กลุ่มบริษัทสามารถเทลคอม ตั้งเป้าปี 2568 เซ็นทะลุหมื่นล้าน รับรู้รายได้รวม ทะลุ 6,500 ล้านบาท สูงสุดในรอบ 5 ปี นับตั้งแต่การแพร่ระบาดของโควิด-19 ล่าสุดได้ปรับเพิ่มอันดับเครติดเป็น BBB+ ตอกย้ำศักยภาพและความมั่นคงของธุรกิจ พร้อมเดินหน้าขยายตลาดและโซลูชันดิจิทัลครบวงจร รองรับการเปลี่ยนผ่านสู่เศรษฐกิจดิจิทัลทั้งภาครัฐและเอกชน
วัฒน์ชัย วิไลลักษณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สามารถเทลคอม จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า “ผลการดำเนินงานของกลุ่มบริษัทสามารถเทลคอม ณ สิ้นเดือนพฤษภาคม เติบโตเป็นที่น่าพอใจ โดยมีการเซ็นสัญญา รวมถึงชนะงานโครงการใหม่ไปแล้วรวมกว่า 4,000 ล้านบาท อาทิ โครงการที่ดำเนินการกับ บมจ.ท่าอากาศยานไทย, บมจ.โทรคมนาคมแห่งชาติ และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค เป็นต้น รวมมูลค่างานในมือรอการรับรู้ประมาณ 7,500 ล้านบาท
เมื่อพิจารณาจากแนวโน้มการลงทุนอย่างต่อเนื่องของภาครัฐในด้านเทคโนโลยีดิจิทัล
และ ICT บริษัทคาดว่าต่อจากนี้จะยังคงมีโอกาสได้งานเพิ่มเติมต่อเนื่อง
โดยตั้งเป้าได้งานใหม่เพิ่มอีกกว่า 6,000 ล้านบาท
ในช่วงที่เหลือของปี 2568 นี้ ส่งผลให้ในปีนี้ บริษัทมีโอกาสเซ็นสัญญาทะลุ 1
หมื่นล้านบาท
ซึ่งนับเป็นสถิติสูงสุดในรอบ 5
ปี ในส่วนของรายได้
คาดว่ารวมทั้งปีจะทะลุ 6,500 ล้านบาท ประกอบด้วยฐานรายได้ประจำสม่ำเสมอ (Recurring
Income) สูงสุดแตะ 44% เป็นสถิติสัดส่วนรายได้ประจำสูงสุด
นับตั้งแต่การแพร่ระบาดของโควิด-19 ส่งผลให้ในช่วงไตรมาสที่ 2 ของปี บริษัทฯได้รับการปรับเพิ่มระดับเครดิตจากเดิม
BBB (ทริปเปิ้ลบี) เป็น BBB+
(ทริปเปิ้ลบี พลัส) จาก Tris
Rating สถาบันจัดอันดับเครดิตชั้นนำของประเทศไทย สะท้อนถึงแนวโน้มการประกอบธุรกิจที่ดี
และมั่นคงยิ่งขึ้น สอดคล้องกับทิศทางการเติบโตของบริษัท
และแนวโน้มการลงทุนที่เติบโตต่อเนื่องของอุตสาหกรรม
สนับสนุนการขับเคลื่อนองค์กรสู่ยุคดิจิทัลด้วยบริการ
Outsourcing Services แบบครบวงจร
จากนโยบายของภาครัฐที่สนับสนุนการขับเคลื่อนองค์กรด้วยเทคโนโลยี
เพื่อรองรับเศรษฐกิจดิจิทัล องค์กรต่างๆ ที่ต้องเร่งปรับตัวสู่การเป็นองค์กรดิจิทัล
จำเป็นต้องใช้งบประมาณจำนวนมาก ในการเลือกเทคโนโลยีที่เหมาะสม
และสรรหาบุคลากรที่มีความชำนาญ
