รายงานภัยคุกคามทางไซเบอร์ทั่วโลกประจำปี 2568 จาก FortiGuard Labs ชี้ให้เห็นถึงความเฟื่องฟูของบริการ Cybercrime-as-a-Service บนดาร์กเน็ต สร้างรายได้มหาศาลจากการซื้อขายบัญชีผู้ใช้งาน ช่องโหว่ กระทั่งสิทธิ์การเข้าถึงระบบ
ฟอร์ติเน็ต ผู้นำระดับโลกด้านไซเบอร์ซีเคียวริตี้ที่ขับเคลื่อนการผสานรวมของระบบเครือข่ายและระบบรักษาความปลอดภัยเข้าด้วยกัน
เปิดเผยข้อมูลในรายงานภัยคุกคามทางไซเบอร์ทั่วโลกล่าสุดประจำปี 2568 จาก FortiGuard
Labs (2025
Global Threat Landscape Report from FortiGuard Labs) ซึ่งสรุปแนวโน้มและภาพรวมภัยคุกคามที่โจมตีอย่างจริงจังตั้งแต่ปี
2567 รวมถึงการวิเคราะห์ข้อมูลที่ครอบคลุมทุกกลเม็ดที่แฮกเกอร์นำมาใช้ในการโจมตีทางไซเบอร์ ตามที่ระบุอยู่ในเฟรมเวิร์ก
MITRE ATT&CK (Adversarial
Tactics, Techniques, and Common Knowledge) จากข้อมูลพบว่า ผู้คุกคามทางไซเบอร์ใช้ประโยชน์จากระบบอัตโนมัติมากขึ้น
รวมถึงเครื่องมือที่หาซื้อได้ทั่วไป และยังใช้ AI ในการบ่อนทำลายการป้องกันแบบดั้งเดิมทีละขั้นตอนอย่างเป็นระบบ
“รายงานภาพรวมภัยคุกคามทั่วโลกล่าสุดของเราแสดงให้เห็นชัดเจนว่า อาชญากรทางไซเบอร์กำลังเร่งเครื่องการโจมตี โดยนำเทคโนโลยี AI และระบบอัตโนมัติ มาใช้ในการโจมตีด้วยความเร็ว พร้อมขยายขอบเขตการโจมตีอย่างที่ไม่เกิดขึ้นมาก่อน ทำให้แนวทางการรักษาความปลอดภัยแบบเดิมไม่เพียงพออีกต่อไป องค์กรต่างๆ ต้องปรับตัวสู่การป้องกันเชิงรุก ที่อาศัยกลยุทธ์ด้านข้อมูลข่าวกรองที่ฉลาดทันการณ์ ขับเคลื่อนด้วยขุมพลังของ AI รวมถึงแนวทาง Zero Trust และการบริหารความเสี่ยงจากภัยคุกคามอย่างต่อเนื่อง มาช่วยรับมือกับภัยคุกคามที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วในปัจจุบัน” เดเรค แมนคีย์ ประธานฝ่ายกลยุทธ์ด้านความปลอดภัย และรองประธานอาวุโสฝ่ายข่าวกรองภัยคุกคามระดับโลก ของ Fortinet FortiGuard Labs กล่าว
ประเด็นสำคัญจากรายงานภัยคุกคามทั่วโลกของ FortiGuard Labs ฉบับล่าสุด มีดังนี้
· การอาชญากรรมไซเบอร์โดยใช้ AI ขยายตัวอย่างรวดเร็ว ผู้คุกคามเริ่มใช้
AI มาช่วยสร้างอีเมลฟิชชิงที่สมจริง
และหลบเลี่ยงระบบรักษาความปลอดภัยแบบดั้งเดิม
ทำให้โจมตีได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น เครื่องมือ อย่าง
FraudGPT, BlackmailerV3 และ
