11 มิ.ย. 2568 275 0

ดีอี-สดช. และ NT หนุนศก.และสังคม ผนึกกำลัง เปิดตัว 'GDCC Open Data' ยกระดับคลาวด์ภาครัฐ สู่รัฐบาลดิจิทัลเต็มรูปแบบ

ดีอี-สดช. และ NT หนุนศก.และสังคม ผนึกกำลัง เปิดตัว 'GDCC Open Data' ยกระดับคลาวด์ภาครัฐ สู่รัฐบาลดิจิทัลเต็มรูปแบบ



กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี), สำนักงานคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สดช.), และ บริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) หรือ NT ร่วมกันจัดงานสัมมนาครั้งสำคัญ "GOV Cloud 2025 : Empowering Thailand Government with GDCC Open Data" เพื่อประกาศเปิดตัว "GDCC Open Data" คลาวด์ภาครัฐยุคใหม่ โดยมีพันธมิตรผู้ให้บริการคลาวด์ชั้นนำทั้งในประเทศและต่างประเทศเข้าร่วมงานอย่างคับคั่ง ณ ห้อง NT Auditorium อาคารสโมสรสำนักงานใหญ่ NT งานนี้จัดขึ้นเพื่อยกระดับศักยภาพโครงสร้างพื้นฐานคลาวด์ภาครัฐ และต่อยอดการพัฒนาข้อมูลเปิดภาครัฐ


ศาสตราจารย์พิเศษวิศิษฏ์ วิศิษฏ์สรอรรถ ปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) ได้กล่าวเน้นย้ำถึงความสำคัญของระบบคลาวด์กลางภาครัฐ โดยระบุว่านี่คือ หัวใจสำคัญในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลของประเทศ ดีอีจึงได้มุ่งมั่นผลักดันการพัฒนาโครงสร้างคลาวด์กลางหลักอย่างต่อเนื่อง และการเปิดตัว "GDCC Open Data" ถือเป็นก้าวสำคัญในการวางรากฐานและโครงสร้างพื้นฐานใหม่ของคลาวด์ภาครัฐ ซึ่งสอดคล้องกับแนวนโยบาย Go Cloud First ที่มุ่งปรับปรุงการทำงานของภาครัฐให้ก้าวสู่การเป็นรัฐบาลดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบ การพัฒนานี้ไม่เพียงแต่ตอบสนองยุทธศาสตร์การขับเคลื่อนดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมของรัฐบาลเท่านั้น แต่ยังเป็นการเปลี่ยนผ่านไปสู่รัฐบาลดิจิทัล และพัฒนาประเทศไทยให้มีความสามารถในการแข่งขันระดับโลกในที่สุด

สำหรับ "GDCC Open Data" เป็นคลาวด์กลางรูปแบบใหม่ที่ได้รับการบูรณาการความร่วมมือจากผู้ให้บริการคลาวด์รายใหญ่ระดับโลกและในประเทศ ซึ่งรวมถึง บมจ.โทรคมนาคมแห่งชาติ (NT), Alibaba, AWS, CloudHM, Huawei, INET, NIPA, Microsoft, และ Oracle ความร่วมมือนี้มีเป้าหมายเพื่อ ยกระดับการทำงานของคลาวด์ภาครัฐในทุกมิติ ตั้งแต่ด้านทรัพยากรไอที เทคโนโลยีคลาวด์และเอไอ ไปจนถึงการรักษาความปลอดภัยไซเบอร์ที่มีมาตรฐานและแนวทางปฏิบัติที่เป็นสากล โครงสร้างพื้นฐาน GDCC Open Data พร้อมแล้วที่จะเป็นกลไกสำคัญในการสนับสนุนรัฐบาลดิจิทัลให้สามารถเปลี่ยนผ่านการบริหารงานภาครัฐไปสู่ ระบบงานที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูล (Data-driven) ได้อย่างสมบูรณ์แบบ


