บริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน) และ บริษัท กาแฟพันธุ์ไทย จำกัด จัดงาน "Punthai Coffee Pride by The River" พิธีเปิดร้านกาแฟพันธุ์ไทยสาขาใหม่ ณ อาคารรัฐสภา อย่างเป็นทางการ โดยได้รับเกียรติจาก วันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา เป็นประธานในพิธีเปิดฯ พร้อมด้วย บุญส่ง น้อยโสภณ รองประธานวุฒิสภา คนที่สอง พิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน พิทักษ์ รัชกิจประการ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน) และสุขวสา ภูชัชวนิชกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท กาแฟพันธุ์ไทย จำกัด ร่วมงาน พร้อมเปิดตัว “รัฐสภาเบลนด์” 2 เมนูสุดเอ็กซ์คลูซีฟที่รังสรรค์พิเศษเฉพาะสาขาอาคารรัฐสภาแห่งนี้ เท่านั้น
วันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา กล่าวในพิธีเปิดว่า "ร้านกาแฟแห่งนี้มีความมุ่งหวังที่จะให้เป็นสถานที่พักผ่อน พบปะ สร้างความผาสุก และสร้างระบบนิเวศในการทำงาน รวมทั้งอำนวยความสะดวก และจัดสวัสดิการให้กับสมาชิกรัฐสภา บุคคลในวงงานรัฐสภา บุคลากรของสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร และผู้มาเยี่ยมเยือน ณ รัฐสภาแห่งนี้ซึ่งการมีร้านกาแฟที่มีมาตรฐานและบรรยากาศที่ดี จะเป็นการช่วยสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการทำงาน เป็นการส่งเสริมคุณภาพชีวิตของผู้ปฏิบัติงาน และผู้มาใช้บริการอีกด้วย"
พิทักษ์ รัชกิจประการ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่บริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า "การเปิดร้านกาแฟพันธุ์ไทย สาขาอาคารรัฐสภา ไม่เพียงแต่เป็นการขยายสาขาให้ผู้บริโภคได้ใช้บริการอย่างสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น แต่ยังสะท้อนถึงบทบาทของภาคเอกชนในส่งเสริมเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม PTG เป็นธุรกิจของคนไทย เรามุ่งมั่นที่จะเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาประเทศ โดยการสนับสนุนคนไทย ตั้งแต่รากฐาน สร้างงาน สร้างอาชีพ เกิดการกระจายรายได้ สร้างความแข็งแรงให้กับครอบครัว สร้างความเข้มแข็งให้กับชุมชน และสร้างสังคมที่อยู่ร่วมกันอย่าง อยู่ดีมีสุข"
สุขวสา ภูชัชวนิชกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท กาแฟพันธุ์ไทย จำกัด กล่าวปิดท้ายว่า "การเปิดร้านกาแฟพันธุ์ไทย สาขารัฐสภา ถือเป็นก้าวสำคัญในการสานต่อพันธกิจของเราที่มุ่งมั่นส่งเสริมอุตสาหกรรมกาแฟไทย ตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ คัดสรรแหล่งปลูกที่ดี ผ่านกรรมวิธีที่พิถีพิถัน จากความตั้งใจของเกษตรกรไทย ไปจนถึงการส่งมอบกาแฟที่ดีที่สุดเสิร์ฟถึงมือลูกค้า เพราะเราเชื่อว่ากาแฟไทยมีดี และอยากให้คนไทยภาคภูมิใจว่ากาแฟไทย ไม่แพ้ชาติใดในโลก กาแฟพันธุ์ไทย ขอให้คำมั่นว่าจะดำเนินธุรกิจด้วยความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม สนับสนุนเกษตรกรไทยให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น"