ElevenLabs
ช่วยให้แคมเปญต่างๆ ที่สร้างเพื่อการโจมตีดูน่าเชื่อถือ ให้ประสิทธิภาพมากขึ้น อีกทั้งขยายวงในการโจมตีได้ง่าย โดยไม่มีข้อจำกัดทางจริยธรรมแบบเครื่องมือ AI ที่ใช้กันทั่วไป
สิ่งที่ CISO ควรพิจารณา คือการเสริมแกร่งการป้องกันทางไซเบอร์เพื่อรับมือกับภัยคุกคามที่มาใหม่
รายงานภาพรวมภัยคุกคามทั่วโลกของฟอร์ติเน็ต (Global Threat Landscape Report) นำเสนอรายละเอียดเชิงลึกเกี่ยวกับกลยุทธ์และเทคนิคการโจมตีล่าสุด
พร้อมด้วยคำแนะนำที่นำไปปฏิบัติได้จริง
รายงานนี้ออกแบบมาเพื่อเสริมศักยภาพให้กับ CISO และทีมรักษาความปลอดภัย
โดยนำเสนอแนวทางในการรับมือกับผู้ประสงค์ร้ายก่อนที่จะลงมือโจมตี
ช่วยให้องค์กรสามารถอยู่เหนือภัยคุกคามทางไซเบอร์รูปแบบใหม่ได้
รายงานในปีนี้ยังรวมถึง
"คู่มือป้องกันภัยคุกคามสำหรับ CISO" ซึ่งเน้นประเด็นเชิงกลยุทธ์ที่มุ่งเน้นในเรื่องต่อไปนี้
·
การเปลี่ยนจากการตรวจจับภัยคุกคามแบบเดิมๆ มาเป็นการบริหารจัดการความเสี่ยงจากภัยคุกคามอย่างต่อเนื่อง แนวทางเชิงรุกนี้ เน้นการจัดการช่องทางการโจมตีอย่างต่อเนื่อง ด้วยการจำลองพฤติกรรมของผู้ประสงค์ร้ายในสถานการณ์จริง
จัดลำดับความสำคัญของการแก้ไขตามความเสี่ยง รวมถึงใช้ระบบอัตโนมัติในการตรวจจับและตอบสนองต่อภัยคุกคาม
ซึ่งการใช้เครื่องมือ Breach and Attack
Simulation (BAS) เพื่อประเมินการป้องกันของอุปกรณ์ปลายทาง
เครือข่าย และระบบคลาวด์ เป็นประจำโดยเทียบกับการโจมตีในสถานการณ์จริง
จะช่วยให้มั่นใจว่าสามารถรับมือกับความเคลื่อนไหวในการโจมตีได้อย่างมีประสิทธิภาพ
·
จำลองการโจมตีในสถานการณ์จริง ฝึกซ้อมการจำลองการโจมตีของผู้ประสงค์ร้าย การทดสอบด้วยการจำลองการโจมตีร่วมกันทั้งในบทของผู้โจมตีและผู้ป้องกัน
(Red and Purple Teaming)
และใช้เฟรมเวิร์ก MITRE ATT&CK เพื่อทดสอบการป้องกันภัยคุกคาม เช่น แรนซัมแวร์และแคมเปญการก่อจารกรรม
·
ลดช่องทางการโจมตี ใช้เครื่องมือ
Attack
Surface Management (ASM) เพื่อตรวจจับทรัพย์สินที่ถูกเปิดเผยต่อสาธารณะ
รวมถึงข้อมูลส่วนตัวที่รั่วไหล
และช่องโหว่ที่สามารถโจมตีได้ พร้อมทั้งตรวจสอบฟอรัมพูดคุยในตลาดมืดอย่างต่อเนื่องเพื่อหาภัยคุกคามที่กำลังเกิดขึ้น
·
จัดลำดับความสำคัญของช่องโหว่ที่มีความเสี่ยงสูง มุ่งเน้นที่การแก้ไขช่องโหว่ที่กลุ่มอาชญากรไซเบอร์กำลังพูดถึงอย่างจริงจัง
