณ์เครือข่าย Omada และกล้องวงจรปิด VIGI ที่สามารถรวมอยู่ในแพลตฟอร์มเดียวกันได้ภายใต้ Omada Central ซึ่งเป็นระบบคลาวด์แพลตฟอร์มสำหรับการจัดการแบบรวมศูนย์ (Unified Cloud Management Platform) ช่วยให้การบริหารจัดการระบบเครือข่ายและการเฝ้าระวังเป็นเรื่องง่าย ไม่ต้องดูแลผ่านหลายระบบ ผู้ดูแลระบบสามารถมองเห็นสถานะของอุปกรณ์ทั้งหมดได้จากหน้าจอเดียว ลดความซับซ้อนในการจัดการและเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานให้แก่องค์กรอย่างแท้จริง

นอกจากการพัฒนาผลิตภัณฑ์แล้ว เมื่อปลายปี 2024 ที่ผ่านมา ทีพี-ลิงค์ฯ ได้เปิดตัวโครงการ SolutionX Partner ซึ่งเป็นโครงการที่เปิดโอกาสให้ SI และ CCTV Installers ที่สนใจเข้าร่วม เพื่อรับผลประโยชน์ที่น่าสนใจ ทั้งส่วนลดพิเศษ (upfront discount) และค่าตอบแทน (rebate) ในระดับที่คุ้มค่า โดยทีพี-ลิงค์ฯ มีนโยบายในการปกป้องคู่ค้า (partner protection) เพื่อให้มั่นใจว่าคู่ค้าทุกรายที่ตั้งใจทำงานกับเราจะได้รับผลกำไรอย่างเป็นธรรม โดยไม่ต้องเผชิญปัญหาการแข่งขันด้านราคาที่รุนแรง หรือราคาออนไลน์ที่ส่งผลกระทบต่องานโปรเจกต์ ทีพี-ลิงค์ฯ ตั้งเป้าที่จะรับรอง SolutionX Partner ให้ได้ถึง 1,000 รายภายในปี 2025

ผนึกกำลังสู่เป้าหมาย: 1,000 SolutionX Partner และผู้นำตลาดใน 2 ปี

การตัดสินใจแต่งตั้ง วีเอสที อีซีเอส (ประเทศไทย) ในฐานะ VAD ครั้งนี้ จึงเป็นก้าวสำคัญที่จะช่วยให้ทีพี-ลิงค์ฯ บรรลุเป้าหมายในการเพิ่มจำนวน SolutionX Partner ให้ถึง 1,000 รายภายในกรอบเวลาที่กำหนด วีเอสที อีซีเอส จะเข้ามามีบทบาทสำคัญในการผลักดันเชิงรุกไปยังกลุ่ม SI และ CCTV Installers ในเครือข่ายที่ยังไม่เคยรู้จักหรือทดลองใช้ Omada และ VIGI ให้มีโอกาสได้สัมผัส เรียนรู้ และเข้าร่วมโครงการ SolutionX เพื่อดำเนินธุรกิจด้วยอุปกรณ์ภายใต้แบรนด์ Omada และ VIGI โดยมีการวางแผนการทำงานร่วมกันกับทีพี-ลิงค์ฯ ตลอดทั้งปี ทั้งในด้านงานขายและการตลาด ทีพี-ลิงค์ฯ มีความมั่นใจอย่างยิ่งว่าการผนึกกำลังกับ วีเอสที อีซีเอส จะช่วยให้การขยายธุรกิจอุปกรณ์เครือข่ายและกล้องรักษาความปลอดภัยสำหรับองค์กรในประเทศไทยเป็นไปอย่างมั่นคง และทำให้คู่ค้าทุกรายพึงพอใจ จนสามารถก้าวขึ้นเป็น     แบรนด์หลักในตลาดไทยได้ภายใน 2 ปีข้างหน้า

เกี่ยวกับ วีเอสที อีซีเอส (ประเทศไทย)

บริษัท วีเอสที อีซีเอส (ประเทศไทย) จำกัด (เดิมชื่อบริษัทเดอะแวลลูซิสเตมส์ จำกัด) ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2531 ปัจจุบันเป็นบริษัทหนึ่งในเครือของวีเอสที อีซีเอสกรุ๊ป ซึ่งมีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่ฮ่องกง และเป็นผู้นำด้านการจัดจำหน่ายสินค้าไอทีในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกที่มีช่องทางการจัดจำหน่ายกว่า 50,000 รายกระจายอยู่ในประเทศจีน, ไทย, มาเลเซีย, สิงคโปร์, อินโดนีเซีย, ฟิลิปปินส์, เมียนมาร์ และลาว

วีเอสที อีซีเอส (ประเทศไทย) ดำเนินธุรกิจเป็นผู้จัดจำหน่ายสินค้าด้านไอทีผ่านทางธุรกิจ 4 กลุ่มหลัก คือ คอนซูเมอร์, คอมเมอร์เชียล, โซลูชัน และดีไวซ์แอนด์ไลฟ์สไตล์ ภายใต้แบรนด์ชั้นนำระดับโลกกว่า 80 แบรนด์ มีสำนักงานสาขาที่สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาร์ซึ่งเปิดดำเนินการเมื่อเดือนเมษายน 2557 ในชื่อบริษัท วีเอสที อีซีเอส (เมียนมาร์) จำกัด เพื่อดำเนินธุรกิจด้านเอนเตอร์ไพรส์ซิสเตมส์โดยเฉพาะ

เกี่ยวกับ ทีพี-ลิงค์ เอ็นเตอร์ไพรส์ (ประเทศไทย)

บริษัท ทีพี-ลิงค์ เอ็นเตอร์ไพรส์ (ประเทศไทย) จำกัด เป็นส่วนหนึ่งของ TP-Link Global ผู้นำด้านผลิตภัณฑ์เครือข่ายระดับโลก มีความมุ่งมั่นในการนำเสนอโซลูชั่นเครือข่ายและอุปกรณ์ Wi-Fi ที่ล้ำสมัย และผลิตภัณฑ์กล้องวงจรปิดอัจฉริยะ สำหรับผู้ใช้ตามบ้าน ธุรกิจขนาดเล็ก และองค์กรขนาดใหญ่ ด้วยนวัตกรรมที่ต่อเนื่องและคุณภาพที่เชื่อถือได้ ทีพี-ลิงค์ฯ ได้รับความไว้วางใจจากผู้ใช้งานทั่วโลก