บรรยากาศภายในงานเต็มไปด้วยความอบอุ่น เพลิดเพลินกับการแสดง “หุ่นละครเล็ก” ที่ถ่ายทอดเรื่องราวศิลปวัฒนธรรมไทยผ่านความประณีตของหุ่นที่เคลื่อนไหวราวกับมีชีวิต พร้อมเปิดตัว “รัฐสภาเบลนด์” 2 เมนูสุดเอ็กซ์คลูซีฟที่ผสานความงดงามแห่งรสชาติ สื่อถึงความรุ่งโรจน์และสง่างาม รังสรรค์พิเศษเฉพาะสาขาอาคารรัฐสภาแห่งนี้ เท่านั้น
·
“รัฐสภาเบลนด์ พันธุ์ไทย คอฟฟี่ ซิกเนเจอร์”
กาแฟอาราบิก้าแท้ 100% กาแฟคั่วเข้มพันธุ์ไทย ผสานความนุ่มละมุนของนมสด
ท้อปด้วยวิปครีมเนียนนุ่ม และทองคำเปลวด้านบน รวมรสชาติ หอม กลมกล่อม ถ่ายรูปสวย
ไว้ในแก้วเดียว
· "รัฐสภาเบลนด์ ชาไทย พันธุ์ไทย ซิกเนเจอร์" สุดยอดใบชาคุณภาพเยี่ยม เบลนด์พิเศษเป็นสูตรเฉพาะของพันธุ์ไทย เติมเต็มด้วยนมสด และความหอมหวานตามธรรมชาติของตาลโตนดสทิงพระ จ.สงขลา พร้อมวิปครีมนุ่มละลายในปาก เพิ่มกิมมิคระยิบระยับด้วยทองคำเปลวสุดพรีเมียม
ร้านกาแฟพันธุ์ไทย สาขาอาคารรัฐสภา นับเป็นสาขาที่ 1,549 ของประเทศไทย และเป็นสาขาที่ 310 ใน กรุงเทพฯ รองรับลูกค้าด้วยที่นั่ง Indoor และ Outdoor สะดวกสบายด้วยบริการ ฟรี Wi-Fi เปิดให้บริการแล้ววันนี้ ดื่มด่ำกับหลากหลายเครื่องดื่มจากแบรนด์กาแฟไทย ที่โอบล้อมด้วยบรรยากาศริมแม่น้ำเจ้าพระยาได้ทุกวันจันทร์ - ศุกร์ ตั้งแต่เวลา 06.00 - 18.00 น. รายละเอียดเพิ่มเติมคลิก www.facebook.com/punthaicoffee หรือ www.punthaicoffee.com
#พันธุ์ไทย #PunthaiCoffee #พันธุ์ไทยอะไรก็เป็นไปได้ #CreativeThaiTaste
เกี่ยวกับ
บริษัท กาแฟพันธุ์ไทย จำกัด
กาแฟพันธุ์ไทย เป็นหนึ่งในธุรกิจ Non-Oil ในเครือบริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน) หรือ PTG ผู้ให้บริการสถานีน้ำมันพีที กาแฟพันธุ์ไทยเปิดตัวครั้งแรกเมื่อปี 2555 ปัจจุบันก้าวเข้าสู่ปีที่ 13 เปิดให้บริการกว่า 1,549 สาขาทั่วประเทศ ด้วยความแข็งแกร่งของแบรนด์ที่มีอัตลักษณ์และเสน่ห์ของความเป็นไทย มี Brand DNA ที่สะท้อนความเป็นไทยอย่างชัดเจน พันธุ์ไทยใช้เมล็ดกาแฟอาราบิก้าแท้ 100% จากภาคเหนือของไทย โดดเด่นด้วยเมนูเครื่องดื่มที่รังสรรค์จากวัตถุดิบคุณภาพ รสชาติอร่อยไม่เหมือนใครและหาทานได้ยาก พร้อมสนับสนุนเกษตรกร ให้ ‘อยู่ดีมีสุข’ โดยการจัดหาวัตถุดิบท้องถิ่นจากทั่วทุกภูมิภาคของประเทศไทย เช่น น้ำตาลดอกมะพร้าวจากอัมพวา ตาลโตนดจาก จากสงขลา ส้มมะปี๊ด จากจันทบุรี ชาอัสสัม จากน่าน เป็นต้น ควบคู่การอนุรักษ์ธรรมชาติและดูแลสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน