ปิยวรรณ ลีละสมภพ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ฝ่ายการตลาด บริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ CRC กล่าวว่า “ แนวคิดการพัฒนาองค์กรอย่างยั่งยืน (ESG) ได้กลายเป็นมาตรฐานระดับโลก โดย 85% ของนักลงทุนและผู้ถือหุ้นให้ความสำคัญกับองค์กรที่ให้ความสำคัญกับเรื่อง ESG มากกว่าความสำเร็จทางธุรกิจเพียงอย่างเดียว เซ็นทรัล รีเทล จึงเริ่มใช้กลยุทธ์ CRC ‘ReNEW’ ตั้งแต่ปี 2565 เพื่อขับเคลื่อนธุรกิจควบคู่ไปกับการดูแลสังคม และสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืนครอบคลุมในทุกมิติ พร้อมทั้งผสานเข้ากับการดำเนินธุรกิจอย่างชัดเจนและเป็นรูปธรรม โดยในปี 2567 บริษัทได้ดำเนินงานด้าน ESG ที่สร้างผลลัพธ์เชิงบวกอย่างเป็นระบบ จนได้รับการคัดเลือกให้เป็นบริษัทที่มีความเป็นเลิศด้านความยั่งยืน การันตีจากการคว้ารางวัลทั้งในประเทศและระดับสากล พร้อมทั้งยังติดกลุ่มดัชนี DJSI World ต่อเนื่อง 2 ปีซ้อน และ Emerging Markets ต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 รวมถึงได้รับการประเมิน
S&P Global CSA Score สูงถึง 84 คะแนน อีกทั้งติดอันดับ Top 3 ในหมวด Retailing Industry สะท้อนถึงศักยภาพขององค์กรค้าปลีกและค้าส่งต้นแบบด้านความยั่งยืนของเอเชีย โดยมีผลลัพธ์ความสำเร็จที่โดดเด่นดังนี้
Re: Reduce Greenhouse Gas Emissions เซ็นทรัล รีเทล ให้ความสำคัญกับการใช้พลังงานหมุนเวียนและลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกผ่านโครงการสำคัญ
ๆ ไม่ว่าจะเป็น
· การติดตั้งโซลาร์เซลล์บนหลังคาศูนย์การค้า อาคาร และคลังสินค้ากว่า 160
แห่ง ในประเทศไทย เช่น คลังสินค้าไทวัสดุ,
ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล, ศูนย์การค้าโรบินสันไลฟ์สไตล์, ท็อปส์, โก โฮล์เซลล์
และประเทศเวียดนามที่ซูเปอร์มาร์เก็ต มินิ โก! (go!) ลานชี มาร์ท ไฮเปอร์มาร์เก็ต และเหงียนคิม ซึ่งช่วยทดแทนการใช้พลังงานไฟฟ้าได้ถึง
16% ของพลังงานทั้งหมด ช่วยลดการพึ่งพาพลังงานแบบดั้งเดิม ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม
และช่วยลดคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า 86,612 ตัน
· การเลือกใช้รถบรรทุกไฟฟ้าพลังงานสะอาด (EV
Truck) 28 คัน และรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าพลังงานสะอาด 48 คัน ในศูนย์กระจายสินค้าของเซ็นทรัล, ท็อปส์, ไทวัสดุ และการจัดส่งสินค้าระยะสั้นของโก
โฮล์เซลล์ ทั้งหมดนี้สามารถช่วยลดการใช้น้ำมันดีเซลมากกว่า 661,806 ลิตรต่อปี และลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์
1,740 เมตริกตันต่อปี
·
การติดตั้งสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า
(EV Charging Stations) 63 จุด ทั้งในศูนย์การค้าและห้างสรรพสินค้าในประเทศไทยและประเทศเวียดนาม
รองรับการชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าได้พร้อมกัน 795 คัน เพื่อสนับสนุนการใช้ยานยนต์พลังงานสะอาดทั้งในกลุ่มพนักงานและลูกค้า
· การใช้ตู้แช่ประหยัดพลังงานกว่า 2,163 ตู้ ในร้านค้าของท็อปส์ และโก โฮล์เซลล์ ช่วยลดการใช้พลังงานไฟฟ้า และยกระดับมาตรฐานการอนุรักษ์พลังงานในธุรกิจค้าปลีกค้าส่ง และสร้างแรงบันดาลใจให้ผู้ประกอบการหันมาใส่ใจสิ่งแวดล้อมมากขึ้น
N: Navigate Environmental Responsibility เน้นการพัฒนาศักยภาพด้านความยั่งยืนของพนักงานและ คู่ค้าในห่วงโซ่อุปทานอย่างต่อเนื่อง
ผ่านการดำเนินงานและโครงการดังนี้
·
การดำเนินการจัดโครงการพัฒนาความยั่งยืน
(Sustainability Development Program) เพื่อสร้างความตระหนักรู้ด้านความยั่งยืนให้กับพนักงาน
โดยในปี 2567 มีพนักงานเข้าร่วมกว่า 400 คน
ช่วยเสริมสร้างองค์ความรู้ ความเข้าใจ
และสามารถนำไปประยุกต์ใช้ในการทำงานเพื่อขับเคลื่อนองค์กรสู่ความยั่งยืน
· ประเมินคู่ค้าตามหลักเกณฑ์ ESG อย่างต่อเนื่อง โดยปัจจุบัน มีคู่ค้าที่ผ่านการประเมินแล้วกว่า 1,014 ราย พร้อมกำหนดให้คู่ค้ารายใหม่ทุกรายต้องผ่านการคัดกรองมาตรฐาน ESG 100% เพื่อช่วยยกระดับมาตรฐานธรรมาภิบาลและความรับผิดชอบต่อสังคมในห่วงโซ่อุปทาน
E: Eco-Friendly Materials ส่งเสริมการใช้วัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมผ่านการดำเนินงานในหลายด้าน
อาทิ
·
Healthiful ร้านค้าที่ขายสินค้าและอาหารเพื่อสุขภาพที่ใช้บรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ปัจจุบันมีสาขากว่า 86 แห่ง ในท็อปส์ทั่วประเทศ เพื่อเป็นทางเลือกให้กับผู้บริโภคที่ใส่ใจสุขภาพ
·
เพิ่มสัดส่วนการใช้บรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
ในประเทศไทยธุรกิจในเครือของเซ็นทรัลรีเทล มีการใช้บรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมคิดเป็น
16% ของทั้งหมด รวมถึงการใช้วัสดุที่ย่อยสลายได้ง่าย,
พลาสติกรีไซเคิลและวัสดุรีไซเคิลในการผลิตบรรจุภัณฑ์
· ให้ความสำคัญกับการใช้วัสดุที่ผ่านการรีไซเคิลและได้รับมาตรฐาน เพื่อส่งเสริมธุรกิจที่มีความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมและลดผลกระทบต่อโลก
W: Waste Management Solutions มีการวางรากฐานการบริหารจัดการขยะอย่างเป็นระบบและยั่งยืน
ผ่านแนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียน เช่น
· ดำเนินโครงการ Reuse และ Recycle ขยะจากการดำเนินงานกว่า 7,649 ตัน เช่น กล่องลังกระดาษและกล่องพลาสติก ช่วยลดปริมาณขยะที่ส่งไปยังหลุมฝังกลบ และเลือกใช้ทรัพยากรในการผลิตบรรจุภัณฑ์ใหม่เท่าที่จำเป็น
มีการใช้ตาข่ายคลุมสินค้าแบบใช้ซ้ำ (Reusable Nets) และรถเข็นกระจายสินค้าขนาดใหญ่ (Extra Roll Cages) ในศูนย์กระจายสินค้าของไทวัสดุ ทดแทนฟิล์มยืดแบบใช้ครั้งเดียว ลดการใช้ฟิล์มยืดได้ 11 ตันต่อปี เพิ่มพื้นที่บรรจุสินค้าได้ 2 เท่า
· มีการใช้กระดาษไดคัทแทนบับเบิ้ลแรปในศูนย์กระจายสินค้าของกลุ่มธุรกิจแฟชั่นภายใต้ เซ็นทรัล มาร์เก็ตติ้ง กรุ๊ป ช่วยลดพลาสติกห่อสินค้าได้กว่า 600 กิโลกรัม