โดยใช้กรอบการจัดลำดับความสำคัญตามความเสี่ยง เช่น EPSS และ CVSS
เพื่อการจัดการแพตช์ที่มีประสิทธิภาพ
· ใช้ประโยชน์จากข่าวกรองในตลาดมืด ตรวจสอบตลาดมืดเพื่อหาบริการแรนซัมแวร์ที่กำลังเกิดขึ้น และตามติดความเคลื่อนไหวในการร่วมมือกันระหว่าง Hacktivist เพื่อป้องกันและลดผลกระทบของภัยคุกคาม เช่น การโจมตีแบบ DDoS และการโจมตีด้วยการเปลี่ยนหน้าเว็บไซต์ (Web Defacement)
ศึกษารายละเอียดเกี่ยวกับบริการ FortiGuard
Labs Advisory Services ว่ามีการผสานรวมเทคโนโลยีล้ำหน้าและบริการจากผู้เชี่ยวชาญอย่างไร
เพื่อช่วยองค์กรเสริมสร้างความมั่นคงด้านความปลอดภัยก่อนที่จะเกิดภัยคุกคามขึ้น
ในกรณีที่เกิดเหตุการณ์ FortiGuard
Labs พร้อมให้บริการตอบสนองภัยคุกคามที่รวดเร็วและมีประสิทธิภาพ
รวมถึงการวิเคราะห์ทางนิติวิทยาศาสตร์เชิงลึก
เพื่อลดผลกระทบและป้องกันการบุกรุกในอนาคต ให้การปกป้องที่ครอบคลุมท่ามกลางสภาพแวดล้อมทางดิจิทัลในปัจจุบันที่มีความผันผวนมากขึ้น
เกี่ยวกับฟอร์ติเน็ต
ฟอร์ติเน็ต คือแรงขับเคลื่อนเพื่อพัฒนาความปลอดภัยทางไซเบอร์พร้อมผสานรวมเน็ตเวิร์กกิ้งและซีเคียวริตี้เข้าด้วยกัน
ภารกิจของเราคือการรักษาความปลอดภัยให้กับผู้คน อุปกรณ์
และข้อมูลที่มีอยู่ในทุกที่
และวันนี้เรามอบความปลอดภัยทางไซเบอร์ให้กับคุณในทุกที่ที่ต้องการด้วยกลุ่มผลิตภัณฑ์แบบบูรณาการที่ใหญ่ที่สุดในระดับเอ็นเตอร์ไพร์ซ
(Enterprise-Grade) กว่า 50 รายการ
โดยมีลูกค้าจำนวนเกินครึ่งล้านให้ความไว้วางใจในโซลูชันต่างๆ ของฟอร์ติเน็ต
ซึ่งเป็นหนึ่งในโซลูชันที่มีการใช้งานมากที่สุด มีจำนวนการจดสิทธิบัตรมากที่สุด
และผ่านการตรวจสอบมากที่สุดในอุตสาหกรรม สถาบันฝึกอบรม Fortinet (Fortinet Training Institute) หนึ่งในโปรแกรมการฝึกอบรมที่ใหญ่ที่สุดและครอบคลุมที่สุดในอุตสาหกรรม
ที่ทุ่มเทให้กับการฝึกอบรมด้านความปลอดภัยไซเบอร์และโอกาสทางอาชีพใหม่ๆ
สำหรับทุกคน FortiGuard Labs ซึ่งเป็นองค์กรข่าวกรองและวิจัยภัยคุกคามระดับแนวหน้าของฟอร์ติเน็ตพัฒนาและใช้เทคโนโลยีการเรียนรู้ของเครื่องมือและ
AI
ระดับแถวหน้า
เพื่อให้ลูกค้าได้รับการป้องกันได้อย่างทันท่วงทีตลอดเวลา
รวมถึงข่าวกรองภัยคุกคามที่ใช้ดำเนินการได้จริง เรียนรู้เพิ่มเติมได้ที่ https://www.fortinet.com Fortinet Blog และ FortiGuard Labs