“พฤกษา โฮลดิ้ง” เผยผลการดำเนินงานไตรมาส 1 ปี 2568 รายได้รวม 3,705 ล้านบาท จากการเปิดเกมรุกอสังหาฯ ครบเซ็กเมนต์ ผนึกกำลังด้านธุรกิจเฮลท์แคร์เดินหน้าสู่ผู้นำด้านเวลเนส เรสซิเดนซ์ การอยู่อาศัยที่ผสานความเป็นอยู่ที่ดีควบคู่การบริการด้านสุขภาพแบบยั่งยืน ยกระดับการอยู่อาศัยที่ “อยู่ดี มีสุข” พร้อมเดินเกมรุกขานรับมาตรการรัฐในไตรมาส 2 ด้วยการจัดแคมเปญ “บิงโกล์ด” ลุ้นบิง ชิงทอง ให้ลูกค้าได้รับสิทธิประโยชน์ครบทุกช่องทาง ทั้งได้ลุ้นรางวัล ได้ฟรีค่าใช้จ่ายในวันโอน และได้ส่วนลดเพิ่มเติม เปิดโอกาสให้เป็นเจ้าของบ้านและคอนโดได้ง่ายขึ้น
ทองมา วิจิตรพงศ์พันธุ์
รักษาการประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท พฤกษา โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า แม้ภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ต้องเผชิญความท้าทายจากกำลังซื้อที่ชะลอตัว
การปฏิเสธสินเชื่อในระดับสูง
และการชะลอการตัดสินใจซื้อในไตรมาสแรกเพื่อรอมาตรการผ่อนปรน LTV และมาตรการลดค่าธรรมเนียมโอนและจดจำนองจากภาครัฐ แต่พฤกษา โฮลดิ้ง
ยังรักษาความแข็งแกร่งของโครงสร้างรายได้ รวมถึงควบคุมต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ส่งผลให้ไตรมาส 1 ปี 2568 ทำรายได้รวมอยู่ที่
3,705 ล้านบาท
และทำอัตรากำไรขั้นต้นได้ดีที่ 30.6%
ซึ่งเป็นผลมาจากการบริหารจัดการค่าใช้จ่ายอย่างรัดกุม ทั้งในด้านการตลาด พัฒนาประสิทธิภาพด้านการบริหารบุคคล
และต้นทุนทางการเงิน โดยมีอัตราส่วนหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยสุทธิต่อทุน (Net
gearing ratio) ต่ำที่
0.3 เท่า
ปรับตัวดีขึ้นจากการเน้นการลงทุนเฉพาะในธุรกิจหลักที่สร้างมูลค่าได้จริง
และการบริหารเงินที่มีประสิทธิภาพ
ทองมา กล่าวเพิ่มเติมถึงความคืบหน้าของกองทุน CapitaLand Wellness Fund หรือ C-WELL การลงทุนสินทรัพย์เพื่อส่งเสริมสุขภาพและการอยู่อาศัยภายใต้คอนเซ็ปต์การอยู่อาศัยแบบยั่งยืน “อยู่ดี มีสุข” โดยร่วมกับ CapitaLand เป็นการผนึกกำลังผ่านการร่วมลงทุนในธุรกิจหลักของบริษัทฯ รวมทั้งเป็นการขยายขีดความสามารถด้าน Hospitality ไปยังธุรกิจโรงแรม ซึ่งเป็นกลยุทธ์ของเราในการส่งเสริมการลงทุนขยายธุรกิจใหม่ การกระจายสินทรัพย์ และการสร้างรายได้อย่างสม่ำเสมอให้กับกลุ่มธุรกิจพฤกษา โฮลดิ้ง โดยเลือกลงทุนในทำเลที่มีความโดดเด่นด้าน Location โดยมีความคืบหน้าของโครงการที่กองทุนได้ลงทุนไป 1) โรงแรม Lyf Bugis ที่สิงคโปร์ พร้อมเปิดให้บริการเต็มรูปแบบในไตรมาส 2 ปีนี้ 2) The Palm Residences พัฒนาการ มูลค่าโครงการ 2,830 ล้านบาท จำนวน 57 ยูนิต ก่อสร้างเรียบร้อยแล้ว เริ่มโอนในเดือนมีนาคม 3) The Reserve Villa สุขุมวิท 89/1 บ้านเดี่ยวสไตล์พูลวิลล่าระดับพรีเมียม มูลค่าโครงการ 1,600 ล้านบาท จำนวน 26 ยูนิต ออกแบบโดย A49 อยู่ระหว่างก่อสร้าง พร้อมโอนในไตรมาส 4 ปี 2568 และ 4) โรงพยาบาลวิมุต ทองหล่อ ซึ่งเป็นโรงพยาบาลเฉพาะทางด้านกระดูกบนทำเลศักยภาพสูง พร้อมเปิดให้บริการในปี 2570 เป็นต้นไป
ธีระ ทองวิไล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ไตรมาส 1 ปี 2568 พฤกษา เรียลเอสเตท ทำยอดโอนได้ 2,888 ล้านบาท แม้ว่าจะได้รับผลกระทบจากการชะลอการตัดสินใจของลูกค้าที่รอมาตรการรัฐรอบใหม่ รวมถึงยังไม่มีการโอนคอนโดใหม่ในช่วงเวลาดังกล่าว แต่คาดว่ายอดโอนจะปรับตัวดีขึ้นในไตรมาส 4 ที่มีโครงการใหม่รอโอนถึง 4 โครงการ รวมกว่า 10,000 ล้านบาท และทำยอดขาย 3,389 ล้านบาท ในไตรมาสแรก ปี 2568 เพิ่มขึ้น 19% จากไตรมาส 4 ปี 2567 ซึ่งเป็นผลจากการเปิดโครงการใหม่ 5 โครงการที่ครอบคลุมทุกเซ็กเมนต์ ทั้งทาวน์เฮ้าส์ บ้านเดี่ยว คอนโดมิเนียม ในระดับราคาที่ตอบโจทย์ทั้งการอยู่อาศัยจริงและการลงทุน ประกอบด้วย ทาวน์เฮ้าส์ 2 โครงการ ระดับราคา 3 - 5 ล้านบาท บ้านเดี่ยว 2 โครงการ ระดับราคา 3 - 5 ล้านบาท และ The Palm แจ้งวัฒนะ-ชัยพฤกษ์ ราคาเริ่มต้น 15 ล้านบาท ส่วนคอนโดมิเนียมเปิดตัว 1 โครงการ ได้แก่ Chapter One Nord รามอินทรา มูลค่าโครงการ 1,760 ล้านบาท จำนวน 632 ยูนิต ราคา 2 - 3 ล้านบาท ซึ่งเป็นการต่อยอดจากความสำเร็จของโครงการในเฟสแรก
บริษัทยังมียอดขายรอโอน (Backlog) มูลค่ากว่า 4,378 ล้านบาท และสต็อกพร้อมขาย (Ready to move) รวม 6,781 ล้านบาท โดยกว่า 80% มีราคาต่ำกว่า 7 ล้านบาท
ซึ่งจะได้รับผลดีจากมาตรการกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์ของภาครัฐในช่วงไตรมาส 2 และสามารถรับรู้รายได้ทันทีในปีนี้ สำหรับการเปิดตัวโครงการใหม่ในไตรมาส 2 ปี 2568 นายธีระ
กล่าวว่าจะมีการเปิดตัวทาวน์เฮ้าส์แบรนด์พาทิโอ และบ้านเดี่ยวแบรนด์ภัสสร รวม 3 โครงการ ซึ่งเป็นโครงการในระดับราคา 5 - 15 ล้านบาท ที่ยังคงได้รับความสนใจอย่างต่อเนื่อง และในไตรมาส 3 เตรียมพบกับการเปิดตัวโครงการ Chapter Charoenkrung Riverside โครงการริมแม่น้ำใจกลางเจริญกรุง
