บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด ร่วมกับ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย สร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ให้กับวงการการศึกษาไทย ด้วยการเปิดตัวระบบ “e-Transcript” หรือใบรับรองผลการศึกษาในรูปแบบดิจิทัล ผ่านแอปพลิเคชัน “Prompt Post” เป็นครั้งแรกในประเทศไทย ความร่วมมือครั้งสำคัญนี้จะยกระดับการจัดส่งเอกสารการศึกษาให้รวดเร็ว ปลอดภัย และสามารถเข้าถึงได้ทุกที่ทุกเวลาผ่าน Digital Postbox ส่วนบุคคล ตอกย้ำวิสัยทัศน์ของไปรษณีย์ไทยในการเป็น 'Digital Lifestyle Brand' และ 'Trusted Service' ที่ไม่เพียงมุ่งเน้นความสะดวกสบาย แต่ยังให้ความสำคัญสูงสุดกับความน่าเชื่อถือและความปลอดภัยของข้อมูล
จาก Physical สู่ Digital การวิวัฒนาการของไปรษณีย์ไทยในฐานะผู้ให้บริการเอกสาร
ไปรษณีย์ไทยยืนยันว่าการเปลี่ยนผ่านนี้ไม่ใช่การเปลี่ยนแปลงภารกิจหลัก
แต่เป็นการปรับตัวให้เข้ากับยุคดิจิทัล
จากเดิมที่ทำหน้าที่เคลื่อนย้ายสิ่งของและจดหมายในรูปแบบกายภาพ (physical
logistics) ได้ขยับขยายบทบาทสู่การเป็นผู้เคลื่อนย้ายข้อมูลดิจิทัล
(digital logistics) แนวคิดคือ การทำหน้าที่เหมือนเดิม
แต่ย้ายโลกไปสู่ดิจิทัล โดยมีเป้าหมายในการเป็น "คนกลาง"
ที่เชื่อถือได้ในการเคลื่อนย้ายข้อมูลเหล่านี้
การเป็นไปรษณีย์ไทยนั้นมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการดำเนินงานนี้
เพราะเป็นองค์กรที่สามารถมอบประสบการณ์ลูกค้าที่สมบูรณ์แบบได้ดีที่สุด
เนื่องจากหากผู้รับปลายทางไม่เปิดเอกสารดิจิทัลภายในระยะเวลาที่กำหนด
ไปรษณีย์ไทยก็ยังสามารถพิมพ์เอกสารฉบับจริงและนำส่งด้วยบุรุษไปรษณีย์ถึงปลายทางได้
e-Transcript แก้ Pain Point ของการขอเอกสารแบบเดิม
ระบบ e-Transcript เกิดขึ้นเพื่อแก้ปัญหาความยุ่งยากและเสียเวลาที่นักศึกษาและประชาชนทั่วไปประสบในการขอเอกสารทางการศึกษาแบบเดิม ในอดีต การขอใบรับรองผลการศึกษาจำเป็นต้องเดินทางไปที่สำนักทะเบียนด้วยตนเอง กรอกแบบฟอร์ม และบางครั้งต้องกลับไปรับเอกสารอีกครั้งในวันหลัง สำหรับผู้ที่อยู่ต่างจังหวัดหรือต่างประเทศ การดำเนินการนี้ยิ่งเป็นเรื่องที่ซับซ้อนและใช้เวลานาน นอกจากนี้ ปัญหาที่สำคัญอีกประการคือความเสี่ยงด้านความน่าเชื่อถือและการปลอมแปลงเอกสารดิจิทัลในสังคม เช่น การเซ็นเอกสารออนไลน์ที่ยากจะยืนยันตัวตน หรือการส่งเอกสารผ่านแอปพลิเคชัน Line ที่ไม่สามารถยืนยันเวลาที่แน่นอนทางกฎหมายได้ รวมถึงความสามารถในการแก้ไขข้อมูลในเอกสารสำคัญ เช่น ใบรับรองแพทย์ ปัญหาเหล่านี้ล้วนสร้างความกังวลและผลกระทบในกรณีที่ต้องมีการฟ้องร้องทางกฎหมาย
Prompt Post มากกว่า e-Transcript สู่ Digital Lifestyle Brand
“Prompt Post” ไม่ได้จำกัดอยู่แค่บริการ e-Transcript แต่ถูกวางตำแหน่งให้เป็นชื่อบริการที่สะท้อนถึงการเป็น "Digital Lifestyle Brand" ของไปรษณีย์ไทย มีวัตถุประสงค์หลักคือ "document less mode" หรือการลดความยุ่งยากเกี่ยวกับเอกสาร เพื่อให้ผู้คนมีเวลาและคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น บริการนี้โดดเด่นด้วยคุณสมบัติสำคัญที่สร้างความน่าเชื่อถือและความปลอดภัยสูงสุด ได้แก่
