วันที่ 31 พฤษภาคม 2568 ประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) กล่าวตอบข้อซักถามของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เรื่องการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2569
ทั้งนี้ ตามที่ แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้มีข้อสั่งการในการปราบปรามอาชญากรรมออนไลน์ แก๊งคอลเซ็นเตอร์ และการพนันออนไลน์อย่างต่อเนื่อง โดยให้กระทรวงดีอี รายงานผลการปราบปรามอย่างต่อเนื่องเป็นประจำทุกเดือนนั้น กระทรวงดีอี ได้มีการประชุมหารือคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ซึ่งเป็นการบูรณาการร่วมกันของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ ปปง. ธนาคารแห่งประเทศไทย สมาคมธนาคาร กสทช. สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ดีเอสไอ ฯลฯ เป็นประจำทุกเดือน โดยมีความคืบหน้าของการปราบปราม ดังนี้
1.การตั้งศูนย์ปฏิบัติการต่อต้านอาชญากรรมออนไลน์
(Anti
Online Scam Operation Center : AOC) โทรสายด่วน 1441
และยกระดับเป็น ศูนย์ปฏิบัติการเพื่อป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี
(ศปอท.) เพื่อกลไกหลักในการรับแจ้งเหตุ รับคำร้องทุกข์ สั่งระงับธุรกรรมทางการเงิน
ประสานงานวิเคราะห์ข้อมูล และสามารถดำเนินคดีอาชญากรรมทางเทคโนโลยีได้อย่างรวดเร็ว
ครบวงจร และมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยได้รับรางวัลระดับ WSIS Prize 2025 จากสหภาพโทรคมนาคมระหว่างประเทศ (ITU) เป็น 1
ในประเทศที่ได้รับรางวัลระดับ Champion Project ประเภท Category
5: Building confidence and security in the use of ICTs
2.การเสนอกฎหมายพระราชกำหนด 2 ฉบับ ที่มีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 13 เมษายน 2568 ที่ผ่านมา และมีการนำเสนอ ต่อที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร มีมติเห็นชอบแล้วเมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม 2568 ได้แก่
2.1.พระราชกำหนดมาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี
(ฉบับที่ 2) พ.ศ.2568
2.2.พระราชกำหนดการประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2568
3.ผลการปราบปรามอาชญากรรมออนไลน์ในห้วงเวลาที่ผ่านมา
3.1การปราบปรามจับกุมคดีอาชญากรรมออนไลน์
เดือน เมษายน 2568 (ข้อมูลสำนักงานตำรวจแห่งชาติ)
–
การจับกุมคดีอาชญากรรมทางเทคโนโลยี รวมทุกประเภท ตั้งแต่ เดือน ตุลาคม 66 – เมษายน
68 มีจำนวนทั้งสิ้น 59,279 ราย โดยในเดือน เมษายน 2568 มีการจับกุมจำนวน 1,965 ราย
–
การจับกุมคดีพนันออนไลน์ คดีพนันออนไลน์ ตั้งแต่ เดือน ตุลาคม 66 – เมษายน 68
มีจำนวนทั้งสิ้น 25,519 ราย โดยในเดือนเมษายน 2568 มีการจับกุมจำนวน 823 ราย
– ผลการจับกุมบัญชีม้า ซิมม้า และความผิดตาม
พรก.ฯ ตั้งแต่ เดือน ตุลาคม 66 – เมษายน 68 มีจำนวนทั้งสิ้น 6,386 ราย
โดยในเดือนเมษายน 2568 มีการจับกุมจำนวน 277 ราย
3.2. การปิดโซเชียลมีเดีย เว็บผิดกฎหมาย และเว็บพนันออนไลน์ (ปีงบประมาณ 68 ตั้งแต่ 1 ต.ค. 67 – 30 เม.ย. 68)
-
การปิดกั้นเว็บไซต์พนันออนไลน์ จำนวน 52,106 (URLs) หลอกลวงออนไลน์
จำนวน 1,167 (URLs) และอื่นๆ 39,657 (URLs) รวมทั้งสิ้น 92,930 (URLs)
-
การประสานแพลตฟอร์มเพื่อขอปิดกั้นเกี่ยวกับหลอกลวงออนไลน์ ที่มีคำสั่งศาล
จำนวนแจ้งขอการปิดกั้น 10,148 (URLs) ที่ไม่มีคำสั่งศาล
มีจำนวนแจ้งขอการปิดกั้น 29,526 (URLs) (เฉพาะในส่วนของกระทรวงดีอี)
3.3. การแก้ปัญหาบัญชีม้า เร่งอายัด ตัดตอนการโอนเงิน ผลการดำเนินงานที่สำคัญถึง 30 เม.ย. 68 มีดังนี้
AOC
ระงับบัญชีชั่วคราว จำนวน 383,552 บัญชี
ปปง.