ทั้งนี้ เซ็นทรัล รีเทล
ยังคงเดินหน้าด้วยความมุ่งมั่นในแนวทางการพัฒนาอย่างยั่งยืน
ไม่ใช่เพียงเพื่อการเติบโตขององค์กรเท่านั้น
แต่ยังมุ่งเน้นการสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีอย่างแท้จริงให้กับชุมชนและสังคมในระยะยาว
โดยมีเป้าหมายสำคัญในการก้าวสู่การเป็นองค์กร Net Zero ภายในปี 2593 พร้อมส่งต่อโลกที่น่าอยู่ยิ่งขึ้นให้กับเจเนอเรชันต่อไปในอนาคต”
นางสาวปิยวรรณ กล่าวสรุป
เกี่ยวกับเซ็นทรัล รีเทล
บริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ เซ็นทรัล รีเทล เป็นผู้นำธุรกิจค้าปลีกสินค้าหลากหลายประเภทผ่านรูปแบบและช่องทางที่หลากหลาย (Multi-format and Multi-category) ในประเทศไทย และมีการขยายธุรกิจไปต่างประเทศ โดยเป็นผู้นำในประเทศอิตาลีและเป็นหนึ่งในผู้นำในประเทศเวียดนาม เครือข่ายร้านค้าภายใต้แบรนด์ค้าปลีกและค้าส่งทั้งหมด 3,852 ร้านค้า (ข้อมูล ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2567) อาทิ ห้างสรรพสินค้า ร้านขายสินค้าเฉพาะทาง ศูนย์ค้าส่งวัตถุดิบอาหาร ซูเปอร์มาร์เก็ต ไฮเปอร์มาร์เก็ต พลาซ่า และการจำหน่ายสินค้าออนไลน์บนแพลตฟอร์ม Omnichannel โดยธุรกิจของเซ็นทรัล รีเทล ครอบคลุมทั้งหมด 5 กลุ่มธุรกิจ ได้แก่ (1) กลุ่มฟู้ด ซึ่งมุ่งเน้นการจำหน่ายสินค้าอุปโภค-บริโภค และสินค้าที่มักพบได้ทั่วไปในร้านซูเปอร์มาร์เก็ต มินิซูเปอร์มาร์เก็ต และศูนย์ค้าส่งวัตถุดิบอาหารภายใต้แบรนด์ค้าปลีกและค้าส่งต่างๆ เช่น ท็อปส์ ท็อปส์ ฟู้ดฮอลล์ ท็อปส์ ไฟน์ ฟู้ด ท็อปส์ เดลี่ โก โฮลเซลล์ ในประเทศไทย ส่วนประเทศเวียดนาม ได้แก่ บิ๊กซี/ โก (GO!) ท็อปส์ มาร์เก็ต มินิ โก (go!) และ ลานชี มาร์ท (2) กลุ่มฮาร์ดไลน์ ซึ่งมุ่งเน้นการจำหน่ายสินค้าตกแต่งและปรับปรุงบ้าน สินค้าอิเล็กทรอนิกส์ เครื่องเขียนและอุปกรณ์สำนักงาน หนังสือ และ e-Book ภายใต้แบรนด์ค้าปลีกต่าง ๆ เช่น ไทวัสดุ บีเอ็นบี โฮม เพาเวอร์บาย ออฟฟิศเมท บีทูเอส เมพ และเหงียนคิม (3) กลุ่มแฟชั่นซึ่งมุ่งเน้นการจำหน่ายสินค้าเครื่องแต่งกายและเครื่องประดับภายใต้แบรนด์ค้าปลีกต่างๆ เช่น ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล ห้างสรรพสินค้าโรบินสัน ห้างสรรพสินค้ารีนาเชนเต ซูเปอร์สปอร์ต และ เซ็นทรัล มาร์เก็ตติ้ง กรุ๊ป และ (4) กลุ่มพร็อพเพอร์ตี้ ซึ่งมุ่งเน้นการให้เช่าพื้นที่ สำหรับร้านค้าของกลุ่มบริษัทฯ และร้านค้าและบริการของบุคคลภายนอก เช่น โรบินสัน ไลฟ์สไตล์ ท็อปส์ พลาซ่า และ บิ๊กซี / GO! เวียดนาม (5) กลุ่มเฮลธ์แอนด์ เวลเนส ซึ่งมุ่งเน้นการจำหน่ายและให้บริการด้านสุขภาพคนและสัตว์เลี้ยง เช่น ท็อปส์แคร์ ท็อปส์วีต้า และ เพ็ทแอนด์มี โดย ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2567 เซ็นทรัล รีเทล ดำเนินธุรกิจใน 3 ประเทศ ได้แก่ ประเทศไทย ทั้งหมด 62 จังหวัด ประเทศเวียดนาม ทั้งหมด 43 จังหวัดและประเทศอิตาลี ในเมืองหลักๆ ทั่วประเทศ