eKYC (Electronic Know Your Customer): ไปรษณีย์ไทยใช้ระบบนี้เพื่อยืนยันตัวตนของผู้ใช้งาน ให้มั่นใจว่าผู้ที่เข้ามายืนยันตัวตนคือบุคคลจริง ระบบ eKYC ของไปรษณีย์ไทยได้รับการพัฒนามานานแล้ว และกำลังขยายให้สามารถทำได้ถึงบ้าน เพื่อความสะดวกสบายยิ่งขึ้น
Digital Signature: เอกสาร e-Transcript ที่ออกผ่านระบบ Prompt Post จะมี Digital Signature ที่สามารถตรวจสอบได้ทันทีว่าออกโดยหน่วยงานใด และไม่เคยมีการดัดแปลงหรือปลอมแปลง สิ่งนี้ช่วยสร้างความมั่นใจในความถูกต้องของข้อมูลอย่างแท้จริง
Trusted Service: ระบบ Prompt Post ถูกออกแบบมาให้เป็น "trusted service" ที่มีความน่าเชื่อถือครบวงจร ตั้งแต่ขั้นตอนการร้องขอเอกสาร การอนุมัติจากหน่วยงานที่เป็นเจ้าของเอกสาร จนถึงการส่งไปยังปลายทาง ผู้ใช้งานยังสามารถติดตามสถานะเอกสารได้ทุกขั้นตอน
Digital Postbox: เอกสารทั้งหมดจะถูกจัดเก็บอย่างเป็นระบบใน Digital Postbox ส่วนบุคคล ซึ่งป้องกันการเข้าถึงข้อมูลที่ไม่ได้รับอนุญาต และช่วยให้ผู้ใช้งานเข้าถึงเอกสารสำคัญได้ง่าย
นอกเหนือจาก e-Transcript แล้ว Prompt Post ยังขยายขีดความสามารถไปสู่การทำธุรกรรมเอกสารดิจิทัลอื่นๆ อีกมากมาย เช่น
สัญญามาตรฐาน: ผู้บริโภคสามารถใช้สัญญามาตรฐานที่กรอกและลงนามอิเล็กทรอนิกส์ (e-signature) ผ่านระบบได้อย่างสะดวก
ช่องทางสำหรับบริษัทประกันและสถาบันการเงิน: สามารถใช้ Prompt Post เป็นช่องทางในการส่ง Lead หรือข้อมูลเพื่อขอรับบริการทางการเงิน เช่น การกู้เงิน โดยระบบสามารถดึงข้อมูลที่มีอยู่แล้วของผู้ใช้งานมาใช้กรอกฟอร์มได้โดยอัตโนมัติ ช่วยลดภาระการกรอกข้อมูลซ้ำซ้อน
การส่งยาสำหรับสัตว์เลี้ยง: ไปรษณีย์ไทยยังได้ร่วมมือกับคณะสัตวแพทยศาสตร์ในการส่งยาสำหรับสัตว์เลี้ยงไปยังบ้านผู้ป่วย ซึ่งไม่เคยเกิดขึ้นในประเทศไทยมาก่อน สะท้อนถึงความมุ่งมั่นในการยกระดับคุณภาพชีวิตในมิติที่หลากหลาย
ความร่วมมืออย่างเท่าเทียมระหว่าง จุฬาฯ และไปรษณีย์ไทย เพื่อสังคมดิจิทัล
ความร่วมมือระหว่างจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยและไปรษณีย์ไทย เปรียบเสมือน “การสมรสเท่าเทียม” ที่เกิดขึ้นจากการมองเห็น “Pain Point” ในสังคมร่วมกัน ศ.ดร.มานะ ศรียุทธศักดิ์ ผู้อำนวยการสำนักงานทะเบียน จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เป็นผู้ริเริ่มและเห็นปัญหาเรื่องระบบเอกสารทางการศึกษาและการยืนยันตัวตนในโลกออนไลน์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งปัญหาการยืนยันตัวตนของผู้ขอ Transcript ว่าเป็นคนเดียวกันกับเจ้าของข้อมูลจริง และความกังวลเรื่องข้อมูลส่วนตัวที่อาจไม่ต้องการเปิดเผย
ศาสตราจารย์ ดร.วิเลิศ ภูริวัชร อธิการบดีจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า “ความร่วมมือครั้งนี้จะเป็นก้าวสำคัญที่จุฬาฯ จะเป็นมหาวิทยาลัยแรกที่ใช้ระบบ e-Transcript อย่างเต็มรูปแบบ สามารถตรวจสอบความถูกต้องและปลอดภัยได้อย่างครอบคลุม ถือเป็นการปฏิวัติวงการทะเบียนของมหาวิทยาลัยไทย และยังพร้อมที่จะส่งต่อองค์ความรู้นี้ไปยังมหาวิทยาลัยต่างๆ เพื่อการพัฒนาที่รอบด้านและยั่งยืน ย้ำว่า e-Transcript จะช่วยให้งานทะเบียนมีความคล่องตัว ทันสมัย ลดขั้นตอนและเวลาในการขอเอกสาร ป้องกันการปลอมแปลง และสร้างความมั่นใจแก่องค์กรภายนอก