ทำการอายัดบัญชีไปแล้วจำนวน 767,755 บัญชี (ณ วันที่ 20 พ.ค. 68)
3.4. มาตรการแก้ไขปัญหาซิมม้า และ SMS แนบลิงก์
ขณะเดียวกันจากการบูรณาการทำงานร่วมกันของทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทำให้ปัจจุบันมูลค่าความเสียหายจากอาชญากรรมออนไลน์ลดลงเฉลี่ยประมาณ 30-40 ล้านบาทต่อวัน ซึ่งลดลงเป็นจำนวนมากจากในอดีตที่มีมูลค่าความเสียหายวันละกว่า 100 ล้านบาท โดยจะมีการดำเนินการอย่างต่อเนื่อง และจะมีการออกกฎกระทรวงและข้อบังคับอีกกว่า 10 ฉบับเพื่อการทำงานด้านการปราบปราม
“ด้านการปราบปรามการพนันออนไลน์ ซึ่งมีผลกระทบต่อบุคคล ครอบครัว และมีผลกระทบต่อเศรษฐกิจอย่างมหาศาล โดยกระทรวงดีอี ได้จัดทำข้อเสนอแนะให้กระทรวงมหาดไทย และกระทรวงดีอี ร่วมกันออกกฎหมายฉบับรอง เพื่อควบคุมการพนันออนไลน์ให้อยู่ในการดูแลของรัฐเท่านั้น ป้องกันเด็ก และเยาวชนเข้ามายุ่งเกี่ยวกับพนันออนไลน์ โดยรัฐบาลสามารถกำหนดเงื่อนไขต่างๆ และสามารถจัดเก็บรายได้จากการพนันออนไลน์ที่อยู่นอกระบบให้กลับมาอยู่ในระบบการควบคุมและจัดเก็บรายได้ของรัฐตามกฎหมาย เพื่อนำไปสู่การสร้างสรรค์เศรษฐกิจและสังคมต่อไป โดยขอเน้นย้ำว่าเป็นเพียงการเสนอแนวคิดในการควบคุมการพนันออนไลน์ที่มีอยู่อย่างแพร่หลาย และจะมีการดำเนินการหารือเรื่องออกกฎหมายระดับรอง เพื่อการดำเนินการต่อไป” รองนายกฯ ประเสริฐ กล่าว
นอกจากนี้จากสถานการณ์แผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นในห้วงที่ผ่านมา โดยกรมอุตุนิยมวิทยา ใช้เครื่องมือตรวจวัดแผ่นดินไหวชนิดแบบคาบยาว ซึ่งใช้มากว่า 10 ปี แล้ว จะเป็นการจัดหาเพื่อทดแทนของเดิมที่มีอยู่แล้ว เพื่อการเฝ้าระวังแผ่นดินไหวภายในและนอกประเทศ โดยที่ผ่านมา ได้มีการปรับปรุงกระบวนการ มาตรฐานการปฏิบัติงาน รวมทั้งการเกณฑ์การตรวจเฝ้าระวัง เพื่อลดระยะเวลา ให้สิ้นสุดกระบวนการไม่เกิน 20 นาที ขณะเดียวกันกระทรวงดีอี เตรียมการร่างพระราชบัญญัติอุตุนิยมวิทยาขึ้นมาเป็นร่างแรก พร้อมนำเสนอต่อสภา โดยคาดว่าจะกลายเป็นแผนแม่บทในการกำกับดูแลเรื่องภัยพิบัติทั้งหมด