เวทางค์ พ่วงทรัพย์ เลขาธิการคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ สำนักงานคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สดช.) ซึ่งเป็นหน่วยงานผู้ดำเนินโครงการระบบคลาวด์กลางภาครัฐ GDCC (Government Data Center and Cloud Services) อยู่ก่อนแล้ว ได้กล่าวถึง "GDCC Open Data" ว่าเป็นอีกก้าวสำคัญในการพัฒนาคลาวด์กลางภาครัฐ เพื่อมุ่งยกระดับการบริการภาครัฐไปสู่การเป็น รัฐบาลดิจิทัลเต็มรูปแบบ โดยเน้นย้ำถึงความร่วมมือกับผู้ให้บริการคลาวด์ชั้นนำทั้งในและต่างประเทศ รวมถึงพันธมิตรด้านเทคโนโลยีความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์ที่คอยสนับสนุนองค์ความรู้และเทคโนโลยีอย่างต่อเนื่อง เป้าหมายหลักคือการทำให้รัฐบาลมี โครงสร้างพื้นฐานคลาวด์ที่มั่นคงแข็งแกร่ง สามารถรองรับแนวโน้มการใช้งานด้านข้อมูลและการพัฒนานวัตกรรมของภาครัฐที่มีความต้องการเพิ่มสูงขึ้นในอนาคต การพัฒนานี้มีความเชื่อมโยงอย่างชัดเจนกับวิสัยทัศน์ "Digital Thailand 2025" ระยะที่ 3 หรือ Digital Thailand II : Full Transformation (พ.ศ. 2566 – 2570) ซึ่งมีแก่นสำคัญอยู่ที่การเป็น รัฐบาลดิจิทัลที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูล (Data-driven) และสามารถใช้ประโยชน์จากนวัตกรรมดิจิทัลได้อย่างเต็มศักยภาพ เพื่อมอบคุณสมบัติการบริการภาครัฐที่ "เชื่อมโยง – โปร่งใส – ตรวจสอบได้ – และมีประชาชนเป็นศูนย์กลาง"


โครงสร้างพื้นฐาน GDCC Open Data จะทำหน้าที่เป็นกลไกสำคัญในการ ขับเคลื่อนรัฐบาลให้สามารถเชื่อมโยงข้อมูลและบริการสาธารณะต่างๆ ผ่านเทคโนโลยีดิจิทัลที่ทันสมัย ทำให้ประชาชนได้รับการบริการจากรัฐที่ สะดวกมากยิ่งขึ้น พร้อมทั้งเพิ่มความปลอดภัยทางไซเบอร์ นอกจากนี้ ยังสามารถรองรับการขับเคลื่อน นโยบายข้อมูลเปิดภาครัฐ (Open Data) ซึ่งเป็นอีกหนึ่งนโยบายสำคัญที่ ดีอี ผลักดันมาอย่างต่อเนื่อง ข้อมูลเปิดภาครัฐจะไม่เพียงเสริมสร้างความโปร่งใสในการดำเนินงานบริการภาครัฐเท่านั้น แต่ยังเป็นการเปิดโอกาสให้ทุกภาคส่วน สามารถเข้าถึงและนำข้อมูลเปิดที่เป็นประโยชน์ไปต่อยอดสร้างสรรค์นวัตกรรม และพัฒนาบริการใหม่ๆ ที่ตอบสนองความต้องการของสังคมได้อย่างแท้จริง ซึ่งสิ่งนี้จะวาง รากฐานการพัฒนาเศรษฐกิจฐานข้อมูล เพื่อสร้างโอกาสทางธุรกิจ สนับสนุนการขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัล และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศในระยะยาว

ปัจจุบัน รัฐบาลได้มีการให้บริการโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลระบบคลาวด์ภาครัฐ GDCC อยู่แล้ว โดยทำหน้าที่เป็นศูนย์รวมข้อมูลภาครัฐที่มีความปลอดภัยด้วยมาตรฐานสากล ให้บริการแก่หน่วยงานภาครัฐแล้วจำนวน 204 กรม, 1,182 หน่วยงาน, และ 3,753 ระบบงาน ที่ผ่านมา คลาวด์กลาง GDCC ได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ทั้งในด้านประสิทธิภาพการจัดเก็บข้อมูลและการประมวลผล มีการพัฒนาระบบแพลตฟอร์มบริการจัดการสำนักงาน e-Office รวมถึงขยายบริการด้านแพลตฟอร์มกลางต่างๆ เพื่อสนับสนุนนโยบายด้านข้อมูลเปิด อาทิ ระบบพอร์ทัลกลางสำหรับประชาชน (Citizen Portal), ศูนย์กลางบริการภาครัฐเพื่อภาคธุรกิจ (Biz Portal), ระบบแลกเปลี่ยนประวัติการรักษาผู้ป่วยข้ามโรงพยาบาล (Health Link), ระบบกลางด้านกฎหมาย (Law Portal), ระบบบัญชีข้อมูลภาครัฐ (GD Catalog), และการพัฒนาระบบยืนยันตัวตนกลาง (Digital ID) เป็นต้น


สำหรับอนาคต การต่อยอดการใช้งานคลาวด์จะเน้นไปที่การ เชื่อมโยงและใช้งานข้อมูล การพัฒนาคลาวด์ระบบใหม่ "GDCC Open Data" นี้จึงถูกออกแบบมาเพื่อรองรับการพัฒนาและสร้างสรรค์นวัตกรรมที่สามารถตอบโจทย์การพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัลและสังคมที่ยั่งยืน โดยจะมีการ นำข้อมูลจาก GDCC Open Data มาประยุกต์ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data) ควบคู่กับการใช้งานด้านปัญญาประดิษฐ์ (AI) เพื่อสนับสนุนการตัดสินใจที่แม่นยำและมีประสิทธิภาพในการสร้างนโยบายและบริการสาธารณะที่ตอบสนองต่อความต้องการของประชาชนอย่างแท้จริง พร้อมทั้งส่งเสริมความโปร่งใสและประสิทธิภาพในการดำเนินงานของภาครัฐ

พันเอก สรรพชัยย์ หุวะนันทน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.โทรคมนาคมแห่งชาติ (NT) ได้ยืนยันความพร้อมของ NT ในการร่วมมือกับพันธมิตรผู้ให้บริการพับลิกคลาวด์ระดับโลกเพื่อสนับสนุนการพัฒนาระบบคลาวด์ "GDCC Open Data" ซึ่งจะ รองรับการขับเคลื่อนรัฐบาลดิจิทัลด้านการบูรณาการข้อมูลภาครัฐให้เป็น Open Data สิ่งนี้จะเป็น กุญแจสำคัญสู่การเทรน AI ของภาครัฐด้วยข้อมูลของประเทศไทยเอง โดย NT ได้พัฒนา Cloud Management Platform (CMP) ขึ้น เพื่อทำหน้าที่เป็นแพลตฟอร์มกลางในการบริหารจัดการและเชื่อมโยงการทำงานอย่างมีประสิทธิภาพระหว่างระบบคลาวด์ GDCC เดิม และระบบคลาวด์ GDCC Open Data ใหม่นี้ แพลตฟอร์มนี้จะช่วยให้หน่วยงานภาครัฐสามารถเลือกใช้บริการคลาวด์ได้ตามความเหมาะสมของแต่ละงาน รวมถึงการบริหารจัดการข้อมูลได้อย่างมีประสิทธิภาพผ่านแพลตฟอร์มกลางดังกล่าว


การเปิดตัว GDCC Open Data ในครั้งนี้จึงถือเป็น ก้าวสำคัญที่สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของหน่วยงานภาครัฐและพันธมิตรภาคเอกชนในการร่วมกันวางรากฐานโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลที่แข็งแกร่ง เพื่อขับเคลื่อนประเทศไทยสู่การเป็นรัฐบาลดิจิทัลเต็มรูปแบบ และสร้างอนาคตดิจิทัลที่เชื่อมโยง โปร่งใส และขับเคลื่อนด้วยข้อมูลเพื่อประโยชน์สูงสุดของประชาชนและประเทศชาติ