ผศ.ดร.เอกก์ ภทรธนกุล กรรมการและประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด และ Chief Brand Officer จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย อธิบายว่า ไปรษณีย์ไทยในฐานะแบรนด์ที่ได้รับความเชื่อมั่นจากคนไทยมานานกว่า 142 ปี ได้พัฒนาวิสัยทัศน์ดิจิทัลเพื่อต่อยอดความสำเร็จ โดยในปี 2568 นี้ Prompt Post จะเป็นก้าวสำคัญของไปรษณีย์ไทยจากการเป็นผู้ให้บริการโลจิสติกส์ไปสู่การเป็นผู้ให้บริการแพลตฟอร์มและข้อมูล ความเชื่อมั่นคือหัวใจของการเติบโตของแบรนด์ในยุคปัจจุบัน สอดคล้องกับแผนงานด้านดิจิทัลของไปรษณีย์ไทยที่ไม่ได้มุ่งเน้นแค่ความสะดวก แต่เป็นการขับเคลื่อนความเชื่อมั่นระหว่างรัฐ เอกชน และประชาชน ผ่านการออกแบบบริการที่ปลอดภัย แม่นยำ เชื่อถือได้ และมีมาตรฐานระดับสากล มั่นใจว่าไปรษณีย์ไทยสามารถเป็น "Infrastructure Partner" ให้กับองค์กรต่าง ๆ ในยุค Digital Transformation ได้ ไม่จำกัดแค่การขนส่ง แต่รวมถึงการยืนยันตัวตน การจัดเก็บข้อมูล การส่งผ่านเอกสารสำคัญ และการสร้างแพลตฟอร์มความเชื่อมั่นใหม่สำหรับสังคมไทย"
ดร.ดนันท์ สุภัทรพันธุ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด กล่าวเสริมว่า บริการ e-Transcript ผ่าน Prompt Post จะยกระดับมาตรฐานการให้บริการทางการศึกษาของมหาวิทยาลัยให้ทันสมัย ตอบโจทย์นิสิตนักศึกษาในยุคดิจิทัล และเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการข้อมูล บริการนี้ครอบคลุมประโยชน์หลายมิติ ทั้งความปลอดภัยและความน่าเชื่อถือด้วยการป้องกันการปลอมแปลงและสวมรอย การเข้ารหัสข้อมูลตลอดกระบวนการ ความสะดวกในการเข้าถึงและใช้งานทุกที่ทุกเวลา การเชื่อมต่อกับระบบหน่วยงานปลายทางผ่าน API และยังเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมจากการช่วยลดการใช้กระดาษจำนวนมาก สนับสนุนนโยบาย Green University
ศ.ดร.มานะ ศรียุทธศักดิ์ ผู้อำนวยการสำนักงานทะเบียน จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวปิดท้ายว่า ความร่วมมือนี้เป็นจุดเริ่มต้นของการสร้างมาตรฐานใหม่ให้แก่ระบบเอกสารของมหาวิทยาลัยไทยโดยรวม โดยนิสิตนักศึกษาสามารถยื่นขอเอกสารได้จากทุกที่ทั่วโลกตลอด 24 ชั่วโมง ไม่ต้องเดินทางมายังมหาวิทยาลัย ลดภาระและขั้นตอนได้อย่างมหาศาล และหน่วยงานปลายทางทั้งในและต่างประเทศสามารถตรวจสอบความถูกต้องของเอกสารได้ทันที จุฬาฯ มุ่งมั่นที่จะขับเคลื่อนมหาวิทยาลัยสู่การเป็นผู้นำแห่งการสร้างสรรค์องค์ความรู้และนวัตกรรมเพื่อสร้างเสริมสังคมสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน ซึ่งบริการ e-Transcript ถือเป็นอีกก้าวสำคัญในการปรับปรุงระบบงานทะเบียนของมหาวิทยาลัยในภาพรวม
การลงทุนเพื่อแพลตฟอร์มของชาติ การพัฒนาระบบที่มีความปลอดภัยสูงและเชื่อถือได้เช่น "Prompt
Post" ต้องใช้งบประมาณมหาศาล ซึ่งอาจสูงถึงหลักพันล้านบาท
ไปรษณีย์ไทยในฐานะหน่วยงานที่มีหน้าที่ดูแลสังคมในเรื่องเอกสาร
จึงลงทุนในเรื่องนี้
เพื่อสร้างแพลตฟอร์มของประเทศที่สามารถตรวจสอบข้อมูลได้โดยไม่ต้องพึ่งพาบริษัทต่างชาติ
ซึ่งอาจไม่สามารถเปิดเผยข้อมูลได้ง่ายๆ ในกรณีเกิดข้อพิพาททางกฎหมาย
บริการ e-Transcript ตั้งเป้าเริ่มให้บริการไตรมาส 3 ปีนี้ และจะเดินหน้าขยายผลสู่สถาบันการศึกษาทั่วประเทศ เพื่อร่วมกันวางมาตรฐานกลางของเอกสารดิจิทัลสำหรับภาคการศึกษา และต่อยอดสู่การใช้งานในองค์กรภาครัฐและเอกชนในอนาคต นี่คือหมุดหมายสำคัญของการปฏิรูปชีวิตดิจิทัลของคนไทยอย่างแท้จริง