ที่มอบความเป็นส่วนตัวเหนือระดับด้วยจำนวนครอบครัวเพียง 100
ยูนิตเท่านั้น โดดเด่นด้วยทำเลทองริมแม่น้ำเจ้าพระยา
ท่ามกลางบรรยากาศธรรมชาติใจกลางเมือง
พร้อมดีไซน์หรูหราและสิ่งอำนวยความสะดวกระดับไฮเอนด์ที่ตอบโจทย์ทั้งการพักอาศัยและการลงทุน
"นอกจากนี้เรายังมุ่งสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนและแข็งแกร่ง ด้วยการเสริมสร้างความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ส่งเสริมการอยู่อาศัยเพื่อสุขภาพ มุ่งเน้นการพัฒนาสินค้าและบริการที่ตอบโจทย์สุขภาพและคุณภาพชีวิตที่ดีอย่างเป็นรูปธรรม ถือเป็นการพลิกโฉมครั้งแรกของวงการอสังหาฯ กับการเปิดตัวแนวคิดใหม่ของการอยู่อาศัยภายใต้คอนเซ็ปต์เวลเนส เรสซิเดนซ์ การพัฒนาการอยู่อาศัยเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีแบบยั่งยืน “อยู่ดี มีสุข” " ธีระ กล่าวเสริม
ทางด้านกลุ่มธุรกิจเฮลท์แคร์
นายแพทย์สุวาณิช เตรียมชาญชูชัย
ผู้อำนวยการโรงพยาบาลวิมุต กล่าวว่า ธุรกิจเฮลท์แคร์ของโรงพยาบาลในไตรมาส 1 ปี 2568
สามารถทำรายได้รวม 513 ล้านบาท เติบโตขึ้น 3% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน แม้ว่าจะเป็นช่วง Low Season
ของธุรกิจโรงพยาบาล และคนไข้บางส่วนมีความกังวลเรื่อง Co-Payment
โดยโรงพยาบาลวิมุต พหลโยธิน ยังคงเติบโตขึ้นจากกลุ่มบริการที่มีมูลค่าสูง
เช่น ศูนย์ศัลยกรรม ศูนย์อายุรกรรม ศูนย์กระดูกและข้อ แผนกฉุกเฉิน และศูนย์กุมารเวช
รวมถึงการเติบโตของผู้ป่วยประกัน และผู้ป่วยต่างชาติจากออสเตรเลีย จีน กัมพูชา
และพม่า
สำหรับโรงพยาบาลวิมุต-เทพธารินทร์ที่ครบรอบ
40 ปีไปนั้น
แม้รายได้จะลดลงจากปีก่อนจากคนไข้ประกันสังคมที่อยู่ระหว่างการต่ออายุ
แต่ขณะนี้ได้ต่ออายุเรียบร้อยแล้ว
และยังสามารถควบคุมค่าใช้จ่ายได้อย่างมีประสิทธิภาพ
นายแพทย์สุวาณิช
กล่าวเพิ่มเติมว่า ความคืบหน้าของโครงการโรงพยาบาลวิมุต ทองหล่อ
จะมีการประกาศรายชื่อผู้รับเหมาหลัก (main contractor) ในเดือนพฤษภาคมนี้
และคาดว่าจะพร้อมเปิดให้บริการในไตรมาส 1 ปี 2570
ส่วนการพัฒนาศูนย์เฉพาะทางของโรงพยาบาลวิมุต
พหลโยธิน ทั้งในส่วนของศูนย์สุขภาพปอด ศูนย์ทางเดินอาหารและตับ ศูนย์หัวใจและหลอดเลือด
และศูนย์สมองและระบบประสาท ขณะนี้อยู่ระหว่างการปรับปรุงสถานที่ พร้อมเปิดให้บริการในไตรมาส 2 ปี 2568
ซึ่งจะเป็นศูนย์เฉพาะทางที่สร้างรายได้เพิ่มให้แก่โรงพยาบาลวิมุตต่อไป