ด้วยประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในการให้บริการด้านเทคโนโลยีกับองค์กรขนาดใหญ่ทั้งภาครัฐและเอกชนมาอย่างต่อเนื่องยาวนาน บริษัทฯจึงเล็งเห็นโอกาสในการนำเสนอบริการ Outsourcing Services แบบครบวงจร (One Stop Service) เพื่อสนับสนุนให้องค์กรสามารถเข้าถึงเทคโนโลยีที่ทันสมัยได้อย่างรวดเร็ว พร้อมลดภาระด้านการลงทุน และเพิ่มความยืดหยุ่นในการดำเนินงาน โดยร่วมมือกับพันธมิตรเทคโนโลยีระดับโลก พร้อมส่งมอบบริการครบวงจรให้แก่ลูกค้าในทุกขั้นตอน ตั้งแต่การออกแบบ (Design) การติดตั้งและพัฒนา (Implement) การดำเนินงาน (Operate) ไปจนถึงการบำรุงรักษา (Maintenance)
พร้อมตอบโจทย์ด้วยบริการด้านเทคโนโลยีที่หลากหลายครอบคลุมทุกภาคอุตสาหกรรม ได้แก่ โซลูชันการพิมพ์ป้องกันการปลอมแปลง, โซลูชันด้านการระวังความปลอดภัยทั้งในเชิงกายภาพ และความปลอดภัยทางไซเบอร์, โซลูชันด้านการเงิน การธนาคาร, โซลูชันที่อำนวยความสะดวกในภาคขนส่ง ตลอดจนโซลูชันที่ช่วยภาครัฐในการจัดเก็บค่าธรรมเนียมและภาษี เป็นต้น
นอกจากนี้ยังมีแผนขยายตลาดของบริการระบบ
ERP ที่บริษัทมีความเชี่ยวชาญ ไปยังกลุ่มลูกค้าใหม่
นอกเหนือจากกลุ่มสาธารณูปโภคเดิม เพื่อเสริมความแข็งแกร่งของรายได้ประจำ อีกทั้งบริษัทยังมุ่งพัฒนาโซลูชันด้านสิ่งแวดล้อม
และพลังงานสะอาด รองรับเทรนด์ความยั่งยืน (Sustainability)
โดยมีแผนดำเนินโครงการภายใต้รูปแบบ Power Purchasing Agreement (PPA)
เพื่อจัดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ รวมถึงการดำเนินโครงการระบบเฝ้าระวังและเตือนภัยมลพิษระยะไกล
(Remote Pollution Monitoring & Early Warning System)
ที่ได้ดำเนินการให้กับการนิคมอุตสาหกรรรมอีกด้วย
ที่สำคัญ “ตอกย้ำมาตรฐานระดับโลก – เสริมความมั่นใจลูกค้า”
สามารถเทลคอมยังให้ความสำคัญกับการบริหารจัดการตามมาตรฐานสากล
เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้า และพันธมิตรธุรกิจอย่างต่อเนื่อง โดยบริษัทฯ
และในเครือได้รับการรับรองมาตรฐานสำคัญ อาทิ
“นอกจากมาตรฐานด้านเทคโนโลยีและการให้บริการระดับโลกที่เราให้ความสำคัญแล้ว กลุ่มบริษัทสามารถเทลคอม
ยังได้วางแนวทางการดำเนินธุรกิจ “Leading to Sustainable future”
เพื่อเตรียมรับทิศทางการเปลี่ยนแปลงการดำเนินธุรกิจแบบยั่งยื่น โดยมุ่งมั่นพัฒนา
และนำเสนอโซลูชัน และบริการที่ดีเลิศ
พร้อมตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้อย่างครบวงจร ควบคู่กับการใส่ใจสังคม
สิ่งแวดล้อม เพื่อเพื่อสนับสนุนองค์กรสู่อนาคตอย่างยั่งยืน” วัฒน์ชัย
กล่าวทิ้งท้าย